พ่อแม่เด็กนักเรียนช่างฝีมือทหาร ร่ำไห้รับศพลูก ไม่เชื่อลูกประมาทจนตาย พร้อมตั้งข้อสังเกต ในอ่างน้ำอาจมีแก๊สพิษเจือปนอยู่ก่อนแล้ว โทษครูไม่ดูแล และส่งเข้ารักษาที่ รพ.ช้ามาก
วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาญาติ เพื่อน และบรรดาครูนายกฤษณรักษ์ งามสวย อายุ 17 ปี นายณัฐพงศ์ชัย ลิ่มวิไล อายุ 17 ปี และ นายกวิน ฉัตรตระกูล อายุ 17 ปี นักเรียนช่างฝีมือทหารชั้นปีที่ 3 ที่เสียชีวิตจากการสูดดมแก๊สพิษเข้าไป ขณะลงไปฝึกเชื่อมเหล็กใต้น้ำ ได้เดินทางมารับศพของนักเรียนช่างทั้ง 3 คนเพื่อไปทำพิธีทางศาสนา ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด
นายประเสริฐ ฉัตรตระกูล อายุ 51 ปี อาชีพสถาปนิกอิสระ บิดาของนายกวิน กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางพร้อมกับญาติเพื่อมาพบหน้าน้องวินเป็นครั้งสุดท้าย การเสียชีวิตของลูกครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจอยากให้โรงเรียนที่สอนด้านฝีมือช่าง มีระบบดูแลความปลอดภัยและการช่วยเหลือที่พร้อมกว่านี้ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ การช่วยเหลือต้องมีความรวดเร็ว การเรียนแบบนี้ความปลอดภัยต้องมี 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราความเสี่ยงต่ออันตรายต้องเป็นศูนย์ กรณีการเสียชีวิตของลูกตนเองติดใจว่าอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของโรงเรียนว่าทำให้แก๊สรั้ว เรื่องจมน้ำไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะลูกเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ตัวแทนสโมสรทหารอากาศและเคยเข้าแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย อีกทั้งกำลังจะเป็นตัวแทนเขต 6 จังหวัดอุทัยธานี ส่วนเรื่องที่ว่าลูกชายและเพื่อนสลับสายแก๊สผิดระหว่างสายออกซิเจน กับสายแก๊สอาเซทิลีนคาร์บอนก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะโดยธรรมชาติของคนไม่สามารถที่จะทนสูดกลิ่นแก๊สที่ฉุนได้ ต้องถอดออกมาตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยต้องมาสูญเสียเด็กที่ดีเรียนเก่งเด็กทั้ง 3 คนเรียนได้ที่ 1-3 ของห้องด้วย ส่วนศพตั้งสวดอภิธรรมที่วัดเสมียนนารี
นายประเสริฐ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า เพื่อนที่เพิ่งลงไปช่วยลูกชายและเพื่อนอีก 2 คนที่เสียชีวิตลงไปในน้ำช่วงเวลาสั้นๆ ยังมีอาการช็อกและโคม่าอยู่ จึงน่าสังเกตว่า น่าจะมีแก๊สรั้วในน้ำก่อนหน้าที่ลูกจะลงไปในสระแล้ว ข้อสังเกตอีกอย่างที่สำคัญ คือ เรื่องการเข้าช่วยเหลือ เพราะทราบว่าเด็กทั้ง 3 ลงไปในน้ำก่อนเวลาเรียนประมาณ 10 นาที เวลาที่เข้าเรียนจริงประมาณ 13.00 น.แต่เด็กทั้ง 3 คนลงไปเมื่อเวลาประมาณ 12.50 น.