หนูน้อยวัย 9 ขวบไปเรียนว่ายน้ำแล้วเกิดจมน้ำหมดสติ หมอระบุอาการโคม่า โอกาสรอดน้อยมาก เพราะขาดอากาศหายใจนาน ตกดึกยังไม่ฟื้น พ่อสุดทนขึ้นโรงพักแจ้งจับครูสอนว่ายน้ำ เพราะโรงเรียนเงียบหายไม่ยอมมาชี้แจง ด้านโรงเรียนอ้างสอบสวนแล้วเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ยินดีรับผิดชอบทั้งหมด
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ นายสมจิตร พระมงคล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.พีระ ราศี ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่ออาจารย์สอนว่ายน้ำของโรงเรียนอนุสาส์นวิทยาสมุทรปราการ ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
โดย นายสมจิตรให้การว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด.ช.ปรับปรุง พระมงคล หรือน้องปรุง อายุ 9 ขวบ ลูกชายของตนได้ไปเรียนว่ายน้ำที่โรงเรียนอนุสาส์นวิทยาสมุทรปราการ โดยมีอาจารย์ผู้สอนของทางโรงเรียนจำนวน 2 คน นำเด็กนักเรียนจำนวน 30 คน รวมทั้งน้องปรุงไปฝึกว่ายน้ำสระฉัตรสุดา แต่คงเป็นเพราะอาจารย์ดูแลเด็กไม่ทั่วถึงจนทำให้น้องปรุงจมน้ำหมดสติ ถูกนำส่งโรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ ซึ่งแพทย์ระบุว่าโอกาสที่น้องปรุงจะรอดชีวิตนั้นน้อยมากเนื่องจากขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน ตนจึงได้แต่เฝ้ารอเท่านั้น
นายสมจิตร กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตนพยายามสอบถามทางโรงเรียนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ทางโรงเรียนกลับนิ่งเฉย ไม่มีใครตัวแทนของทางโรงเรียนมาพูดคุยชี้แจงกับตนทั้งในเรื่องเหตุที่เกิดขึ้น และค่ารักษาพยาบาล จึงปรึกษากับญาติก่อนจะตัดสินใจเข้าแจ้งความดังกล่าว เนื่องจากคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความประมาทเลินเล่อของอาจารย์ผู้สอน
หลังรับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการน้องปรุงที่ห้องไอซียูของโรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ พบน้องปรุงยังไม่ได้สติ และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา
ทางด้าน นางอรวรรณ ภู่ประดิษฐ หัวหน้าชั้นปีที่ 2 โรงเรียนอนุสาส์นวิทยาสมุทรปราการ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนไม่ได้ทอดทิ้งเด็กแต่อย่างใด โดยตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงเวลานี้ อาจารย์ของทางโรงเรียนก็สลับสับเปลี่ยนกันมาเฝ้าดูอาการของเด็กที่หน้าห้องไอซียูอยู่ตลอดเวลา แต่ที่ไม่ได้ชี้แจงผู้ปกครองนั้นเป็นเพราะเห็นว่ายังอยู่ในอาการที่โศกเศร้า เพราะเด็กยังไม่พ้นขีดอันตราย
นางอรวรรณ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้หากเด็กฟื้นคืนสติแล้วก็จะชี้แจ้งรายละเอียดทั้งหมดให้ทางผู้ปกครองของเด็กทราบ โดยทางโรงเรียนเองก็ได้มีการสอบสวนอาจารย์ผู้สอนว่ายน้ำแล้วพบว่าเป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากดูแล้วไม่น่าจะเกิดอันตราย ขณะเกิดเหตุอาจารย์ผู้สอนก็อยู่กับเด็กนักเรียนในสระว่ายน้ำ โดยโรงเรียนเปิดสอนว่ายน้ำมาแล้วเป็นเวลา 5 ปี และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน ส่วนในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลนั้น นักเรียนทุกคนมีประกันอุบัติเหตุอยู่ และถึงแม้ว่าไม่มีประกัน ทางโรงเรียนก็จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน