ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต เด็กอุเทนถวาย แทงช่างกลปทุมวันตาย บนรถเมล์สาย 47 คำให้การมีประโยชน์ ศาลปรานีลดโทษเหลือจำคุก 33 ปี
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายศุภกิจ หรือวัชรินทร์ หรือบอย อินสว่าง อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล อุเทนถวาย เป็นจำเลยฐานฆ่านายชัยพร จรูญภักดิ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์แผนกเคมีอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีฯปทุมวัน โดยเจตนา และพกพาอาวุธมีด
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2547 จำเลยได้พกพาอาวุธมีด ยาว 20.5 ซม.ขึ้นไปบนรถประจำทาง ขสมก.สาย 47 แล้วได้ก่อเหตุชกต่อยนายชัยพร ผู้ตายซึ่งเป็นนักเรียนสถาบันคู่อริ จากนั้นใช้อาวุธมีดแทงที่หัวใจผู้ตายจำนวน 1 ครั้ง แล้วจึงผลักให้ตกจากรถเมล์จนศีรษะผู้ตายฟาดพื้นและเสียชีวิต เหตุเกิดที่หน้าอาคารอับดุลลาฮิม ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. จากนั้นจึงหลบหนีไปอยู่ที่พัทยา ต่อมาตำรวจจับตัวไว้ได้จำเลยให้การปฏิเสธ ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยขอประกันตัวแต่ศาลไม่อนุญาต
ศาลพิเคราะห์พานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่าคดีนี้โจทก์มีนายเสกสรรค์ การบรรจง กับนายเคน ป้องสนาม พนักงานโรงแรมมณเฑียร เบิกความสอดคล้องกันว่า ขณะอยู่บนรถประจำทางได้เห็นจำเลยขึ้นมาบนรถแล้วเดินเบียดผู้โดยสารจำนวนมากที่ยืนแน่นในรถ จากนั้นได้ทำร้ายผู้ตายก่อนแล้วจึงใช้มีดแทง ขณะที่จำเลยเบิกความลอยๆ ว่าเป็นฝ่ายถูกทำร้ายก่อน พอล้มลงก็เจอมีดวางอยู่บนพื้นรถประจำทางจึงคว้ามีดแทงผู้ตายไปเพื่อป้องกันตัว
ศาลเห็นว่าเป็นคำเบิกความที่ฟังไม่ขึ้น เมื่อโจทก์มีประจักษ์พยานยืนยันจึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นผู้ฆ่าผู้ตาย จึงพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การจำเลยมีประโยชน์อยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษคงรับโทษจำคุก 33 ปี



วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายศุภกิจ หรือวัชรินทร์ หรือบอย อินสว่าง อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล อุเทนถวาย เป็นจำเลยฐานฆ่านายชัยพร จรูญภักดิ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์แผนกเคมีอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีฯปทุมวัน โดยเจตนา และพกพาอาวุธมีด
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2547 จำเลยได้พกพาอาวุธมีด ยาว 20.5 ซม.ขึ้นไปบนรถประจำทาง ขสมก.สาย 47 แล้วได้ก่อเหตุชกต่อยนายชัยพร ผู้ตายซึ่งเป็นนักเรียนสถาบันคู่อริ จากนั้นใช้อาวุธมีดแทงที่หัวใจผู้ตายจำนวน 1 ครั้ง แล้วจึงผลักให้ตกจากรถเมล์จนศีรษะผู้ตายฟาดพื้นและเสียชีวิต เหตุเกิดที่หน้าอาคารอับดุลลาฮิม ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. จากนั้นจึงหลบหนีไปอยู่ที่พัทยา ต่อมาตำรวจจับตัวไว้ได้จำเลยให้การปฏิเสธ ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยขอประกันตัวแต่ศาลไม่อนุญาต
ศาลพิเคราะห์พานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่าคดีนี้โจทก์มีนายเสกสรรค์ การบรรจง กับนายเคน ป้องสนาม พนักงานโรงแรมมณเฑียร เบิกความสอดคล้องกันว่า ขณะอยู่บนรถประจำทางได้เห็นจำเลยขึ้นมาบนรถแล้วเดินเบียดผู้โดยสารจำนวนมากที่ยืนแน่นในรถ จากนั้นได้ทำร้ายผู้ตายก่อนแล้วจึงใช้มีดแทง ขณะที่จำเลยเบิกความลอยๆ ว่าเป็นฝ่ายถูกทำร้ายก่อน พอล้มลงก็เจอมีดวางอยู่บนพื้นรถประจำทางจึงคว้ามีดแทงผู้ตายไปเพื่อป้องกันตัว
ศาลเห็นว่าเป็นคำเบิกความที่ฟังไม่ขึ้น เมื่อโจทก์มีประจักษ์พยานยืนยันจึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นผู้ฆ่าผู้ตาย จึงพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การจำเลยมีประโยชน์อยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษคงรับโทษจำคุก 33 ปี