อุกอาจเย้ยกฎหมาย!! คนร้ายไม่ทราบจำนวนควบกระบะตามประกบ กระหน่ำเอ็ม 16 ใส่รถ ส.ส.กอบกุล ดับคาที่ขณะรถติดไฟแดงกลางเมืองราชบุรี คนขับเลขาฯ เจ็บสาหัส คาดปมการเมืองหรือหักหลังธุรกิจรับเหมา เชื่อเป็นมืออาชีพและเฝ้าติดตามเหยื่อจนสบโอกาส
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 27 พ.ค. พ.ต.ท.สมชาย ทองเสงี่ยม สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.ราชบุรีรับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงใส่รถ ส.ส.พรรคไทยรักไทย บริเวณไฟแดงแยกนิสสัน เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ม.2 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) มูลนิธิสว่างราชบุรี รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณไฟแดงแยกนิสสัน ถนนเพชรเกษมขาออก กลางเทศบาลเมืองราชบุรี เจ้าหน้าที่พบรถกระบะมิตซูบิชิ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ณข-5555 ราชบุรี สภาพด้านข้างพรุนไปด้วยรอยกระสุน และพบปลอกกระสุนขนาดเอ็ม 16 ตกอยู่เกลื่อนพื้นกว่า 40 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภายในรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา คือ นางกอบกุล นพอมรบดี อายุ 47 ปี อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคไทยรักไทย กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะจำนวน 1 นัด หน้าอก 1 นัด เสียชีวิตบริเวณเบาะหลังของรถยนต์คันดังกล่าว นอกจากนี้ยังทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวน 2 ราย พลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลเมืองราช ทราบชื่อต่อมาคือ นายชาตรี ศุภรานันท์ อายุ 53 ปี คนขับรถของนางกอบกุล ได้รับบาดเจ็บสาหัสแพทย์กำลังผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเป็นการเร่งด่วน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 คน ทราบชื่อคือ จ.ส.ต.สายชล แก้วสายทอง ถูกยิงเข้าที่บริเวณชายโครงขวา 1 นัด
จากการสอบสวน จ.ส.ต.สายชล ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางกอบกุล นายชาตรี และตนได้กลับจากงานบวช ที่ ต.เกาะพลับพลา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุขณะจอดติดไฟแดง มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ด้านหลังมีโครงเหล็ก ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กระหน่ำยิงเข้ามาในรถที่มีนางกอบกุลนั่งอยู่เบาะหลังจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนตนและคนขับรถที่นั่งเบาะหน้าได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีไป ท่ามกลางความตกใจของประชาชนที่สัญจรไปมา โดยหลังคนร้ายหลบหนีไปได้มีพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้อาจจะมาจากปมการเมืองหรือธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหรือการขัดแย้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ผู้ตายกำลังจะเปิดตลาดเพชรเมืองราช ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนและติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับ นางกอบกุล นพอมรบดี เกิดวันที่ 13 ตุลาคม 2502 สำเร็จการศึกระดับปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง แต่งงานกับนายมานิต นพอมรบดี มีอาชีพรับเหมาทำถนน มีบุตรด้วยกัน 3 คน เป็น หญิง 2 ชาย 1 เข้าสู่ถนนการเมืองโดยการรับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี (อบจ.ราชบุรี) และได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายก อบจ.ถึง 3 สมัย ก่อนจะตัดสินใจลงรับสมัคร ส.ส.ครั้งแรกในนามของพรรคชาติพัฒนา เป็นรองเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา และเมื่อยุบรวมเป็นพรรคไทยรักไทย นางกอบกุลก็ยังเป็น ส.ส.อีกเป็นสมัยที่ 2 และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2544 กรรมาธิการการตำรวจ นอกจากนี้ยังได้รับพระราชเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
ด้าน พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า หลังรับรายงานเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิง นางกอบกุลเสียชีวิต ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบก.ศสส.ภ.7 เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ ผกก.กสส.และ พ.ต.อ.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผกก.ปพ. นำทีม รอง ผกก.สส.และ สว.สส.จาก บก.ศสส.ภ.7 ระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อสืบสวนสวนหาข้อเท็จจริงและติดตามตัวคนร้ายที่ลงมือสังหารโหดครั้งนี้ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องการเมือง ซึ่งนางกอบกุลได้สนับสนุนน้องชายลงสมัคร ส.ว.ราชบุรี และได้เป็นอันดับที่ 3 ส่วนประเด็นที่ 2 คือเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจ และญาติพี่น้อง ซึ่งผู้ตายนอกจากจะเป็นนักการเมืองแล้วยังมีธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ทางชุดสืบสวนจะต้องเจาะลึกเพื่อสืบหาสาเหตุของการสังหารที่แท้จริงออกมาเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเป็นมืออาชีพ และมีการเฝ้าติดตามเหยื่อจนได้โอกาสเหมาะจึงลงมือสังหาร