โรงเรียนช่างฝีมือทหาร แถลงยืนยัน นักเรียนเสียชีวิตในถังน้ำ ฝึกภาคปฏิบัติการเชื่อมโลหะใต้น้ำ เป็น “อุบัติเหตุ” ย้ำหลังเกิดเหตุนำตัวนักเรียนเคราะห์ร้ายส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนนักเรียนอีกคนที่อาการโคม่าไม่ได้เกิดจากการลงไปฝึกใต้น้ำ แต่ช็อกเพราะเห็นเพื่อนเสียชีวิตถึง 3 คน
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร ถนนพหลโยธิน พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด และโฆษกกองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) พร้อม พล.ร.ต.พจนา เผือกผ่อง ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ร่วมกันแถลงข้อเท็จจริงกรณีนักเรียนโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ชั้นปีที่ 3 แผนกช่างเชื่อมโลหะ ภาคสมทบ จำนวน 3 นาย เสียชีวิต ภายในโรงฝึก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นรู้สึกเสียใจ ซึ่งเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นลูกหลานและเป็นอนาคตของชาติ เป็นที่ซึ่งทุกฝ่ายไม่คาดฝัน ทุกคนเสียใจทั้งนั้น ที่นักเรียนทั้ง 3 คน ต้องมาจบชีวิตก่อนวัยอันควร ส่วนสาเหตุ ต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
พล.ท.พลางกูร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทาง พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งจะเร่งหาข้อสรุปให้ได้เร็วที่สุด เบื้องต้นทางโรงเรียนได้รับผิดชอบในเรื่องของการบำเพ็ญกุศลศพ และความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีสินไหมทดแทนมอบให้ตามนโยบายของ ผบ.สส.ด้วย
ด้าน พล.ร.ต.พจนา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดเหตุในช่วงเช้า นักเรียนทั้งหมดได้เข้าเรียนวิชาเชื่อมตัดโลหะใต้น้ำ โดยมี พ.ต.ทินกร นพคุณ อาจารย์วิชาช่าง แผนกช่างกล กองการฝึกศึกษา โรงเรียนช่างฝีมือทหาร และ จ.ส.อ.จำนง สินธุเดช ผู้ช่วยครูช่าง รับผิดชอบการสอน โดยช่วงเวลา 08.00 น.เป็นการเรียนภาคทฤษฎี วิชาเชื่อมตัดโลหะใต้น้ำ ในหัวข้อ หลักการตัดโลหะใต้น้ำด้วยแก๊ส และช่วงที่ 2 เวลา 09.50 น.เป็นการเรียนภาคปฏิบัติ ซึ่งจะต้องแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย เรียนหลักสูตรการเชื่อมต่างๆ โดยในวันที่เกิดเหตุ จะมีชุดที่ฝึกปฏิบัติการเชื่อมใต้น้ำ ประกอบด้วย นายกฤษณรักษ์ งามสวย อายุ 17 ปี นายณัฐพงศ์ชัย ลิ่มวิไล อายุ 17 ปี และนายกวิน ฉัตรตระกูล อายุ 17 ปี โดยไม่มี นายกิตติภัทร เจริญสุวรรณ ที่ขาดการฝึก เนื่องจากไม่สบาย และ พ.ต.ทินกร ได้สั่งให้นักเรียนทั้ง 3 คน ลงไปฝึกในถังฝึกที่ใส่น้ำสูงประมาณ 180 ซม.เพื่อทดลองนำหัวก๊าซลงใต้น้ำและใช้งาน จนกระทั่งเวลา 11.30 น. จึงปล่อยให้ทั้ง 3 คนไปพักกลางวัน
ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร แถลงอีกว่า ต่อมาในเวลาประมาณ 12.45 น. พ.ต.ทินกร ได้เดินทางกลับมายังโรงฝึก เพื่อสอนภาคปฏิบัติต่อในช่วงบ่าย ซึ่งจะต้องให้นักเรียนทั้ง 3 คน ลงไปทดลองตัดเหล็กใต้น้ำ แต่เมื่อ พ.ต.ทินกร มาถึงกลับพบว่ามีการเปิดไฟสปอตไลต์และไฟส่องลงไปในถังน้ำแล้วจึงรู้สึกผิดสังเกต ทาง พ.ต.ทินกร จึงได้รีบขึ้นไปบนปากถังก็ได้พบสายอากาศสำหรับหายใจใต้น้ำจุ่มอยู่ในน้ำ จึงรีบดึงขึ้นมาดูก็พบร่างนายกฤษณรักษ์ในสภาพนอนคว่ำหน้าลอยตามขึ้นมา จึงได้ตะโกนเรียกคนมาช่วย จากนั้นรีบนำร่างนายกฤษณรักษ์ ออกจากถัง และทำปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลเมโย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนมากที่สุดในทันที และต่อมาแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิต นายกฤษณรักษ์ แต่ไม่สามารถช่วยไว้ได้ทัน
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่นำตัวนายกฤษณรักษ์ส่งโรงพยาบาลนั้น พ.ต.ทินกร ได้สั่งให้นายพิระเดช อินทรศักดิ์ นักเรียนช่างที่อยู่บริเวณนั้น ให้ปล่อยน้ำออกจากถัง เพื่อตรวจสอบ และเมื่อน้ำใกล้หมดก็พบร่างนายกวิน และนายณัฐพงศ์ชัยจมอยู่ก้นถัง จึงได้เรียกเพื่อนนักเรียนมาช่วยกันนำร่างทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลเมโย ซึ่งต่อมาแพทย์ลงความเห็นว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิตก่อนเดินทางมาถึงโรงพยาบาลแล้ว
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาตลอดจนอาจารย์ทุกคนรู้สึกเสียใจต่อการสูญเสียลูกศิษย์ ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอผลตรวจจากคณะกรรมการจากส่วนกลางก่อน” พล.ร.ต.พจนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวซักว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความประมาทของนักเรียนหรือไม่ พล.ร.ต.พจนากล่าวยืนยันว่า เป็นอุบัติเหตุ และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากจะโทษใคร ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ของโรงเรียนนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ใช้งานได้ดี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศออสเตรเลีย แต่อย่างไรก็ตาม แม้อุปกรณ์จะมีมาตรฐานขนาดไหนก็ตาม หากไม่ทำตามข้อตกลงเรื่องคาวมปลอดภัยก็ย่อมเกิดอันตรายได้
ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ยังได้กล่าวถึงอาการของนายพิรเดช อินทรศักดิ์ อายุ 17 ปี นักเรียนอีกคนที่สื่อมวลชนระบุว่าได้รับบาดเจ็บอาการโคม่าจากการลงไปในถังฝึกด้วยว่า ข้อเท็จจริง นายพิรเดชไม่ได้ลงไปในถัง แต่เกิดอาการเครียดอย่างรุนแรงที่เห็นเพื่อนเสียชีวิตถึง 3 คน ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติจนถึงขั้นช็อก จึงต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้วสั่งให้พักผ่อนที่โรงพยาบาล
ต่อมา ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ท.พลางกูร และ พล.ร.ต.พจนา ได้พาคณะผู้สื่อข่าวไปดูยังบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งพบถังกลมขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร สูง 5.33 เมตร บรรจุน้ำได้ถึง 32 ตัน โดยด้านข้างมีถังอ๊อกซิเจน และถังแก๊สแอลพีจีที่ใช้ในการเชื่อมเหล็ก นอกจากนี้ยังมีสายที่จุ่มลงไปในถังฝึก 4 สาย ประกอบด้วยสายที่เชื่อมต่อกับเครื่องปั๊มลมที่ให้นักเรียนใช้หายใจในการฝึก 3 สาย และสายที่ใช้เชื่อมเหล็ก 1 สาย
พ่อแม่ 3 นร.ช่างฝีมือทหาร เชื่อน้ำในอ่างเจือแก๊สพิษ - ข้องใจโรงเรียนส่ง รพ.ช้า!
ญาติข้องใจ นร.ช่างฝีมือทหารสูดแก๊สพิษดับ วอนโรงเรียนชี้แจงสาเหตุการตาย
นร.ช่างฝีมือทหารฝึกเชื่อมใต้น้ำสับถังออกซิเจนผิดสูดแก๊สพิษแทนตาย 3 โคม่า 1





วันนี้ (17 ส.ค.) ที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร ถนนพหลโยธิน พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด และโฆษกกองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) พร้อม พล.ร.ต.พจนา เผือกผ่อง ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ร่วมกันแถลงข้อเท็จจริงกรณีนักเรียนโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ชั้นปีที่ 3 แผนกช่างเชื่อมโลหะ ภาคสมทบ จำนวน 3 นาย เสียชีวิต ภายในโรงฝึก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นรู้สึกเสียใจ ซึ่งเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นลูกหลานและเป็นอนาคตของชาติ เป็นที่ซึ่งทุกฝ่ายไม่คาดฝัน ทุกคนเสียใจทั้งนั้น ที่นักเรียนทั้ง 3 คน ต้องมาจบชีวิตก่อนวัยอันควร ส่วนสาเหตุ ต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
พล.ท.พลางกูร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทาง พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งจะเร่งหาข้อสรุปให้ได้เร็วที่สุด เบื้องต้นทางโรงเรียนได้รับผิดชอบในเรื่องของการบำเพ็ญกุศลศพ และความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีสินไหมทดแทนมอบให้ตามนโยบายของ ผบ.สส.ด้วย
ด้าน พล.ร.ต.พจนา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดเหตุในช่วงเช้า นักเรียนทั้งหมดได้เข้าเรียนวิชาเชื่อมตัดโลหะใต้น้ำ โดยมี พ.ต.ทินกร นพคุณ อาจารย์วิชาช่าง แผนกช่างกล กองการฝึกศึกษา โรงเรียนช่างฝีมือทหาร และ จ.ส.อ.จำนง สินธุเดช ผู้ช่วยครูช่าง รับผิดชอบการสอน โดยช่วงเวลา 08.00 น.เป็นการเรียนภาคทฤษฎี วิชาเชื่อมตัดโลหะใต้น้ำ ในหัวข้อ หลักการตัดโลหะใต้น้ำด้วยแก๊ส และช่วงที่ 2 เวลา 09.50 น.เป็นการเรียนภาคปฏิบัติ ซึ่งจะต้องแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย เรียนหลักสูตรการเชื่อมต่างๆ โดยในวันที่เกิดเหตุ จะมีชุดที่ฝึกปฏิบัติการเชื่อมใต้น้ำ ประกอบด้วย นายกฤษณรักษ์ งามสวย อายุ 17 ปี นายณัฐพงศ์ชัย ลิ่มวิไล อายุ 17 ปี และนายกวิน ฉัตรตระกูล อายุ 17 ปี โดยไม่มี นายกิตติภัทร เจริญสุวรรณ ที่ขาดการฝึก เนื่องจากไม่สบาย และ พ.ต.ทินกร ได้สั่งให้นักเรียนทั้ง 3 คน ลงไปฝึกในถังฝึกที่ใส่น้ำสูงประมาณ 180 ซม.เพื่อทดลองนำหัวก๊าซลงใต้น้ำและใช้งาน จนกระทั่งเวลา 11.30 น. จึงปล่อยให้ทั้ง 3 คนไปพักกลางวัน
ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร แถลงอีกว่า ต่อมาในเวลาประมาณ 12.45 น. พ.ต.ทินกร ได้เดินทางกลับมายังโรงฝึก เพื่อสอนภาคปฏิบัติต่อในช่วงบ่าย ซึ่งจะต้องให้นักเรียนทั้ง 3 คน ลงไปทดลองตัดเหล็กใต้น้ำ แต่เมื่อ พ.ต.ทินกร มาถึงกลับพบว่ามีการเปิดไฟสปอตไลต์และไฟส่องลงไปในถังน้ำแล้วจึงรู้สึกผิดสังเกต ทาง พ.ต.ทินกร จึงได้รีบขึ้นไปบนปากถังก็ได้พบสายอากาศสำหรับหายใจใต้น้ำจุ่มอยู่ในน้ำ จึงรีบดึงขึ้นมาดูก็พบร่างนายกฤษณรักษ์ในสภาพนอนคว่ำหน้าลอยตามขึ้นมา จึงได้ตะโกนเรียกคนมาช่วย จากนั้นรีบนำร่างนายกฤษณรักษ์ ออกจากถัง และทำปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลเมโย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนมากที่สุดในทันที และต่อมาแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิต นายกฤษณรักษ์ แต่ไม่สามารถช่วยไว้ได้ทัน
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่นำตัวนายกฤษณรักษ์ส่งโรงพยาบาลนั้น พ.ต.ทินกร ได้สั่งให้นายพิระเดช อินทรศักดิ์ นักเรียนช่างที่อยู่บริเวณนั้น ให้ปล่อยน้ำออกจากถัง เพื่อตรวจสอบ และเมื่อน้ำใกล้หมดก็พบร่างนายกวิน และนายณัฐพงศ์ชัยจมอยู่ก้นถัง จึงได้เรียกเพื่อนนักเรียนมาช่วยกันนำร่างทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลเมโย ซึ่งต่อมาแพทย์ลงความเห็นว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิตก่อนเดินทางมาถึงโรงพยาบาลแล้ว
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาตลอดจนอาจารย์ทุกคนรู้สึกเสียใจต่อการสูญเสียลูกศิษย์ ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอผลตรวจจากคณะกรรมการจากส่วนกลางก่อน” พล.ร.ต.พจนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวซักว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความประมาทของนักเรียนหรือไม่ พล.ร.ต.พจนากล่าวยืนยันว่า เป็นอุบัติเหตุ และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากจะโทษใคร ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ของโรงเรียนนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ใช้งานได้ดี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศออสเตรเลีย แต่อย่างไรก็ตาม แม้อุปกรณ์จะมีมาตรฐานขนาดไหนก็ตาม หากไม่ทำตามข้อตกลงเรื่องคาวมปลอดภัยก็ย่อมเกิดอันตรายได้
ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ยังได้กล่าวถึงอาการของนายพิรเดช อินทรศักดิ์ อายุ 17 ปี นักเรียนอีกคนที่สื่อมวลชนระบุว่าได้รับบาดเจ็บอาการโคม่าจากการลงไปในถังฝึกด้วยว่า ข้อเท็จจริง นายพิรเดชไม่ได้ลงไปในถัง แต่เกิดอาการเครียดอย่างรุนแรงที่เห็นเพื่อนเสียชีวิตถึง 3 คน ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติจนถึงขั้นช็อก จึงต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้วสั่งให้พักผ่อนที่โรงพยาบาล
ต่อมา ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ท.พลางกูร และ พล.ร.ต.พจนา ได้พาคณะผู้สื่อข่าวไปดูยังบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งพบถังกลมขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร สูง 5.33 เมตร บรรจุน้ำได้ถึง 32 ตัน โดยด้านข้างมีถังอ๊อกซิเจน และถังแก๊สแอลพีจีที่ใช้ในการเชื่อมเหล็ก นอกจากนี้ยังมีสายที่จุ่มลงไปในถังฝึก 4 สาย ประกอบด้วยสายที่เชื่อมต่อกับเครื่องปั๊มลมที่ให้นักเรียนใช้หายใจในการฝึก 3 สาย และสายที่ใช้เชื่อมเหล็ก 1 สาย
พ่อแม่ 3 นร.ช่างฝีมือทหาร เชื่อน้ำในอ่างเจือแก๊สพิษ - ข้องใจโรงเรียนส่ง รพ.ช้า!
ญาติข้องใจ นร.ช่างฝีมือทหารสูดแก๊สพิษดับ วอนโรงเรียนชี้แจงสาเหตุการตาย
นร.ช่างฝีมือทหารฝึกเชื่อมใต้น้ำสับถังออกซิเจนผิดสูดแก๊สพิษแทนตาย 3 โคม่า 1