xs
xsm
sm
md
lg

ปาร์ตี้ “บลูไดมอนด์” อาถรรพณ์เพชรซาอุฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“มหากาพย์เพชรซาอุฯ” ปฐมบทแห่งคดี อุ้มฆ่าแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ อมตะบลูไดมอนด์เพชรล้ำค่า กระทบความสัมพันธ์ทางการทูตต่อรัฐบาลไทย “ปาร์ตี้อาถรรพณ์เพชรซาอุฯ” เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ใครที่ข้องแวะด้วยต้องมีอันไปเป็นทุกราย ขณะที่ “บลูไดมอนด์” ยังคงสูญหายจวบจนวันนี้

กว่า 10 ปีที่ผ่านมา กับตำนานแห่งคดีเพชรซาอุฯ ยังมิจางหายเมื่อศาลอาญาตัดสินคดียักยอกเพชรซาอุฯ อันมี พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรม กับพวกรวม 8 คน ตกเป็นจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบติหน้าที่มิชอบ เบียดบังยักยอกทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตนเองสำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ชลอ กับพวก เป็นจำเลยต่อศาล เมื่อวันที่ 7 ก.ค.36 ซึ่งจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้สืบพยานโจทก์ 37 ปาก สืบพยานจำเลยจนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 มี.ค.49 โดยใช้เวลาประมาณ 13 ปี กระทั่งศาลนัดอ่านคำพิพากษา (30 พ.ค.) แต่เนื่องจากคดีนี้มีสลับซ้อนและมีเอกสารเป็นจำนวน ศาลจึงขอเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 29 มิ.ย.เวลา 13.30 น.

สำหรับทรัพย์สินต่างๆ ที่ พล.ต.ท.ชลอ กับพวกถูกกล่าวหาว่ายักยอกไปนั้นประมาณ 7-8 รายการ เช่น นาฬิกาข้อมือฝังเพชรยี่ห้อโชปาร์ด, นาฬิกายี่ห้อบูเช่กิรอด, อัญมณีแดงรูปดอกลำดวน 5 แฉก สร้อยเพชร สร้อยคอทองคำฝังเพชร จี้เพชร โดยเฉพาะบลูไดมอนด์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพชรอาถรรพณ์ ที่ยังคงสูญหายและไม่รู้ว่าถูกสับเปลี่ยนตกไปอยู่ในมือใคร

คดียักยอกเพชรซาอุฯ พล.ต.ท.ชลอ พร้อมพวกถูกยื่นฟ้องคดีเป็นคดีแรก ภายหลังจากนายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานไทยในพระราชวังของกษัตริย์ไฟซาล ได้ขโมยเพชรบลูไดมอนด์ และเครื่องเพชรต่างๆ รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท กลับมาประเทศไทย และขายให้กับนายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ เสี่ยเจ้าของร้านเพชร “สันติมณี”

จนภายหลังนายเกรียงไกรถูกจับกุมดำเนินคดี และศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี ส่วนนายสันติถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจร ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 3 ปี นอกจากนี้ พล.ต.ท.ชลอ กับพวก 9 คนตกเป็นจำเลยคดีอุ้มฆ่าแม่ลูก “ศรีธนะขัณฑ์” คือ นางดาราวดี และด.ช.เสรี ภรรยาและบุตรชายของนายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ โดยล่าสุดศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษประหารชีวิต พล.ต.ท.ชลอ สถานเดียว และคดีคดี อุ้มนายสันติ พ่วงท้ายอีกหนึ่งคดี

ชะตากรรมของ พล.ต.ท.ชลอ ซึ่งถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ประหารชีวิต เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า อาถรรพณ์เพชรซาอุฯ นั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด เพราะใครก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้อง “มีอันเป็นไป” เกือบทุกราย

ตำนานเพชรอาถรรพณ์เริ่มจาก นายเกรียงไกร เตชะโม่ง หนุ่มเมืองรถม้า จ.ลำปาง ซึ่งเดินทางไปทำมาหากินเพื่อหวังขุดทองในผืนทะเลทรายแห่งตะวันออกกลาง แต่ลึกๆ เขาก็ไม่ได้คิดจะไปร่ำรวยจากค่าแรงเหมือนคนงานคนอื่นเท่าใดนัก แต่คาดหวังจากการเสี่ยงดวง “เล่นไฮโล” เสียมากกว่า เพราะนิ้วมือของเขานั้น “ฝังแม่เหล็ก” ไว้ทั้งสองข้าง และเมื่อผ่านเครื่องเอกซเรย์โลหะก็จะมีสัญญาณเตือนดังขึ้นทุกครั้ง

ทว่า โชคชะตากลับชักพาไปไกลกว่านั้น เมื่อเขาถูกทาบทามให้เข้าไปทำงานในพระราชวังของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และนั่นคือปฐมบทแห่ง “มหากาพย์เพชรซาอุฯ”...

อาถรรพณ์เพชรซาอุฯ เปิดฉากขึ้นโดยความรูเท่าไม่ถึงการณ์ของสันดานโจรอย่างเกรียงไกร ...เมื่อข้าราชบริพารในพระราชวังของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย ต่างหายหน้าหายตา นายเกรียงไกรจึงฉวยโอกาสอันล้ำค่าสำรวจดูทรัพย์สินภายใน และต้องตกตะลึงกับเครื่องเพชรนิลจินดา แต่กรรมกรคนงานอย่างเกรียงไกร คงนึกไม่ถึงมูลค่าอันมหาศาลและประวัติของเครื่องเพชรจะมีที่มาอย่างไร เกรียงไกรจึงวางแผนฉกเพชรมาได้ถึง 2 ครั้ง และผ่านด่านศุลกากรของทั้งสองประเทศมาได้อย่างง่ายดาย

คล้อยหลังไม่นาน ทางการซาอุฯ ก็รู้ว่าเครื่องเพชรอันประเมินค่ามิได้ถูกหนุ่มคนงานไทยโจรกรรมออกมา จึงประสานมายังรัฐบาลไทยให้ติดตามเพชรประจำราชวงศ์ส่งคืนโดยเร่งด่วน

พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อธิบดีกรมตำรวจ (ในขณะนั้น) จึงมอบหมายให้ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ผู้เคยรับผิดชอบพื้นที่ในเขตภาคเหนือออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่ทางการซาอุฯ

จากนั้น “อาถรรพณ์เพชรซาอุฯ” ก็เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์ เมื่อนายเกรียงไกรถูกชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.ชลอ จับกุม และนำมารีดจนยอมคายเพชรออกมา แถมยังบอกด้วยว่ามีใครรับซื้อไปบ้าง เนื่องจากกลัวว่าจะถูกจับส่งไปดำเนินคดีที่ซาอุฯ ซึ่งมีโทษเพียงสถานเดียว คือ “แขวนคอ”

การจับกุมนายเกรียงไกร ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ เริ่มกระเตื้องขึ้นมาบ้าง โดยมือปราบอย่าง พล.ต.ท.ชลอ ได้รับการยกย่องจากทางการซาอุฯ ให้เป็นแขกพิเศษ แถมยังถูกยกให้เป็น “ชี้ค” โดยหารู้ว่ามีการยักยอกเพชรจำนวนหนึ่ง จนนำมาสู่ความสัมพันธ์อันราวฉานระหว่างรัฐบาลไทย และซาอุฯ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ (ในขณะนั้น) ได้เดินทางไปเยือนซาอุฯ อย่างเป็นทางการ แต่กลับต้องหน้าแตกเมื่อทางการซาอุฯ ตอกกลับว่า “คุณเอาเพชรปลอมมาคืน แถมชุดที่เหลือยังหายไปอีกมาก แบบนี้แล้วเราจะสานความสัมพันธ์กันได้อย่างไร”

รัฐบาลไทยในยุคนั้นถึงกับเก้าอี้ร้อน จึงต้องตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาหาเพชรกันอย่างพลิกแผ่นดิน โดยสั่งให้เริ่ม “ย้อนรอย” ตั้งแต่ชุดทำงานของ พล.ต.ท.ชลอ เพื่อติดตามว่าเพชรไปอยู่ในมือใคร โดยมุ่งเน้นไปที่เส้นทางการซื้อขายเพชรเพื่อตรวจสอบดูว่า เพชรน่าจะอยู่ในมือใครบ้าง ในที่สุดพล.ต.ท.ชลอ ถึงคราวตกอับเพราะอาถรรพณ์เพชรซาอุฯ! จากมือปราบผู้โด่งดังต้องเข้าไปชดใช้กรรมในคุก ฐานะจำเลย

สำหรับเพชรล้ำค่าซึ่งเชื้อพระวงศ์ซาอุฯ ต้องการคืนมากที่สุดคือ เพชรบลูไดมอนด์ เนื่องจากเป็น “เพชรอาถรรพณ์” แม้กระทั่งช่างที่เจียระไนก็ต้องมีอันเป็นไปสาบสูญไปจากโลก

บลูไดมอนด์ จึงเป็นเพียงเพชรชุดเดียวที่มีอยู่ในโลก และไม่ว่าจะตกไปอยู่ในมือใคร กษัตริย์ซาอุฯ ก็จะจำได้เสมอ เพราะมีการทำตำหนิไว้ด้วย “แสงอินฟราเรด” อยู่ภายในใจกลางของเม็ด แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครหาพบ!?

นายเกรียงไกร สารภาพว่า ได้ขโมยบลูไดมอนด์มาด้วย แต่ไม่ทราบว่าตกไปอยู่ในมือใครระหว่างพ่อค้าเพชรย่านสะพานเหล็ก หรือชุดจับกุม โดยซัดทอดว่าเพชรทั้งหมดถูกขายให้กับนายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ เจ้าของร้านเพชรย่านสติมณี

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของคดีสะเทือนขวัญ “อุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์” ขณะที่นายสันติตกเป็นจำเลยในคดีรับของโจรแล้ว ครอบครัวต้องพังทลายในพริบตาหลังการสูญเสียภรรยาและบุตรชาย เพราะตกอยู่ในมนต์ดำ “อาถรรพณ์แห่งเพชรซาอุฯ” นั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น