ที่ประชุม ก.บ.ศ.เลือก “พินิจ สุเสารัช” เป็นเลขาธิการศาลยุติธรรมคนใหม่ แทน “ชัช ชลวร” ที่ขอโอนกลับไปเป็นตุลาการตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่ห้องประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ) สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมพิจารณาวาระการแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนใหม่ แทน นายชัช ชลวร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนเดิม ซึ่งขอโอนกลับไปเป็นตุลาการตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ภายหลังจาก ก.บ.ศ.กำหนดให้กรรมการแต่ละคนเสนอชื่อผู้พิพากษา ซึ่งสมควรได้รับเลือกเป็นเลขาธิการศาลยุติธรรมในวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวัฒนชัย โชติชูตระกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และ ก.บ.ศ.ประจำศาลฎีกาเสนอชื่อนายพินิจ สุเสารัจ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา และปรากฏว่า ไม่มี ก.บ.ศ.คนใดเสนอชื่อผู้อื่นเข้าแข่งขัน จึงทำให้นายพินิจได้รับการเสนอชื่อแต่ผู้เดียว
มีรายงานว่า ก.บ.ศ.ให้ นายพินิจ แสดงวิสัยทัศน์จากนั้นลงมติ 13 ต่อ 1 เสียงเลือกนายพินิจเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนใหม่ ครั้งนี้ นายพินิจ ได้รับเสียงเกือบเอกฉันท์ เพราะไม่มีผู้เข้าแข่งขัน ส่วนกรรมการอีก 3 คนที่ไม่เข้าประชุม คือ นายพินิจ ซึ่งเป็น ก.บ.ศ.ประจำศาลอุทธรณ์ เมื่อได้รับการเสนอชื่อต้องออกจากห้อง ส่วน นายศิริชัย จิระบุญศรี ก.บ.ศ.ประจำศาลฎีกาไปเป็นคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) และนางโฉมศรี อารยะศิริ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก.บ.ศ.คนนอกขาดประชุม สำหรับผู้งดออกเสียงไม่ทราบว่าเป็นใครเนื่องจากเป็นการลงคะแนนลับ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ตามระเบียบหลัง ก.บ.ศ.เลือกนายพินิจแล้ว จะต้องเสนอเรื่องให้ ก.ต.พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุม ก.ต.ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ไม่มีกฎระเบียบกำหนดวาระการเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แต่ ก.บ.ศ.เคยลงมติให้ออกระเบียบกำหนดให้มีวาระ 2 ปี เพื่อศาลจะได้มีโอกาสตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ดังนั้น หลังจากนายพินิจมาเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมแล้ว จะต้องเร่งร่างระเบียบกำหนดวาระตำแหน่งดังกล่าวตามที่ ก.บ.ศ.ลงมติไว้ต่อไป
นายพินิจ สุเสารัจ อายุ 57 ปี จบนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย สอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาปี 2524 เคยดำรงตำแหน่งบริหารศาลสำคัญ อาทิ หัวหน้าศาลจังหวัดมีนบุรี, รองอธิบดีศาลภาค 1, รองเลขาธิการส่งเสริมงานตุลาการ, รองปลัดกระทรวงยุติธรรมปี 2544 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกาช่วยราชการในสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรมมาเรื่อยจนปี 2548 ขึ้นระดับผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์และถูกวางตัวให้สืบทอดเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมแทนนายชัช หาก ก.ต.มีมติเห็นชอบคาดว่า นายพินิจ จะเข้ารับตำแหน่ง 1 ต.ค.นี้
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่ห้องประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ) สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมพิจารณาวาระการแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนใหม่ แทน นายชัช ชลวร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนเดิม ซึ่งขอโอนกลับไปเป็นตุลาการตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ภายหลังจาก ก.บ.ศ.กำหนดให้กรรมการแต่ละคนเสนอชื่อผู้พิพากษา ซึ่งสมควรได้รับเลือกเป็นเลขาธิการศาลยุติธรรมในวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวัฒนชัย โชติชูตระกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และ ก.บ.ศ.ประจำศาลฎีกาเสนอชื่อนายพินิจ สุเสารัจ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา และปรากฏว่า ไม่มี ก.บ.ศ.คนใดเสนอชื่อผู้อื่นเข้าแข่งขัน จึงทำให้นายพินิจได้รับการเสนอชื่อแต่ผู้เดียว
มีรายงานว่า ก.บ.ศ.ให้ นายพินิจ แสดงวิสัยทัศน์จากนั้นลงมติ 13 ต่อ 1 เสียงเลือกนายพินิจเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนใหม่ ครั้งนี้ นายพินิจ ได้รับเสียงเกือบเอกฉันท์ เพราะไม่มีผู้เข้าแข่งขัน ส่วนกรรมการอีก 3 คนที่ไม่เข้าประชุม คือ นายพินิจ ซึ่งเป็น ก.บ.ศ.ประจำศาลอุทธรณ์ เมื่อได้รับการเสนอชื่อต้องออกจากห้อง ส่วน นายศิริชัย จิระบุญศรี ก.บ.ศ.ประจำศาลฎีกาไปเป็นคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) และนางโฉมศรี อารยะศิริ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก.บ.ศ.คนนอกขาดประชุม สำหรับผู้งดออกเสียงไม่ทราบว่าเป็นใครเนื่องจากเป็นการลงคะแนนลับ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ตามระเบียบหลัง ก.บ.ศ.เลือกนายพินิจแล้ว จะต้องเสนอเรื่องให้ ก.ต.พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุม ก.ต.ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ไม่มีกฎระเบียบกำหนดวาระการเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แต่ ก.บ.ศ.เคยลงมติให้ออกระเบียบกำหนดให้มีวาระ 2 ปี เพื่อศาลจะได้มีโอกาสตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ดังนั้น หลังจากนายพินิจมาเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมแล้ว จะต้องเร่งร่างระเบียบกำหนดวาระตำแหน่งดังกล่าวตามที่ ก.บ.ศ.ลงมติไว้ต่อไป
นายพินิจ สุเสารัจ อายุ 57 ปี จบนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย สอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาปี 2524 เคยดำรงตำแหน่งบริหารศาลสำคัญ อาทิ หัวหน้าศาลจังหวัดมีนบุรี, รองอธิบดีศาลภาค 1, รองเลขาธิการส่งเสริมงานตุลาการ, รองปลัดกระทรวงยุติธรรมปี 2544 เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกาช่วยราชการในสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรมมาเรื่อยจนปี 2548 ขึ้นระดับผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์และถูกวางตัวให้สืบทอดเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมแทนนายชัช หาก ก.ต.มีมติเห็นชอบคาดว่า นายพินิจ จะเข้ารับตำแหน่ง 1 ต.ค.นี้