แต่ลูกและเพื่อนถูกส่งถึงโรงพยาบาลเมโย ในเวลา 14.30 น.ซึ่งเป็นเวลานานมากตั้งแต่เกิดเหตุทั้งที่ รพ.อยู่ใกล้ ไม่เข้าใจว่าช่วงเวลานานขนาดนั้นก่อนนำเด็กส่งโรงพยาบาลครูฝึกทำอะไรกันอยู่ และถ้าครูฝึกมาสอนตรงเวลาก็อาจจะได้ทันช่วยลูกและเพื่อนๆ คงไม่เสียชีวิต อีกอย่างเรื่องของกุญแจตู้เก็บอุปกรณ์ก็น่าจะมีระบบตรวจสอบไม่ใช่เด็กคนใดอยากจะไขก็ไขได้บางครั้งเด็กอาจจะไม่ปลอดภัยในการนำอุปกรณ์ไปใช้ เมื่อคุยกับทางโรงเรียนทางโรงเรียนบอกว่ากำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นความประมาทของใครต้องหาคนที่มารับผิดชอบ เข้าใจว่า เด็กอาจจะประมาทได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แต่โรงเรียนต้องมีมาตรการดูแลที่ดีกว่านี้
ด้าน นางหลงมา ลิ่มวิลัย อายุ 36 ปี มารดานายณัฐพงศ์ชัย กล่าวว่า ครั้งแรกที่ทราบข่าวทางอาจารย์ได้แจ้งว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถชน มาทราบความจริงอีกครั้งต่อเมื่อลูกชายเสียชีวิตแล้ว และศพได้นำมาส่งที่สถาบันนิติเวชแล้ว ตนเองไม่เข้าใจว่า ทำไมทางอาจารย์ไม่บอกความจริงตั้งแต่แรก และทางโรงเรียนก็แจ้งมาช้าถ้าบอกให้เร็วกว่านี้ตนเองจะได้มาดูใจลูกได้ทัน อีกทั้งอาจารย์น่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบแล้วโดยความผิดให้กับเด็ก รวมทั้งทางโรงเรียนมีกฎข้อบังคับของโรงเรียนทำไมให้เด็กเอาอุปกรณ์ลงไปฝึกก่อนเวลาเรียน ตนเองมีลูกสองคนคนที่เสียชีวิตเป็นลูกคนโต เป็นเด็กตั้งใจเรียนมาตลอด สำหรับศพจะตั้งสวดอภิธรรมที่วัดลาดประเค้า เป็นเวลา 3 คืน ส่วนวันฌาปนกิจศพนั้นยังไม่ได้กำหนดแน่นอน
ขณะที่ นางดอกไม้ งามสวย อายุ 47 ปี มารดานายกฤษณรักษ์ หรือ น้องกอล์ฟ กล่าวว่า ตนเองมีลูกชายเพียงคนเดียว น้องกอล์ฟเป็นเด็กดีมาก ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำให้เสียใจ กลับบ้านยังกอดยังหอมนอนด้วยกันทุกคืน ลูกชายมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนโรงเรียนช่างทหารและทำงานที่รัก การตายตนเองยังไม่ติดใจอะไร รอผลตรวจทางนิติเวชและการสอบสวนของโรงเรียน ตนเองได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียนครั้งแรกเมื่อเวลา 16.00 น.บอกว่า ขอแสดงความเสียใจว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว และจะรับผิดชอบทุกอย่าง และอีกครั้งเมื่อเวลา 18.00 น.โทรมาอีกครั้งบอกว่าได้ส่งศพลูกไปที่นิติเวชแล้วให้มารอรับศพ ซึ่งตนเองก็ได้รีบเดินทางจากร้อยเอ็ดมาถึงเมื่อเช้าวันนี้ และจะรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดวันบ้านหนองผึง ต.โปชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งรายงานข่าวแจ้งว่า ทางโรงเรียนช่างฝีมือทหารได้ส่งทหารมาอำนวยความสะดวกจัดรถให้นำศพทั้ง 3 คน ไปบำเพ็ญกุศล และทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เชิญพ่อแม่ของเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน ไปพูดคุยตกลงกันที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่บรรดาผู้ปกครองได้ขอเข้าพบ พ.ต.อ.พรชัย สุธีรคุณ นพ.สบ.4 ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ทำการตรวจพิสูจน์ เพื่อสอบถามข้อสงสัยในการตรวจพิสูจน์ศพ โดยใช้เวลาในการคุยประมาณ 15 นาที
นายประเสริฐ กล่าวว่า ภายหลังแพทย์ระบุสาเหตุการตาย ว่า เสียชีวิตจาการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ แต่ทั้งนี้ ต้องมีเหตุที่ทำให้เด็กจมน้ำพร้อมกันทั้งสามคน ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ต่อไป โดยตนเชื่อว่าต้องมีเหตุที่ทำให้เด็กทั้งสามคนหมดสติก่อนจมน้ำ จากกรณีนี้มองว่า โรงเรียนประมาทแน่นอน ที่ไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ เรื่องความปลอดภัยและมีมาตรการในการดูแลอุปกรณ์การเรียนการสอน โรงเรียนควรมีมาตรการดูแลที่ดีกว่านี้ ถ้าไม่บกพร่องในเรื่องนี้ก็คงไม่เกิด
“เรื่องอย่างนี้จะมาโยนความผิดว่าเด็กประมาทคงไม่ได้ โรงเรียนต้องรับผิดชอบ โดยในส่วนของผม โรงเรียนชี้แจงว่า ลูกชายจมน้ำตาย โดยอธิบายว่า ในช่วงเช้าเรียนทฤษฎี บ่ายมาปฏิบัติ แต่เด็กมาขอครูไปเตรียมตัวก่อนที่จะเรียนภาคปฏิบัติ จึงเกิดเรื่องเป็นการพูดปัดความรับผิดชอบ อยากให้โรงเรียนมีน้ำใจและรับผิดชอบมากกว่านี้ สมกับความไว้วางใจที่ผู้ปกครองส่งบุตรหลานเข้ามาเรียน อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่คิดเรื่องการฟ้องเรียกค่าเสียหาย คงต้องรอดูผลการสอบข้อเท็จจริงก่อน และอย่างให้โรงเรียนบอกความจริงทั้งหมดโดยไม่มีการปิดบัง และศพของลูกชายตนจะยังไม่เผาจะเก็บไว้ เผื่อกรณีมีข้อข้องใจก็จะได้ทำการตรวจพิสูจน์ศพอีกครั้ง” นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับบรรยากาศในการรับศพของเด็กนักเรียนช่างฝีมือทหารทั้งสาม เป็นไปด้วยความโศกเศร้าบรรดาญาติ ได้พยายามขอเข้าไปดูศพ แต่เจ้าหน้าที่ได้ห้ามไว้โดยบอกว่าขอให้มีการตกแต่งศพให้เรียบร้อยก่อน โดยศพของเด็กทั้งสามได้สวมเครื่องแบบ เต็มยศแขนยาวสีขาว ซึ่งเป็นเครื่องแบบมาตรฐานของโรงเรียนช่างฝีมือทหาร โดยศพของ นายณัฐพงศ์ชัย ซึ่งทางบ้านไม่ได้เตรียมรองเท้ามาให้ จ.ส.อ.ขวัญชัย ผู้เป็นบิดา ได้ถอดรองเท้าของตนเองสวมให้กับศพ โดยตนเองยืนรับศพโดยไม่สวมรองเท้า โดยทันทีที่เห็นศพบรรดาญาติต่างร้องไห้อย่างเศร้าโศกเสียใจ โดยเฉพาะ จ.ส.อ.ขวัญชัย นั้น ถึงกับล้มทั้งยืน สร้างความสะเทือนในให้กับผู้พบเห็น
ญาติข้องใจ นร.ช่างฝีมือทหารสูดแก๊สพิษดับ วอนโรงเรียนชี้แจงสาเหตุการตาย
นร.ช่างฝีมือทหารฝึกเชื่อมใต้น้ำสับถังออกซิเจนผิดสูดแก๊สพิษแทนตาย 3 โคม่า 1


วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาญาติ เพื่อน และบรรดาครูนายกฤษณรักษ์ งามสวย อายุ 17 ปี นายณัฐพงศ์ชัย ลิ่มวิไล อายุ 17 ปี และ นายกวิน ฉัตรตระกูล อายุ 17 ปี นักเรียนช่างฝีมือทหารชั้นปีที่ 3 ที่เสียชีวิตจากการสูดดมแก๊สพิษเข้าไป ขณะลงไปฝึกเชื่อมเหล็กใต้น้ำ ได้เดินทางมารับศพของนักเรียนช่างทั้ง 3 คนเพื่อไปทำพิธีทางศาสนา ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด
นายประเสริฐ ฉัตรตระกูล อายุ 51 ปี อาชีพสถาปนิกอิสระ บิดาของนายกวิน กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางพร้อมกับญาติเพื่อมาพบหน้าน้องวินเป็นครั้งสุดท้าย การเสียชีวิตของลูกครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจอยากให้โรงเรียนที่สอนด้านฝีมือช่าง มีระบบดูแลความปลอดภัยและการช่วยเหลือที่พร้อมกว่านี้ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ การช่วยเหลือต้องมีความรวดเร็ว การเรียนแบบนี้ความปลอดภัยต้องมี 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราความเสี่ยงต่ออันตรายต้องเป็นศูนย์ กรณีการเสียชีวิตของลูกตนเองติดใจว่าอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของโรงเรียนว่าทำให้แก๊สรั้ว เรื่องจมน้ำไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะลูกเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ตัวแทนสโมสรทหารอากาศและเคยเข้าแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย อีกทั้งกำลังจะเป็นตัวแทนเขต 6 จังหวัดอุทัยธานี ส่วนเรื่องที่ว่าลูกชายและเพื่อนสลับสายแก๊สผิดระหว่างสายออกซิเจน กับสายแก๊สอาเซทิลีนคาร์บอนก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะโดยธรรมชาติของคนไม่สามารถที่จะทนสูดกลิ่นแก๊สที่ฉุนได้ ต้องถอดออกมาตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยต้องมาสูญเสียเด็กที่ดีเรียนเก่งเด็กทั้ง 3 คนเรียนได้ที่ 1-3 ของห้องด้วย ส่วนศพตั้งสวดอภิธรรมที่วัดเสมียนนารี
นายประเสริฐ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า เพื่อนที่เพิ่งลงไปช่วยลูกชายและเพื่อนอีก 2 คนที่เสียชีวิตลงไปในน้ำช่วงเวลาสั้นๆ ยังมีอาการช็อกและโคม่าอยู่ จึงน่าสังเกตว่า น่าจะมีแก๊สรั้วในน้ำก่อนหน้าที่ลูกจะลงไปในสระแล้ว ข้อสังเกตอีกอย่างที่สำคัญ คือ เรื่องการเข้าช่วยเหลือ เพราะทราบว่าเด็กทั้ง 3 ลงไปในน้ำก่อนเวลาเรียนประมาณ 10 นาที เวลาที่เข้าเรียนจริงประมาณ 13.00 น.แต่เด็กทั้ง 3 คนลงไปเมื่อเวลาประมาณ 12.50 น.แต่ลูกและเพื่อนถูกส่งถึงโรงพยาบาลเมโย ในเวลา 14.30 น.ซึ่งเป็นเวลานานมากตั้งแต่เกิดเหตุทั้งที่ รพ.อยู่ใกล้ ไม่เข้าใจว่าช่วงเวลานานขนาดนั้นก่อนนำเด็กส่งโรงพยาบาลครูฝึกทำอะไรกันอยู่ และถ้าครูฝึกมาสอนตรงเวลาก็อาจจะได้ทันช่วยลูกและเพื่อนๆ คงไม่เสียชีวิต อีกอย่างเรื่องของกุญแจตู้เก็บอุปกรณ์ก็น่าจะมีระบบตรวจสอบไม่ใช่เด็กคนใดอยากจะไขก็ไขได้บางครั้งเด็กอาจจะไม่ปลอดภัยในการนำอุปกรณ์ไปใช้ เมื่อคุยกับทางโรงเรียนทางโรงเรียนบอกว่ากำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นความประมาทของใครต้องหาคนที่มารับผิดชอบ เข้าใจว่า เด็กอาจจะประมาทได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แต่โรงเรียนต้องมีมาตรการดูแลที่ดีกว่านี้
ด้าน นางหลงมา ลิ่มวิลัย อายุ 36 ปี มารดานายณัฐพงศ์ชัย กล่าวว่า ครั้งแรกที่ทราบข่าวทางอาจารย์ได้แจ้งว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถชน มาทราบความจริงอีกครั้งต่อเมื่อลูกชายเสียชีวิตแล้ว และศพได้นำมาส่งที่สถาบันนิติเวชแล้ว ตนเองไม่เข้าใจว่า ทำไมทางอาจารย์ไม่บอกความจริงตั้งแต่แรก และทางโรงเรียนก็แจ้งมาช้าถ้าบอกให้เร็วกว่านี้ตนเองจะได้มาดูใจลูกได้ทัน อีกทั้งอาจารย์น่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบแล้วโดยความผิดให้กับเด็ก รวมทั้งทางโรงเรียนมีกฎข้อบังคับของโรงเรียนทำไมให้เด็กเอาอุปกรณ์ลงไปฝึกก่อนเวลาเรียน ตนเองมีลูกสองคนคนที่เสียชีวิตเป็นลูกคนโต เป็นเด็กตั้งใจเรียนมาตลอด สำหรับศพจะตั้งสวดอภิธรรมที่วัดลาดประเค้า เป็นเวลา 3 คืน ส่วนวันฌาปนกิจศพนั้นยังไม่ได้กำหนดแน่นอน
ขณะที่ นางดอกไม้ งามสวย อายุ 47 ปี มารดานายกฤษณรักษ์ หรือ น้องกอล์ฟ กล่าวว่า ตนเองมีลูกชายเพียงคนเดียว น้องกอล์ฟเป็นเด็กดีมาก ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำให้เสียใจ กลับบ้านยังกอดยังหอมนอนด้วยกันทุกคืน ลูกชายมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนโรงเรียนช่างทหารและทำงานที่รัก การตายตนเองยังไม่ติดใจอะไร รอผลตรวจทางนิติเวชและการสอบสวนของโรงเรียน ตนเองได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียนครั้งแรกเมื่อเวลา 16.00 น.บอกว่า ขอแสดงความเสียใจว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว และจะรับผิดชอบทุกอย่าง และอีกครั้งเมื่อเวลา 18.00 น.โทรมาอีกครั้งบอกว่าได้ส่งศพลูกไปที่นิติเวชแล้วให้มารอรับศพ ซึ่งตนเองก็ได้รีบเดินทางจากร้อยเอ็ดมาถึงเมื่อเช้าวันนี้ และจะรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดวันบ้านหนองผึง ต.โปชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งรายงานข่าวแจ้งว่า ทางโรงเรียนช่างฝีมือทหารได้ส่งทหารมาอำนวยความสะดวกจัดรถให้นำศพทั้ง 3 คน ไปบำเพ็ญกุศล และทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เชิญพ่อแม่ของเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน ไปพูดคุยตกลงกันที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่บรรดาผู้ปกครองได้ขอเข้าพบ พ.ต.อ.พรชัย สุธีรคุณ นพ.สบ.4 ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ทำการตรวจพิสูจน์ เพื่อสอบถามข้อสงสัยในการตรวจพิสูจน์ศพ โดยใช้เวลาในการคุยประมาณ 15 นาที
นายประเสริฐ กล่าวว่า ภายหลังแพทย์ระบุสาเหตุการตาย ว่า เสียชีวิตจาการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ แต่ทั้งนี้ ต้องมีเหตุที่ทำให้เด็กจมน้ำพร้อมกันทั้งสามคน ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ต่อไป โดยตนเชื่อว่าต้องมีเหตุที่ทำให้เด็กทั้งสามคนหมดสติก่อนจมน้ำ จากกรณีนี้มองว่า โรงเรียนประมาทแน่นอน ที่ไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ เรื่องความปลอดภัยและมีมาตรการในการดูแลอุปกรณ์การเรียนการสอน โรงเรียนควรมีมาตรการดูแลที่ดีกว่านี้ ถ้าไม่บกพร่องในเรื่องนี้ก็คงไม่เกิด
“เรื่องอย่างนี้จะมาโยนความผิดว่าเด็กประมาทคงไม่ได้ โรงเรียนต้องรับผิดชอบ โดยในส่วนของผม โรงเรียนชี้แจงว่า ลูกชายจมน้ำตาย โดยอธิบายว่า ในช่วงเช้าเรียนทฤษฎี บ่ายมาปฏิบัติ แต่เด็กมาขอครูไปเตรียมตัวก่อนที่จะเรียนภาคปฏิบัติ จึงเกิดเรื่องเป็นการพูดปัดความรับผิดชอบ อยากให้โรงเรียนมีน้ำใจและรับผิดชอบมากกว่านี้ สมกับความไว้วางใจที่ผู้ปกครองส่งบุตรหลานเข้ามาเรียน อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่คิดเรื่องการฟ้องเรียกค่าเสียหาย คงต้องรอดูผลการสอบข้อเท็จจริงก่อน และอย่างให้โรงเรียนบอกความจริงทั้งหมดโดยไม่มีการปิดบัง และศพของลูกชายตนจะยังไม่เผาจะเก็บไว้ เผื่อกรณีมีข้อข้องใจก็จะได้ทำการตรวจพิสูจน์ศพอีกครั้ง” นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับบรรยากาศในการรับศพของเด็กนักเรียนช่างฝีมือทหารทั้งสาม เป็นไปด้วยความโศกเศร้าบรรดาญาติ ได้พยายามขอเข้าไปดูศพ แต่เจ้าหน้าที่ได้ห้ามไว้โดยบอกว่าขอให้มีการตกแต่งศพให้เรียบร้อยก่อน โดยศพของเด็กทั้งสามได้สวมเครื่องแบบ เต็มยศแขนยาวสีขาว ซึ่งเป็นเครื่องแบบมาตรฐานของโรงเรียนช่างฝีมือทหาร โดยศพของ นายณัฐพงศ์ชัย ซึ่งทางบ้านไม่ได้เตรียมรองเท้ามาให้ จ.ส.อ.ขวัญชัย ผู้เป็นบิดา ได้ถอดรองเท้าของตนเองสวมให้กับศพ โดยตนเองยืนรับศพโดยไม่สวมรองเท้า โดยทันทีที่เห็นศพบรรดาญาติต่างร้องไห้อย่างเศร้าโศกเสียใจ โดยเฉพาะ จ.ส.อ.ขวัญชัย นั้น ถึงกับล้มทั้งยืน สร้างความสะเทือนในให้กับผู้พบเห็น
ญาติข้องใจ นร.ช่างฝีมือทหารสูดแก๊สพิษดับ วอนโรงเรียนชี้แจงสาเหตุการตาย
นร.ช่างฝีมือทหารฝึกเชื่อมใต้น้ำสับถังออกซิเจนผิดสูดแก๊สพิษแทนตาย 3 โคม่า 1