3 มือปืนบุกยิงสองผัวเมียตายดับอนาถคาอพาร์ตเมนต์ย่านรามคำแหง โดนลูกสาวเจ็บอีกราย เผยปมมรณะมาจากครอบครัวเหยื่อกระสุนเข้ามาเป็นผู้ปกครองคอยดูแลเด็ก 3 คนที่เป็นทายาทผู้รับมรดกเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุจนได้เรื่อง ถูกญาติๆตัวจริงๆ ไม่พอใจฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อแย่งเป็นผู้ปกครองเด็กทั้ง 3 คน จนกระทั่งถูกตามเก็บในที่สุด เผยสุดอำมหิตยิงเหยื่อทั้งที่ยังยืนละหมาด
เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (4 ส.ค.) พ.ต.ท.สมภพ ทุนผลงาม สารวัตรเวร สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตภายในนัจเมี๊ยะห์ อพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 80 ซอยรามคำแหง 37 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชัยณรงค์ ลิมปิทีป ผกก.สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจาก กก.สส.บก.น.4 และสน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 5 ชั้น แบ่งเป้นห้องให้เช่าประมาณ 60 ห้อง โดยบริเวณห้องชั้นล่างด้านหน้าขวาสุดซึ่งเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง เจ้าหน้าที่พบศพ นายสมพงษ์ บำรุงสุข อายุ 51 ปี สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวา 1 นัด กระสุนทะลุหลัง และบริเวณแก้มขวาอีก 1 นัด
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาไปก่อนหน้านี้แล้ว รายแรกคือ นางตุ๊ บำรุงสุข อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/10 ซอยรามคำแหง 4 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมพงษ์ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณกกหู 1 นัด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอีกรายคือ น.ส.นภาพร บำรุงสุข อายุ 23 ปี ลูกสาวของผู้ตายทั้งสองคน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่หน้าขาขวา 1 นัด และนิ้วมือขวาอีก 1 นัด
จากการสอบสวน น.ส.นัจมะห์ ชาติแขก อายุ 17 ปี ด.ช.คัดฐเลิก ชาติแขก อายุ 14 ปี และด.ช.สุชาติ ชาติแขก อายุ 13 ปี สามพี่น้องเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจนั่งเศร้าสลดนั่งอยู่ภายในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.นัจมะห์ ให้การว่า ตนเองเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ โดยปกติแล้วที่บ้านของตนจะพักอาศัยกันอยู่ 6 คน มีตนเองและน้องชายอีก 2 คน คือ ด.ช.คัดฐเลิก และ ด.ช.สุชาติ ส่วนอีก 3 คน คือ นางตุ๊ ผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนของแม่ นายสมพงษ์ สามีของนางตุ๊ และน.ส.นภาพร ลูกสาว เป็นผู้ปกครองที่มาคอยดูแลพวกตนหลังจากที่แม่ของตนได้เสียชีวิตลงไป
น.ส.นัจมะห์ ให้การต่อว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.00 น. พวกตนช่วยกันปิดร้านขายข้าว โดยเปิดประตูบานเลื่อนเอาไว้เพื่อให้แมวออกกินข้าวข้างนอกบ้าน จากนั้นก็เข้านอน โดยตนและน้องชายทั้งสองคนนอนห้องด้านนอก ส่วนครอบครัวของนางตุ๊นอนห้องด้านใน กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 03.45 น. ขณะที่นางตุ๊กำลังละหมาดอยู่นั้นก็ได้มีคนร้ายจำนวน 3 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ แต่งกายสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คันมาจอดที่หน้าบ้าน
หลังจากนั้นคนร้าย 2 คนได้ตรงเข้ามายกประตูบานเลื่อนขึ้น โดยคนหนึ่งยืนคุมเชิงอยู่ด้านนอก ส่วนอีกคนตรงเข้ามาใช้ปืนจ่อยิงนางตุ๊ทั้งที่ยังละหมาดอยู่จนล้มลง พวกตนเห็นดังนั้นจึงพยายามเข้าไปต่อสู้ แต่ก็ถูกคนร้ายผลักจนล้ม จากนั้นคนร้ายคนเดิมก็ตรงเข้าไปจ่อยิงนายสมพงษ์จนเสียชีวิต และยิง น.ส.นภาพร ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ก่อนที่คนร้ายทั้ง 3 คนจะรีบขี่รถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งกันที่จะแย่งเป็นผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คน เพราะหลังจากที่แม่ของเด็กทั้ง 3 คนเสียชีวิตนั้น นางตุ๊และนายสมพงษ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของแม่ได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองคอยดูแลความเป็นอยู่และจัดการเรื่องผลประโยชน์จากทางอพาร์ตเมนต์ให้เด็กทั้ง 3 คน ทำให้ฝั่งญาติของเด็กทั้ง 3 คนไม่พอใจจนมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะถูกว่าจ้างมาให้ยิงนางตุ๊ และนายสมพงษ์โดยเฉพาะ เพราะไม่มีการทำร้ายเด็กหรือยิงเด็กทั้ง 3 คนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะสอบปากคำเด็กทั้ง 3 คนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งเชิญตัวญาติของเด็กที่มีความขัดแย้งกับผู้ตายมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมทั้งติดตามตัวคนร้ายทั้ง 3 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป