“ปวีณา หงสกุล” ออกโรงโต้รองผู้ว่าฯ กทม.แจงการนำเด็กนักเรียนเหยื่อครูล่วงละเมิดทางเพศมาดูแลในมูลนิธิฯ ถูกต้องตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ไม่หวั่นถูกฟ้องกลับยินดีต่อสู้ในศาล ขณะที่ 2 ครูผู้ต้องหา เข้าให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน และเผชิญหน้ากับญาติเหยื่อ จนหวิดเกิดเหตุชุลมุน
วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ออกมาตอบโต้ นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร กรณีที่ออกมาระบุว่า การนำเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ที่ตกเป็นเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศจาก นายลอน โสรกนิษฐ์ และ นายพิมล ซุ้นศรี อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนประชานุกูล ย่านสายไหม มาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ว่า เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
นางปวีณา ยืนยันว่า เป็นคนหนึ่งที่ร่วมกับรัฐบาลร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวขึ้นมา จึงรู้ดีว่ามีอำนาจหรือไม่ หรือมีหน้าที่มากน้อยเพียงใด และกรณีเด็กนักเรียนทั้ง 5 คนดังกล่าว พ่อ แม่ และผู้ปกครองก็ยินยอมให้มูลนิธิปวีณาฯ เป็นผู้ดูแล ซึ่งก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กทุกประการ จึงขอให้คนที่ออกมาพูด กลับไปทบทวนและพิจารณาตัวเอง ว่าได้ทำอะไรให้กับสังคมบ้าง
ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ยังกล่าวถึงการที่ นายลอน และนายพิมล ฟ้องกลับถึง 3 ข้อหาด้วยว่า ยินดีที่จะเจ็บ ดีกว่าให้เด็กเจ็บ ทั้งนี้ เพื่อพิทักษ์สิทธิของเด็กเอาไว้ แต่ขอให้ทั้ง 2 คนหยุดเบี่ยงเบนประเด็น โดยขอให้ไปต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนภาพถ่ายที่นายลอนนำเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนนั้น ขอปฏิเสธว่า ไม่รู้จักกันมาก่อน
นางปวีณา ยังได้กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแบ่งหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน โดยเฉพาะด้านการศึกษาต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 11.00 น.นายลอน โสรกนิษฐ์ นายพิมล ซุ้นศรี 2 ผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนหญิง พร้อมด้วย นายกิ่งแก้ว โยมเมือง ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พงส.(สบ.2) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปดส.ตามหมายเรียกเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และนำตัวส่งตรวจดีเอ็นเอที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานในสำนวน
นายลอน กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า จนถึงขณะนี้ ยังงงอยู่ว่าเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร ไม่ทราบจริงๆ ว่า มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ และที่ถูกกระทำเช่นนี้เพราะอะไร รู้สึกมืดแปดด้านเมื่อตกเป็นผู้ต้องหา ก็ถูกกระแสสังคมกดดันมาก ไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องอยู่แต่บ้าน แม้กระทั่งตลาดยังไม่กล้าออกไป แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขอยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด
นายลอน กล่าวอีกว่า หลังจากที่มีการบายศรีสู่ขวัญที่โรงเรียนเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น รู้สึกดีขึ้นบ้าง ส่วนกรณีที่มีมือดีนำใบปลิวกล่าวหานางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี และ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส.ไปแจกจ่ายที่โรงเรียนนั้น ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใครแต่ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
“อยากเรียกร้องให้ครูที่ จ.สระบุรี เคยถูกทางมูลนิธิฯแจ้งความดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันเมื่อ 3 ปีที่ออกมาเปิดเผยความจริงต่อสังคม เพราะในคดีนั้นทราบว่าผู้ต้องหาที่แท้จริง คือ พ่อเลี้ยงของเด็ก ทำให้ศาลพิพากษายกฟ้องครูคนดังกล่าว” นายลอน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายลอน ได้นำภาพถ่ายในงานศพลูกสาวครูลอน ซึ่งในภาพดังกล่าวมีนางปวีณา มาเป็นประธาน โดย นายลอน นั่งอยู่ข้างๆ มาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงกรณีที่นางปวีณา ให้สัมภาษณ์ถึงนายลอน ว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยนายลอน กล่าวว่า ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าตนรู้จักกับนางปวีณา มาก่อน และที่ผ่านมาเคยร่วมงานภายในชุมชนด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง
ด้าน นายกิ่งแก้ว กล่าวว่า ได้นำผู้ต้องหาทั้งสองมาพบพนักงานสอบสวนตามที่นัดหมายไว้แต่จะยื่นหนังสือขอเลื่อนการตรวจพิสูจน์ออกไปก่อน เนื่องจากผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตรวจพิสูจน์เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา นอกจากนี้ ยังเตรียมทำเรื่องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนด้วยซึ่งจะได้มีการดำเนินการต่อไป
นายกิ่งแก้ว กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมนั้น ทางผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมที่จะเข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม หรือข้อกล่าวหาใหม่ในทันที เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียกร้องให้มีการพิจารณาข้อเท็จจริงในคดีนี้ในชั้นศาลเท่านั้น หากผู้ใดออกมาให้ข่าวพาดพิงถึงผู้ต้องหาทั้งสองให้ได้รับความเสียหายก็จะฟ้องร้องเป็นรายๆ ไป เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่ผู้ต้องหาทั้งสองจะเข้าพบพนักงานสอบสวนนั้น ทางฝ่ายผู้ปกครองเด็กผู้เสียหายทั้งหมดได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนโดยผู้ปกครองเด็กผู้เสียหายทั้งหมดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องการให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลขอให้พิจารณาถอนประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากขณะนี้ได้มีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์มาข่มขู่ผู้ปกครองทุกราย ว่า ให้เลิกยุ่งกับเรื่องนี้ไม่เช่นนั้นถ้าเสร็จสิ้นคดีจะต้องตายกันหมด เมื่อตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาแล้วพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์สาธารณะภายในชุมชนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนผู้ต้องหาทั้งสองจะขึ้นไปยังอาคาร ปดส.มีหญิงชรา ซึ่งระบุว่า เป็นย่าของเด็กผู้เสียหายรายล่าสุด ที่เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกัน ได้เดินมาด้วยอาการโกรธแค้นเข้ามาเผชิญหน้ากับนายลอน พร้อมกับถามว่า ชื่อครูลอนใช่หรือไม่ เมื่อนายลอนตอบว่าใช่ หญิงคนดังกล่าวทำท่าจะทำร้ายนายลอน ทำให้ นายกิ่งแก้ว ทนายความต้องเอาตัวเข้ากัน ส่วนนายลอนเดินถอยหลังไปพร้อมกับบอกว่า มีอะไรก็ให้คุยกันดีๆ ได้
จากนั้นนายกิ่งแก้วพยายามพานายลอนเดินเข้าไปในอาคารเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า แต่ย่าของเด็กก็ยังตรงเข้าไปหานายลอน พร้อมกับพูดจาด่าทอนายลอน ว่า ใจทำด้วยอะไร ตอนนี้อายุ 61 ปีแล้วจะไปทำอะไรใครได้ แต่อยากถามว่ากล้าสู้ความจริงหรือไม่ เป็นถึงครูบาอาจารย์ เป็นพ่อพิมพ์ของชาติ มาทำเรื่องอย่างนี้กับหลานตนได้อย่างไร ถ้าเป็นลูกหลานตัวเองถูกกระทำเช่นนี้จะทนได้หรือไม่ หลังจากต่อว่านายลอนได้สักพัก ย่าของเด็กซึ่งถือกระเป๋าใบเล็กอยู่ที่มือขวาก็เกิดอารมณ์โกรธจัดเหวี่ยงกระเป๋าฟาดที่หัวนายลอน แต่ทนายความซึ่งคั้นกลางอยู่กันไว้ได้จนเกิดความชุลมุนวุ่ยวายขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้ามาห้ามปราม และแยกทั้งคู่ออกจากกัน
ด้าน นายลอน และนายพิมล สองผู้ต้องหาหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนและยื่นหนังสือขอเลื่อนการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วอนุญาตให้เดินทางกลับได้ผู้ต้องหาทั้งสองจึงรีบเดินทางกลับ
2 ครูหื่นแพ้ยกแรก! ศาลยกคำร้องไม่ให้หมอพรทิพย์ตรวจพิสูจน์
ตำรวจ ชี้ “หมอพรทิพย์” ยังไม่จำเป็นร่วมคลี่คดี 2 ครูข่มขืนศิษย์
2 ครูสาบานยันบริสุทธิ์ - ฟ้องกลับ “เจ๊ปิ๊ก-ผู้การแจ๊ส-แม่เด็ก”
โผล่อีก! เหยื่อนักเรียนครูยอดชั่วข่มขืนในห้องพยาบาล
ไม่ใช่คน! พบ 2 ครูหื่นข่มขืนลูกศิษย์วัย 8 ขวบ ถึง 5 คน
จับแล้ว 2 ครูชั่วหื่นกาม! ข่มขืนลูกศิษย์วัย 8 ขวบ
สามานย์! 2 ครูซี 7 ข่มขืนลูกศิษย์วัย 8 ขวบ
วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ออกมาตอบโต้ นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร กรณีที่ออกมาระบุว่า การนำเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ที่ตกเป็นเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศจาก นายลอน โสรกนิษฐ์ และ นายพิมล ซุ้นศรี อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนประชานุกูล ย่านสายไหม มาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ว่า เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
นางปวีณา ยืนยันว่า เป็นคนหนึ่งที่ร่วมกับรัฐบาลร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวขึ้นมา จึงรู้ดีว่ามีอำนาจหรือไม่ หรือมีหน้าที่มากน้อยเพียงใด และกรณีเด็กนักเรียนทั้ง 5 คนดังกล่าว พ่อ แม่ และผู้ปกครองก็ยินยอมให้มูลนิธิปวีณาฯ เป็นผู้ดูแล ซึ่งก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กทุกประการ จึงขอให้คนที่ออกมาพูด กลับไปทบทวนและพิจารณาตัวเอง ว่าได้ทำอะไรให้กับสังคมบ้าง
ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ยังกล่าวถึงการที่ นายลอน และนายพิมล ฟ้องกลับถึง 3 ข้อหาด้วยว่า ยินดีที่จะเจ็บ ดีกว่าให้เด็กเจ็บ ทั้งนี้ เพื่อพิทักษ์สิทธิของเด็กเอาไว้ แต่ขอให้ทั้ง 2 คนหยุดเบี่ยงเบนประเด็น โดยขอให้ไปต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนภาพถ่ายที่นายลอนนำเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนนั้น ขอปฏิเสธว่า ไม่รู้จักกันมาก่อน
นางปวีณา ยังได้กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแบ่งหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน โดยเฉพาะด้านการศึกษาต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 11.00 น.นายลอน โสรกนิษฐ์ นายพิมล ซุ้นศรี 2 ผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนหญิง พร้อมด้วย นายกิ่งแก้ว โยมเมือง ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พงส.(สบ.2) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปดส.ตามหมายเรียกเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และนำตัวส่งตรวจดีเอ็นเอที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานในสำนวน
นายลอน กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า จนถึงขณะนี้ ยังงงอยู่ว่าเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร ไม่ทราบจริงๆ ว่า มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ และที่ถูกกระทำเช่นนี้เพราะอะไร รู้สึกมืดแปดด้านเมื่อตกเป็นผู้ต้องหา ก็ถูกกระแสสังคมกดดันมาก ไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องอยู่แต่บ้าน แม้กระทั่งตลาดยังไม่กล้าออกไป แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขอยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด
นายลอน กล่าวอีกว่า หลังจากที่มีการบายศรีสู่ขวัญที่โรงเรียนเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น รู้สึกดีขึ้นบ้าง ส่วนกรณีที่มีมือดีนำใบปลิวกล่าวหานางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี และ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส.ไปแจกจ่ายที่โรงเรียนนั้น ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใครแต่ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
“อยากเรียกร้องให้ครูที่ จ.สระบุรี เคยถูกทางมูลนิธิฯแจ้งความดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันเมื่อ 3 ปีที่ออกมาเปิดเผยความจริงต่อสังคม เพราะในคดีนั้นทราบว่าผู้ต้องหาที่แท้จริง คือ พ่อเลี้ยงของเด็ก ทำให้ศาลพิพากษายกฟ้องครูคนดังกล่าว” นายลอน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายลอน ได้นำภาพถ่ายในงานศพลูกสาวครูลอน ซึ่งในภาพดังกล่าวมีนางปวีณา มาเป็นประธาน โดย นายลอน นั่งอยู่ข้างๆ มาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงกรณีที่นางปวีณา ให้สัมภาษณ์ถึงนายลอน ว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยนายลอน กล่าวว่า ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าตนรู้จักกับนางปวีณา มาก่อน และที่ผ่านมาเคยร่วมงานภายในชุมชนด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง
ด้าน นายกิ่งแก้ว กล่าวว่า ได้นำผู้ต้องหาทั้งสองมาพบพนักงานสอบสวนตามที่นัดหมายไว้แต่จะยื่นหนังสือขอเลื่อนการตรวจพิสูจน์ออกไปก่อน เนื่องจากผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตรวจพิสูจน์เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา นอกจากนี้ ยังเตรียมทำเรื่องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนด้วยซึ่งจะได้มีการดำเนินการต่อไป
นายกิ่งแก้ว กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมนั้น ทางผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมที่จะเข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม หรือข้อกล่าวหาใหม่ในทันที เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียกร้องให้มีการพิจารณาข้อเท็จจริงในคดีนี้ในชั้นศาลเท่านั้น หากผู้ใดออกมาให้ข่าวพาดพิงถึงผู้ต้องหาทั้งสองให้ได้รับความเสียหายก็จะฟ้องร้องเป็นรายๆ ไป เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่ผู้ต้องหาทั้งสองจะเข้าพบพนักงานสอบสวนนั้น ทางฝ่ายผู้ปกครองเด็กผู้เสียหายทั้งหมดได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนโดยผู้ปกครองเด็กผู้เสียหายทั้งหมดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องการให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลขอให้พิจารณาถอนประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากขณะนี้ได้มีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์มาข่มขู่ผู้ปกครองทุกราย ว่า ให้เลิกยุ่งกับเรื่องนี้ไม่เช่นนั้นถ้าเสร็จสิ้นคดีจะต้องตายกันหมด เมื่อตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาแล้วพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์สาธารณะภายในชุมชนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนผู้ต้องหาทั้งสองจะขึ้นไปยังอาคาร ปดส.มีหญิงชรา ซึ่งระบุว่า เป็นย่าของเด็กผู้เสียหายรายล่าสุด ที่เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกัน ได้เดินมาด้วยอาการโกรธแค้นเข้ามาเผชิญหน้ากับนายลอน พร้อมกับถามว่า ชื่อครูลอนใช่หรือไม่ เมื่อนายลอนตอบว่าใช่ หญิงคนดังกล่าวทำท่าจะทำร้ายนายลอน ทำให้ นายกิ่งแก้ว ทนายความต้องเอาตัวเข้ากัน ส่วนนายลอนเดินถอยหลังไปพร้อมกับบอกว่า มีอะไรก็ให้คุยกันดีๆ ได้
จากนั้นนายกิ่งแก้วพยายามพานายลอนเดินเข้าไปในอาคารเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า แต่ย่าของเด็กก็ยังตรงเข้าไปหานายลอน พร้อมกับพูดจาด่าทอนายลอน ว่า ใจทำด้วยอะไร ตอนนี้อายุ 61 ปีแล้วจะไปทำอะไรใครได้ แต่อยากถามว่ากล้าสู้ความจริงหรือไม่ เป็นถึงครูบาอาจารย์ เป็นพ่อพิมพ์ของชาติ มาทำเรื่องอย่างนี้กับหลานตนได้อย่างไร ถ้าเป็นลูกหลานตัวเองถูกกระทำเช่นนี้จะทนได้หรือไม่ หลังจากต่อว่านายลอนได้สักพัก ย่าของเด็กซึ่งถือกระเป๋าใบเล็กอยู่ที่มือขวาก็เกิดอารมณ์โกรธจัดเหวี่ยงกระเป๋าฟาดที่หัวนายลอน แต่ทนายความซึ่งคั้นกลางอยู่กันไว้ได้จนเกิดความชุลมุนวุ่ยวายขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้ามาห้ามปราม และแยกทั้งคู่ออกจากกัน
ด้าน นายลอน และนายพิมล สองผู้ต้องหาหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนและยื่นหนังสือขอเลื่อนการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วอนุญาตให้เดินทางกลับได้ผู้ต้องหาทั้งสองจึงรีบเดินทางกลับ
2 ครูหื่นแพ้ยกแรก! ศาลยกคำร้องไม่ให้หมอพรทิพย์ตรวจพิสูจน์
ตำรวจ ชี้ “หมอพรทิพย์” ยังไม่จำเป็นร่วมคลี่คดี 2 ครูข่มขืนศิษย์
2 ครูสาบานยันบริสุทธิ์ - ฟ้องกลับ “เจ๊ปิ๊ก-ผู้การแจ๊ส-แม่เด็ก”
โผล่อีก! เหยื่อนักเรียนครูยอดชั่วข่มขืนในห้องพยาบาล
ไม่ใช่คน! พบ 2 ครูหื่นข่มขืนลูกศิษย์วัย 8 ขวบ ถึง 5 คน
จับแล้ว 2 ครูชั่วหื่นกาม! ข่มขืนลูกศิษย์วัย 8 ขวบ
สามานย์! 2 ครูซี 7 ข่มขืนลูกศิษย์วัย 8 ขวบ
