ก.ต.เห็นชอบ “ภัทรศักดิ์ วรรณแสง” นั่งเก้าอี้ เลขาธิการประธานศาลฎีกา แทน “จรัญ ภักดีธนากุล” พร้อมแต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาศาลชั้นต้น - อุทธรณ์ อีก 84 ตำแหน่ง
วันนี้ (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุมคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) อาคารศาลยุติธรรม สนามหลวง นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ประชุม ก.ต.ครั้งที่ 24/2549 เพื่อพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตุลาการ โดยที่ประชุม ก.ต.เห็นชอบแต่งตั้งให้ นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการประธานศาลฎีกา แทน นายจรัญ ภักดีธนากุล ที่ไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์
นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ว่าที่เลขาธิการศาลฎีกาคนใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2501 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 2), เนติบัณฑิตไทย ปี 2522, นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2529 เข้ารับราชการครั้งแรก ปี 2523 เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าสู่วงการตุลาการเมื่อปี 2527 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา, ปี 2528 ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ปี 2529 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดกำแพงเพชร ปี 2535 เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะประจำกระทรวง ปี 2536 เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าในศาลจังหวัดนนทบุรี ปี 2537 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ปี 2539 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปี 2540 ผุ้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2543 ผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญากลาง ปี 2545 ผู้พิพากษาหัวคณะศาลทรัพย์สินทางปัญญากลาง และรองอธิบดีศาลทรัพย์สินทางปัญญากลาง ปี 2546 เป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญากลาง ปี 2547 ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ก่อนก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการศาลฎีกาคนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549 ถือเป็นผู้พิพากษาหนุ่ม รุ่นใหม่ไฟแรงที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญพัฒนาสถาบันตุลาการให้เจริญก้าวหน้า เพราะมีความรู้ความสามารถทั้งทางพิจารณาคดีแพ่ง-อาญา และศาลชำนัญพิเศษ รวมทั้งงานวิชาการ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ดูแลสถาบันวิจัยรพีพัฒนศักดิ์ และสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการอีกด้วย
นอกจากนื้ ก.ต.ยังพิจารณาเห็นชอบแต่งโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งผู้พิพากษาชั้น 4 อีก 32 ตำแหน่ง อาทิ ให้ นายสมจิตร์ ทองศรี ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีแรงงาน, นายประสิทธิ์ ศักดิ์ศรีมณีกูล ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา
ทั้งนี้ ที่ประชุม ก.ต.ยังเห็นชอบแต่งตั้งผู้พิพากษาชั้น 3 เลื่อนจากผู้พิพากพากษาศาลชั้นต้นขึ้นเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รวม 52 ตำแหน่ง ที่น่าสนใจ อาทิ นายอำนวย ธันธรา อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7, นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา, นายอาคม รุ่งแจ้ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายสมบูรณ์ วัฒนพรมงคล อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9, นายฉกาจกิต พัฒนานุพงษ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 1 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นางวราภรณ์ สหัสโพธิ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9, นายนพรัตน์ สี่ทิศประเสริฐ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งธนบุรี เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
นางนวลทิพย์ ฉัตรชัยสกุล อธิบดีผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์,นายสมศักดิ์ จันทกุล อธิบดีผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายสุพิศ ปราณีตพลกรัง อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 7 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธณ์ภาค 8, นายสันทัด สุจริต อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 2 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายชูเกียรติ ดิลกแพทย์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาษีอากรกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา, นายอมรเทพ การะโชติ อธิบดีผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายชัยพร สมบุญวงค์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายชัยพัฒน์ ชินวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 3 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9, นายสมศักดิ์ ขวัญแก้ว อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 8 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8, นายพงษ์ศักดิ์ กิติสมเกียรติ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 4 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8, นายวิชิต ทัศนานุกุลกิจ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 9 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 และนายบุญทอง ปลื้มวรสวัสดิ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 2 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
นายอนันต์ เสนคุ้ม รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายวิชาญ กาญจนะ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8, นายชาญรงค์ ปราณีจิตต์ รองอธิบดีศาลอาญา เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายประเวศ สุธรรมชัย รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8, นายวรพจน์ วัชรางค์กุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
นายวิชาญ ศิริเศรษฐ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8, นายปุณณะ จงนิมิตรสถาพร รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา, นายเศกสิทธิ์ สุขใจ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2, นางณณัฏฐ์ ธีราทรง รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5, นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และ นายไชยผล สุรวงษ์สิน รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549 เป็นต้นไป