นักธุรกิจสาวใหญ่ เผยคลิปวิดีโอฉาวสัมพันธ์สวาทเจ้าอาวาสวัดดังเมืองสุพรรณ ระบุพฤติกรรมสุดแสบใช้เงินทำบุญหลักแสนขอหมั้นหมายสาวคู่ขา แต่ไม่วายเจ้าชู้แอบมีกิ๊กใหม่เลยถูกแฉ เตรียมร้องมหาเถรสมาคมตรวจสอบ
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นางหน่อย (นามสมมติ) อายุ 45 ปี อาชีพนักธุรกิจ ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นภาพของ พระครูพิศาลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี กำลังมีความสัมพันธ์อยู่กับตัวเองภายในห้องพัก มาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนนทบุรี
โดยนางหน่อยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาตนเองกับเพื่อนหญิงได้เดินทางไปทำบุญบวชสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดแห่งนี้ตามคำชักชวนของเพื่อน โดยได้ซื้อนมกล่องไปร่วมทำบุญจำนวน 100 กล่อง และบริจาคเงินสดอีก 3,000 บาท ต่อมาพระครูพิศาลศาสนกิจได้เรียกตนกับเพื่อนให้ไปพบที่กุฏิเพื่อจะมอบพระบูชาให้เป็นที่ตอบแทนที่ได้ทำบุญกับวัด จากนั้นทางเจ้าอาวาสก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์มือถือของตนไป โดยอ้างว่าจะเอาไว้เพื่อติดต่อขอให้ช่วยทำบุญในงานกฐิน
หลังจากนั้น พระครูพิศาลศาสนกิจก็ได้โทรศัพท์ติดต่อหาตนเองเป็นประจำ ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ไปจนถึงกลางคืนวันละหลายเวลา จนกระทั่งเริ่มพูดคุยในทำนองชู้สาวกัน ซึ่งในช่วงนั้นตนเองก็ยังไม่คิดอะไรมากจนกระทั่งต่อมาพระครูพิศาลศาสนกิจเริ่มพูดจาหว่านล้อมตนว่าจะยอมสึกมาอยู่กินฉันสามีภรรยา แต่ขอทำงานสร้างหอวิปัสสนาของวัดประมาณ 30 ล้านบาทให้เสร็จเสียก่อน และเพื่อยืนยันความจริงใจ พระครูพิศาลศาสนกิจได้ขอหมั้นหมายตนเองเอาไว้ด้วยเงินจำนวน 1 แสนบาท
นางหน่อย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเป็นต้นมา พระครูพิศาลศาสนกิจและตนเองก็เริ่มมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดเรื่อยมา จนถึงขั้นเรียกนามแทนตัวกันว่าพ่อกับแม่ แทนชื่อตัวเองโดยในแต่ละวัน พระครูพิศาลศาสนกิจได้สั่งให้ตนซื้อโจ๊ก ซุปไก่สกัด รังนก พร้อมกับวีซีดีลามกไปฝากเสมอ
แต่หลังจากคบหากันต่อมา พระครูพิศาลศาสนกิจได้กลับไปติดต่อกับหญิงสาวซึ่งเคยมีความสัมพันธ์กัน ทำให้ตนโกรธมากจนมีปากเสียงกันหลายครั้ง ซึ่งทางพระครูพิศาลศาสนกิจรับปากว่าจะเลิกคบกับหญิงสาวคนดังกล่าว แต่ก็ไม่ยอมรักษาคำพูด ตนจึงได้วางแผนพาพระครูพิศาลศาสนกิจไปร่วมหลับนอนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้แฉพฤติกรรมให้กับสังคมเห็น พร้อมกับเตรียมนำหลักฐานดังกล่าวไปยื่นให้มหาเถรสมาคม ดำเนินการกับพระครูพิศาลศาสนกิจต่อไป
ทั้งนี้ นางหน่อยกล่าวด้วยว่า การที่ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวไม่ได้ต้องการเงินหรือแบล็กเมล์พระครูพิศาลศาสนกิจ แต่ต้องการแก้แค้นที่ถูกนอกใจ นอกจากนี้ยังอยากให้ทางมหาเถรสมาคมตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดแห่งนี้ด้วย