xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้พันตึ๋ง” นายพันอันตราย! ผู้เกิดมาพร้อม “เพชฌฆาตฤกษ์”!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คำพิพากษาของศาลฎีกา ซึ่งพิพากษายื่นตามศาลชั้นอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ “ผู้พันตึ๋ง” ส.อ.มานิตย์ ศรีสะอาด และส.อ.สุวัฒน์ คำเหง้า จำเลยในคดีร่วมกันสังหารนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ขณะยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ภายในห้องพักเลขที่ 4006 โรงแรมรอยัลแปซิฟิก ย่านพระราม 9 กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2544 รวมระยะเวลาเกือบ 6 ปี ซึ่งทุกคนอยากที่จะรู้ว่า ผลสิ้นสุดแห่งคดีจะเป็นเช่นใด และได้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ตามคำพิพากษาแล้วว่า “ให้ประหารชีวิตสถานเดียว”


“ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์” มิได้มีเจตนาที่จะซ้ำเติมทับถมตระกูล “มัจฉากล่ำ” แต่อยากนำเสนอไว้เป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับเรื่องราวย้อนอดีตในเส้นทางจากนักเรียนอาชีวะ เข้าสู่เส้นทางนักเลง และเส้นทางทหารของ “พ.ต.เฉลิมชัย” แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว พ.ต.เฉลิมชัย กลับเลือกที่จะเดินไปในเส้นทางนักเลง โดยมีเครื่องแบบทหารเป็นเกราะกำบัง จนกระทั่งมาต้องคำพิพากษาดังกล่าวอย่างชนิดไร้หนทางเยียวยา!

พ.ต.เฉลิมชัย หรือผู้พันตึ๋ง เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2496 เป็นบุตรของ พ.ท.ยอดชัย-นางบัวกลีบ มัจฉากล่ำ จบการศึกษาระดับ ปวส.ที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ แผนกเทคนิคอุตสาหกรรม ระหว่างที่เป็นนักเรียนอาชีวะ เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองเมื่อ 14 ต.ค.2516 นายเฉลิมชัย หรือตึ๋ง ถูก พล.ต.สุตสาย หัสดิน ชักนำเข้าสู่กลุ่ม “กระทิงแดง” ไว้ต่อต้านและคอยปั่นป่วนยุยงกลุ่มพลังนิสิตนักศึกษาในขณะนั้น ซึ่งนายเฉลิมชัย หรือตึ๋ง ก็ไม่ทำให้ พล.ต.สุตสายผิดหวัง หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายเฉลิมชัยได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. และต่อมานายเฉลิมชัยเข้าสอบบรรจุเป็นทหารได้ ติดยศว่าที่ร้อยตรี ประจำ ศรภ. หรือศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด จากนั้นรับราชการเรื่อยมาจนกระทั่ง พ.ศ.2531 ได้เลื่อนยศเป็น “พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ” และตั้งแต่นั้นมาชื่อ “ผู้พันตึ๋ง” ก็ปรากฏตามข่าวหนังสือพิมพ์หน้า 1 เป็นประจำที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของนักเลง-มาเฟีย-ผู้มีอิทธิพล!

ข่าวเก็บค่าคุ้มครองจากพ่อค้าแม่ค้าตลาดไนท์บาซาร์ เมืองเชียงใหม่ ปรากฏชื่อ “ผู้พันตึ๋ง” เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีหลักฐานเอาผิดกับนายพันอันตรายผู้นี้ได้ จากนั้นระบบทวงหนี้ด้วยวิธีที่อ้างว่าเป็นวิธีการทวงหนี้อย่างทหารก็ถูกนำมาใช้ โดยผู้พันตึ๋งก็มักตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีชื่อเข้าไปพัวพันทุกครั้ง

ว่ากันว่าวิธีการทวงหนี้ดังกล่าวจะเริ่มจาก เจ้าหนี้ไปติดต่อว่าจ้างผู้ทวงหนี้ว่าจะส่วนแบ่งกันกี่เปอร์เซ็นต์ ก็แล้วแต่งานหินหรือหมู จากนั้นผู้ทวงหนี้จะกำชับเจ้าหนี้ไม่ให้ใจอ่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ให้ติดต่อกับลูกหนี้เด็ดขาดจนกว่าจะได้หนี้สินครบจากลูกหนี้จึงจะยอมรับงาน เมื่อตกลงด้วยหลักการที่ว่านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีมงานทวงหนี้ก็จะส่ง “จดหมายน้อย” พร้อมลูกปืน 1 ลูก ไปแปะติดไว้ที่ประตูหน้าบ้าน หากลูกหนี้ “หมู” งานทวงหนี้ก็จะสิ้นสุดลงแค่นั้น แต่หากลูกหนี้ “หิน” กรรมวิธีดำเนินการขั้นต่อไปก็จะตามมา โดยลูกหนี้อาจถึงขั้นเลือดตกยางออกบ้างแล้วแต่กรณี

เส้นทางสายนักเลงที่ “ผู้พันตึ๋ง” เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นที่รู้กันว่านายพันผู้นี้ไม่ได้โดดเดี่ยวบนเส้นทางดังกล่าว แต่มีระดับ “บิ๊ก” หนุนหลัง จนเชื่อกันว่า “ผู้พันตึ๋ง” หลงและเหลิงไปกับอำนาจวาสนาที่ตนเองได้รับ โดยไม่เกรงกลัวแม้กระทั่ง “กฎหมาย”

ภาพวันที่ พ.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผกก.2 ป.(ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง ผบก.ป.ในขณะนั้น ให้ไปจับกุมตัวผู้พันคนดังในค่ายมวย “ศิษย์ผู้พันตึ๋ง” ของ พ.ต.เฉลิมชัยเอง ในขณะที่ พ.ต.ท.สมพงษ์เข้าจับกุม “ผู้พันตึ๋ง” ซึ่งสวมเครื่องแบบนายทหารยศ พ.ต. ร้องตะโกนว่า “ผมเป็นทหารๆ” อยู่เช่นนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถทัดทาน “กฎหมาย” ได้

จากวันนั้น พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ตกเป็นผู้ต้องหาและกลายเป็นจำเลยในคดีร่วมกันสังหารนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร โดยพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึง พ.ต.เฉลิมชัย กับพวกที่ได้เข้าไปเปิดห้องพักในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุภายภายในโรงแรมเดียวกัน นอกจากนี้ จากการเข้าตรวจค่ายมวยศิษย์ผู้พันตึ๋ง พบกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ แผนผังห้องพักของโรงแรม และยังพบคราบเลือดที่แป้นเบรกภายในรถยนต์อีซูซุ ทรูเปอร์ ทะเบียน กท-3965 เชียงใหม่ ของผู้พันตึ๋ง ซึ่งภายหลังการตรวจพิสูจน์ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์พบว่า เป็นคราบเลือดของนายปรีณะ แต่กระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องผู้พันตึ๋ง จากนั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ประหารชีวิตสถานเดียว และในวันนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาก็พิพากษายืนให้ “ประหารชีวิต” สถานเดียว ปิดฉากเส้นทางนักเลง และมีอันต้องปิดฉากชีวิตของ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ทั้งตามกฎแห่งกรรม และตามตัวบทกฎหมายด้วย

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋งนั้น ถือกำเนิดเกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2496 เวลา 14.00 น. ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 7 ค่ำ เดือน 8 (หลัง) ปีมะเส็ง ตามโหราศาสตร์แล้ว วันเวลาที่เขาเกิด ถือเป็น “เพชฌฆาตฤกษ์” เป็นฤกษ์ของผู้ที่กำเนิดมาเพื่อเป็นเพชฌฆาต และท้ายที่สุดแล้วยังเป็นฤกษ์ของผู้ที่ถือกำเนิดมาให้มีอันต้องสิ้นสุดและจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของ “เพชฌฆาต” เช่นกัน!


กำลังโหลดความคิดเห็น