12 สิงหาคม ของทุกปี นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ อันเป็นวันมหามงคลของปวงชนชาวไทยแล้ว ยังมีความสำคัญ กล่าวคือ เป็น"วันแม่แห่งชาติ"ด้วย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ ขอนำความรู้สึกดีๆของตำรวจบางส่วน ที่ไม่อาจนำความรู้สึกของตำรวจทุกคนที่มีความเป็นลูกมานำเสนอได้หมด แต่เชื่อว่า ทุกคน ไม่เฉพาะแต่ตำรวจเท่านั้น ต่างก็มีความรู้สึกที่ดี และความประทับใจที่ดีต่อผู้เป็นแม่ของตนเองเสมอ
ส.ต.อ.หญิงนุตรจริน สีเห็มทอง ผบ.หมู่.ฝอ.ปศท. บอกว่า แม่ของเธออยู่ที่จ.ชัยภูมิ ขณะที่เธอเองต้องทำงานอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่เคยลืมที่จะโทรศัพท์ถามสารทุกข์สุขดิบกันโดยตลอด นอกจากนี้ทุกๆเดือนเธอก็จะส่งเงินไปให้ ถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่ถือว่าได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีแล้ว ขณะเดียวกันหากเป็นช่วงวันหยุดยาว เธอก็จะกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ตลอด
“ความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับแม่ แทบไม่เคยแสดงความรัก แบบกอดจูบ อะไรแบบนี้เลย เพราะพี่เป็นคนต่างจังหวัด ชีวิตก็ต้องดิ้นรนทำมาหากินมาโดยตลอด นานๆครั้งถึงได้เจอกัน แต่หากมีโอกาสก็อยากกอดแม่ บอกรักแม่เหมือนกัน พี่เชื่อว่าลึกๆแล้วแม่รู้นะ ว่าพี่รักแม่แค่ไหน วันแม่ปีนี้ อยากขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรง พักผ่อนมากๆ รักแม่ค่ะ”ส.ต.อ.หญิงนุตรจรินกลั่นความในออกมาเป็นคำพูด
จ.ส.ต.หญิงสายฝน บุญละออ ผบ.หมู่ ฝอ.6 (ประชาสัมพันธ์) บก.อก.บช.น. บอกว่า ในฐานะที่เป็นลูก สำหรับวันที่ 12 ส.ค.นี้ ไม่คิดว่าเป็นวันพิเศษ เพราะปกติก็ถือว่าทุกวันเป็นวันพิเศษ และได้ทำดีทุกวันอยู่แล้วเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำเสมอคือการทำให้แม่สบายใจ และจะโทรไปคุยกับแม่ทุกวัน
ในขณะเดียวกัน จสต.หญิงสายฝนยังได้ทำหน้าที่บทบาทของความเป็น"แม่"ด้วย โดยบอกกับเราว่า ไม่ได้หวังว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะต้องเก่ง หรือมีความสามารถพิเศษใด ๆ ขอเพียงให้เรียนจบ สามารถเอาตัวรอดได้ในสังคม รวมถึงเป็นคนดีของพ่อแม่และคนรอบข้าง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพียงเท่านี้ ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว
ตำรวจหญิงอีกคนอย่างส.ต.อ.หญิงกมลรัตน์ จิตมโนธรรม ผบ.หมู่ ฝอ.6 (ประชาสัมพันธ์) บก.อก.บช.น. บอกว่า วันที่ 12 ส.ค. เปรียบเสมือนวันแม่ของแผ่นดิน และอยากให้เป็นวันที่ลูก ๆ ทุกคนได้แสดงความรักที่มีต่อแม่เพราะถือเป็นวันที่พิเศษ และเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้บอกรักแม่ อยากให้ถือวันนี้เป็นเป็นวันที่บอกรักแม่ เพียงสักวันก็ยังดี
ส่วนการรับหน้าที่ของความเป็น"แม่"ของส.ต.อ.หญิงกมลรัตน์นั้น บอกความรู้สึกกับเราว่า ตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้อง รู้สึกดีใจมากที่จะได้เป็นแม่ และเมื่อคลอดออกมาก็หวังเพียงอยากให้ลูกเป็นคนดี เชื่อฟังพ่อแม่ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนเก่งหรือพิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งขณะนี้ได้แนะนำสิ่งที่ดี ๆ ให้ลูกฟังอยู่เสมอ และให้ตั้งใจเรียนเพราะเมื่อโตไปจะได้ไม่ลำบากและอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ แต่สิ่งที่ภูมิใจคือการที่ลูกชาย บอกรักพ่อและแม่ทุกวัน
กลับมาลองดูความรู้สึกดีๆของลูกชายที่มีต่อ"แม่"กันบ้าง พล.ต.ต. จิรโรจน์ กี่ศิริ ผู้บังคับการกองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ"ผู้การกี่"บอกว่า แม่เป็นผู้ที่มีพระคุณสูงสุด ทุกอย่างที่ตั้งขึ้นมาในโลกนี้ ล้วนมีคำว่าแม่ทั้งนั้น เช่น แม่น้ำ แม่ทัพนั้น แม่เป็นผู้ที่มีพระคุณใหญ่หลวง เป็นผู้ให้กำเนิดเรา ให้อะไรแก่เราทุกอย่างแม่พร้อมที่จะตายแทนลูกได้ เราตอบแทนเท่าไหร่ก็ไม่หมด สำหรับครอบครัวตนนั้น ขณะที่แม่ตั้งท้องได้ 3 เดือนคุณพ่อก็เสีย แต่คุณแม่ก็ไม่มีแฟนใหม่ เลี้ยงลูกคนเดียวจนเติบใหญ่ ดังนี้ สำหรับตนแล้วคุณแม่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ ตอนเป็นเด็ก อาจจะเกเรอาละวาดบ้างตามประสา แต่แม่จะคอยสั่งสอนตลอดเวลา ให้เห็นใจสงสารคนที่อ่อนแอและด้อยกว่าเรา
“คุณแม่เป็นอาจารย์อยู่ที่คณะเภสัช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นแม่พระของลูกศิษย์ทุกคน เราก็ซึมซับความเมตตากรุณามาตลอดก็เลยเห็นว่าคุณแม่เป็นอย่างไร เมื่อมาอยู่ที่กองสวัสดิการ ก็จะมีเมตตา เอื้ออาทรกับทุกคน และทำตราสัญลักษณ์ประจำกองสวัสดิการ เป็นรูปพระพรหม หมายถึงความเมตตากรุณา”
ผู้การกี่บอกอีกว่า ขณะนี้คุณแม่อายุ 87 ปี ปฏิบัติธรรมอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม จ.ชลบุรี ซึ่งท่านจะปฏิบัติธรรม 2 ครั้ง คือช่วงกุมภาพันธ์ที่เป็นเดือนเกิด และเข้าพรรษาอีก 4 เดือน ซึ่งเป็นคำขอของตนและเป็นการตอบแทนพระคุณท่าน ให้ท่านได้ปฏิบัติธรรมอย่างน้อยปีละ 5-6 เดือน
ตำรวจจราจรอย่าง จ.ส.ต. จำเริญ การค้า วัย 43 ปี ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ โครงการพระราชดำริ สังกัดกก.6 บก.จร. บช.น. บอกความรู้สึกดีๆที่มีต่อ"แท่"ว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีมหามงคล เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และใกล้จะถึงวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.นี้ ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ก็จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด ซึ่งปีนี้คงไม่ได้กลับบ้านที่จ.อุบลราชธานีเหมือนปีที่ผ่านๆ มา เนื่องจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ( บช.น.) ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพระราชพิธีเนื่องในวันแม่แห่งชาติ อย่างไรก็ตามในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริก็ยังให้บริการประชาชนตามปกติ เช่น การช่วยเหลือฉุกเฉิน ระบายการจราจร รวมทั้งการทำคลอด ซึ่งตนและเพื่อนตำรวจเต็มใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล แม้จะไม่ได้กลับบ้านช่วงวันแม่ แต่ก็ใช้วิธีการติดต่อทางโทรศัพท์กับแม่ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว หรือเดินทางกลับบ้านไปกราบแม่หลังเสร็จสิ้นภารกิจ
สุดท้ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความรักจากอ้อมอกแม่ จะคอยเป็นกำลังใจ และเตือนสติ ให้พวกเราทุกคนเป็นคนดีของสังคม ของชาติบ้านเมือง วันนี้...คุณกลับไปกราบเท้าและหนุนตักแม่หรือยัง....ทีมข่าวอาชญากรรมขออนุญาตนำเนื้อหาในบทเพลง"อิ่มอุ่น"ของ"ศุ บุญเลี้ยง"มาปิดท้ายในวันมหามงคล อย่าง"วันแม่"ของพวกเราทุกคน....
"อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง
** ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป ใช่เพียงอิ่มท้อง ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น อุ่นไอรัก อุ่นละมุน ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน"






ส.ต.อ.หญิงนุตรจริน สีเห็มทอง ผบ.หมู่.ฝอ.ปศท. บอกว่า แม่ของเธออยู่ที่จ.ชัยภูมิ ขณะที่เธอเองต้องทำงานอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่เคยลืมที่จะโทรศัพท์ถามสารทุกข์สุขดิบกันโดยตลอด นอกจากนี้ทุกๆเดือนเธอก็จะส่งเงินไปให้ ถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่ถือว่าได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีแล้ว ขณะเดียวกันหากเป็นช่วงวันหยุดยาว เธอก็จะกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ตลอด
“ความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับแม่ แทบไม่เคยแสดงความรัก แบบกอดจูบ อะไรแบบนี้เลย เพราะพี่เป็นคนต่างจังหวัด ชีวิตก็ต้องดิ้นรนทำมาหากินมาโดยตลอด นานๆครั้งถึงได้เจอกัน แต่หากมีโอกาสก็อยากกอดแม่ บอกรักแม่เหมือนกัน พี่เชื่อว่าลึกๆแล้วแม่รู้นะ ว่าพี่รักแม่แค่ไหน วันแม่ปีนี้ อยากขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรง พักผ่อนมากๆ รักแม่ค่ะ”ส.ต.อ.หญิงนุตรจรินกลั่นความในออกมาเป็นคำพูด
จ.ส.ต.หญิงสายฝน บุญละออ ผบ.หมู่ ฝอ.6 (ประชาสัมพันธ์) บก.อก.บช.น. บอกว่า ในฐานะที่เป็นลูก สำหรับวันที่ 12 ส.ค.นี้ ไม่คิดว่าเป็นวันพิเศษ เพราะปกติก็ถือว่าทุกวันเป็นวันพิเศษ และได้ทำดีทุกวันอยู่แล้วเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำเสมอคือการทำให้แม่สบายใจ และจะโทรไปคุยกับแม่ทุกวัน
ในขณะเดียวกัน จสต.หญิงสายฝนยังได้ทำหน้าที่บทบาทของความเป็น"แม่"ด้วย โดยบอกกับเราว่า ไม่ได้หวังว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะต้องเก่ง หรือมีความสามารถพิเศษใด ๆ ขอเพียงให้เรียนจบ สามารถเอาตัวรอดได้ในสังคม รวมถึงเป็นคนดีของพ่อแม่และคนรอบข้าง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพียงเท่านี้ ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว
ตำรวจหญิงอีกคนอย่างส.ต.อ.หญิงกมลรัตน์ จิตมโนธรรม ผบ.หมู่ ฝอ.6 (ประชาสัมพันธ์) บก.อก.บช.น. บอกว่า วันที่ 12 ส.ค. เปรียบเสมือนวันแม่ของแผ่นดิน และอยากให้เป็นวันที่ลูก ๆ ทุกคนได้แสดงความรักที่มีต่อแม่เพราะถือเป็นวันที่พิเศษ และเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้บอกรักแม่ อยากให้ถือวันนี้เป็นเป็นวันที่บอกรักแม่ เพียงสักวันก็ยังดี
ส่วนการรับหน้าที่ของความเป็น"แม่"ของส.ต.อ.หญิงกมลรัตน์นั้น บอกความรู้สึกกับเราว่า ตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้อง รู้สึกดีใจมากที่จะได้เป็นแม่ และเมื่อคลอดออกมาก็หวังเพียงอยากให้ลูกเป็นคนดี เชื่อฟังพ่อแม่ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนเก่งหรือพิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งขณะนี้ได้แนะนำสิ่งที่ดี ๆ ให้ลูกฟังอยู่เสมอ และให้ตั้งใจเรียนเพราะเมื่อโตไปจะได้ไม่ลำบากและอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ แต่สิ่งที่ภูมิใจคือการที่ลูกชาย บอกรักพ่อและแม่ทุกวัน
กลับมาลองดูความรู้สึกดีๆของลูกชายที่มีต่อ"แม่"กันบ้าง พล.ต.ต. จิรโรจน์ กี่ศิริ ผู้บังคับการกองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ"ผู้การกี่"บอกว่า แม่เป็นผู้ที่มีพระคุณสูงสุด ทุกอย่างที่ตั้งขึ้นมาในโลกนี้ ล้วนมีคำว่าแม่ทั้งนั้น เช่น แม่น้ำ แม่ทัพนั้น แม่เป็นผู้ที่มีพระคุณใหญ่หลวง เป็นผู้ให้กำเนิดเรา ให้อะไรแก่เราทุกอย่างแม่พร้อมที่จะตายแทนลูกได้ เราตอบแทนเท่าไหร่ก็ไม่หมด สำหรับครอบครัวตนนั้น ขณะที่แม่ตั้งท้องได้ 3 เดือนคุณพ่อก็เสีย แต่คุณแม่ก็ไม่มีแฟนใหม่ เลี้ยงลูกคนเดียวจนเติบใหญ่ ดังนี้ สำหรับตนแล้วคุณแม่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ ตอนเป็นเด็ก อาจจะเกเรอาละวาดบ้างตามประสา แต่แม่จะคอยสั่งสอนตลอดเวลา ให้เห็นใจสงสารคนที่อ่อนแอและด้อยกว่าเรา
“คุณแม่เป็นอาจารย์อยู่ที่คณะเภสัช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นแม่พระของลูกศิษย์ทุกคน เราก็ซึมซับความเมตตากรุณามาตลอดก็เลยเห็นว่าคุณแม่เป็นอย่างไร เมื่อมาอยู่ที่กองสวัสดิการ ก็จะมีเมตตา เอื้ออาทรกับทุกคน และทำตราสัญลักษณ์ประจำกองสวัสดิการ เป็นรูปพระพรหม หมายถึงความเมตตากรุณา”
ผู้การกี่บอกอีกว่า ขณะนี้คุณแม่อายุ 87 ปี ปฏิบัติธรรมอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม จ.ชลบุรี ซึ่งท่านจะปฏิบัติธรรม 2 ครั้ง คือช่วงกุมภาพันธ์ที่เป็นเดือนเกิด และเข้าพรรษาอีก 4 เดือน ซึ่งเป็นคำขอของตนและเป็นการตอบแทนพระคุณท่าน ให้ท่านได้ปฏิบัติธรรมอย่างน้อยปีละ 5-6 เดือน
ตำรวจจราจรอย่าง จ.ส.ต. จำเริญ การค้า วัย 43 ปี ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ โครงการพระราชดำริ สังกัดกก.6 บก.จร. บช.น. บอกความรู้สึกดีๆที่มีต่อ"แท่"ว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีมหามงคล เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และใกล้จะถึงวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.นี้ ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ก็จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด ซึ่งปีนี้คงไม่ได้กลับบ้านที่จ.อุบลราชธานีเหมือนปีที่ผ่านๆ มา เนื่องจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ( บช.น.) ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพระราชพิธีเนื่องในวันแม่แห่งชาติ อย่างไรก็ตามในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริก็ยังให้บริการประชาชนตามปกติ เช่น การช่วยเหลือฉุกเฉิน ระบายการจราจร รวมทั้งการทำคลอด ซึ่งตนและเพื่อนตำรวจเต็มใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล แม้จะไม่ได้กลับบ้านช่วงวันแม่ แต่ก็ใช้วิธีการติดต่อทางโทรศัพท์กับแม่ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว หรือเดินทางกลับบ้านไปกราบแม่หลังเสร็จสิ้นภารกิจ
สุดท้ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความรักจากอ้อมอกแม่ จะคอยเป็นกำลังใจ และเตือนสติ ให้พวกเราทุกคนเป็นคนดีของสังคม ของชาติบ้านเมือง วันนี้...คุณกลับไปกราบเท้าและหนุนตักแม่หรือยัง....ทีมข่าวอาชญากรรมขออนุญาตนำเนื้อหาในบทเพลง"อิ่มอุ่น"ของ"ศุ บุญเลี้ยง"มาปิดท้ายในวันมหามงคล อย่าง"วันแม่"ของพวกเราทุกคน....
"อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง
** ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป ใช่เพียงอิ่มท้อง ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น อุ่นไอรัก อุ่นละมุน ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน"