แขกปากีโหด เขียนคำรับสารภาพฆ่าหั่นศพครูสอนภาษาอังกฤษทุกขั้นตอน ระบุสาเหตุโกรธแค้นที่ถูกดูถูกถึงศาสนา หลังจากที่เบี้ยวค่าตั๋วเครื่องบินผู้ตาย ในขณะที่ตำรวจพบชิ้นส่วนศพครบแล้ว
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ สน.หัวหมาก พ.ต.ท.สุนทร คงกล่ำ รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก เบิกตัว นายโมฮัมหมัด อารีฟ ชาวปากีสถาน ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ น.ส.ดิสนีย์ ทองนาคแท้ อายุ 28 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษชั้น ม.1-3 ของโรงเรียนเทศบาล 1 ต.พิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาจุดที่จะนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในแต่ละจุด โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณครึ่งชั่วโมง
พ.ต.ท.สุนทร กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยการเขียนใส่กระดาษเป็นภาษาอังกฤษระบุว่า ได้นัดหมายผู้ตายมาพบส่วนตัว โดยไปรับที่สนามบินช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 7 พ.ค.จากนั้น พาผู้ตายไปที่โรงแรมราชาพาเลซ ห้อง 1004 และได้ร่วมหลับนอนกัน 3 ครั้ง หลังจากนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า ฝ่ายผู้ตายชวนไปเที่ยวต่อที่พัทยา แต่ผู้ต้องหาได้ปฏิเสธ โดยอ้างว่า ไม่มีเงิน และต้องทำงานต่ออีก จากนั้นผู้ตายทวงเงินจากผู้ต้องหาถึงค่าตั๋วเครื่องบินที่ได้สำรองจ่ายไปก่อน เนื่องจากผู้ต้องหาได้รับปากว่าจะเป็นผู้ออกค่าตั๋วเครื่องบินดังกล่าวให้ ซึ่งผู้ต้องหาได้ปฏิเสธอีกเช่นกันว่าไม่มีเงิน ทำให้ผู้ตายบันดาลโทสะ และเกิดปากเสียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ถึงขั้นถูกผู้ตายด่าทอดูหมิ่นถึงศาสนาของผู้ต้องหา จึงทำให้ผู้ต้องหาโกรธจัด ระงับอารมณ์ไม่อยู่ ใช้หมอนกดผู้ตายที่พยายามดิ้นรน และใช้เชือกรัดคอ พร้อมใช้มือบีบคอ จนผู้ตายแน่นิ่ง หลังจากที่รู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องหาไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะกลัวจะมีความผิด จึงเดินทางไปซื้อมีดที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขารัชดาภิเษก มา 2 เล่ม นำมาหั่นศพผู้ตายในห้องน้ำ จากนั้นได้นำส่วนหัวกับขาใส่กระเป๋าผู้ตาย 2 ใบ ไปทิ้งที่คลองน้ำแก้ว ซึ่งขนานกับถนนรัชดาภิเษก เป็นจุดแรก โดยใช้เวลาเดินทางห่างจากโรงแรมประมาณ 5 นาที แต่ยังเหลือลำตัวผู้ตายอีก จึงไปซื้อกระเป๋าเดินทางมาอีก 2 ใบ จากห้างโลตัส สาขารัชดาภิเษก และนำชิ้นส่วนใส่ไปทิ้งที่รามคำแหง 24 ซึ่งเป็นสถานที่พบศพครั้งแรก
พ.ต.ท.สุนทร กล่าวว่า ที่ผู้ต้องหารับสารภาพ โดยเขียนในคำรับสารภาพ เนื่องจากเห็นว่า ตำรวจต้องทำงานหนักมาก รู้สึกสงสารตำรวจ อีกทั้งถูกตำรวจถามกดดันทุกวัน ว่า ไปทำอะไรมา จึงยอมรับสารภาพ และต้องการทนายความให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเท่าที่สอบถาม ไม่พบว่า ผู้ต้องหามีความชำนาญในเรื่องการฆ่าหั่นศพเป็นพิเศษอะไร เพียงแต่ชำแหละศพไปตามความคิดของตัวเองเท่านั้น
“ขณะนี้ พนักงานสอบสวนสอบปากพยานหมดแล้ว รอเพียงผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของกองพิสูจน์หลักฐาน และหลังจากครบกำหนดก็จะนำผู้ต้องหาส่งฟ้องศาล โดยจะไม่นำตัวกลับมาควบคุมอีก” พ.ต.ท.สุนทร กล่าว
ต่อมาเวลา 13.30 น. พ.ต.ต.วิษณุ ตุวยานนท์ สารวัตรเวร สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุพบกระเป๋าต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าจะใช้ใส่ชิ้นส่วนที่เหลือของผู้ตายภายในคลองน้ำแก้ว ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.พล.ต.ต.วิทยา โกสิยสถิตย์ ผบก.น.4 พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชัยณรงค์ ลิปิทีป ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผกก.สน.สุทธิสาร เจ้าของพื้นที่ และฝ่ายสืบสวนชุดคลี่คลายคดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบ นางรัตนา จินดารักษ์ อายุ 40 ปี แม่ค้าร้านขายอาหารตามสั่ง ข้างคลองที่พบกระเป๋า ให้การว่าเห็นกระเป๋าลอยขึ้นมาจึงคิดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของผู้ตายที่น่าจะหลงเหลืออยู่ จึงหยิบกระเป๋าขึ้นมาจากน้ำแต่ไม่กล้าเปิด จึงให้ น.ส.ปิ่นมณี แซ่โค้ว อายุ 28 ปี น้องสาวเป็นผู้เปิดดู จึงพบท่อนขาบรรจุในถุงพลาสติก และด้วยความตกใจจึงรีบปิดไว้ดังเดิมก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ทราบในเวลาต่อมา
“เมื่อวานหลังพบส่วนหัวแล้ว ดิฉันได้กลิ่นเหมือนผู้ตายตามมาด้วย จึงจุดธูปบอกว่าถ้าอยากกลับบ้านขอให้พบทุกชิ้นส่วน และให้ลอยขึ้นมาจากน้ำ จนกระทั่งในวันนี้ก็พบกระเป๋าดังกล่าว จึงได้นำข้าวสาร ไข่ต้ม ข้าวสุก ใส่แก้วไปจุดธูปบอกจนกระทั่งพบกระเป๋าลอยน้ำขึ้นมา” นางรัตนา กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อแกะถุงพลาสติกออกพบท่อนขาซ้ายถูกตัดออกเป็น 2 ท่อน ท่อนแรกเป็นต้นขาถึงตาตุ่ม และบริเวณเฉพาะเท้าซ้ายอีกท่อน
ต่อมาเวลา 14.30 น. ตำรวจนำตัวนายโมฮัมหมัดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกไปยังโรงแรมราชารีสอร์ท ที่ห้อง 1004 ตำรวจคุมผู้ต้องหาทำแผนตั้งแต่จุดที่ผู้ต้องหาพาผู้ตายมาที่ห้องตามคำรับสารภาพที่เขียนให้กับพนักงานสอบสวนในเบื้องต้น โดยจุดแรกใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นพาไปยังจุดที่ 2 บริเวณคลองน้ำแก้ว ถนนรัชดาภิเษก ที่ผู้ต้องหานำกระเป๋าชิ้นส่วน ส่วนหัวและขาไปทิ้งก่อน โดยผู้ต้องหาเดินถือกระเป๋า 2 ใบ เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ จนไปถึงสะพานข้ามคลองซอยศรีสุข ได้ทิ้งกระเป๋าไปยังบริเวณริมสะพาน จากนั้น เดินออกไปทางปากซอยลาดพร้าว 34 แล้วกลับไปยังโรงแรม จากนั้นตำรวจคุมตัวไปทำแผนยังจุดสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหานำชิ้นส่วนลำตัวกับส่วนแขน ไปทิ้งที่ซอยรามคำแหง 24 โดยเริ่มตั้งแต่เปิดท้ายรถแท็กซี่ และนำกระเป๋าออกไปทิ้งข้างกองขยะ หลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น ตำรวจคุมตัวกลับไปควบคุมไว้ที่ สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย ซ่อนเร้นย้ายทำลายศพ เพื่อปกปิดการตาย ต่อไป
เจอแล้ว! ศีรษะครูสาวเหยื่อฆ่าชำแหละศพ
แม่เหยื่อฆ่าชำแหละศพ ร้องไห้โฮ! หลังพบศพบุตรสาว
ฝากขังแขกปากีฯโหดฆ่าหั่นศพครูสาว-ค้านประกัน
เผยเหยื่อฆ่าหั่นศพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ - ยังไม่พบชิ้นส่วนเพิ่ม
รวบแขกปากีฯ มือฆ่าหั่นศพครูสาวเมืองดอกบัว
ฆ่าหั่นศพสาวแยกชิ้นใส่กระเป๋าทิ้งริม ถ.รามฯ







วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ สน.หัวหมาก พ.ต.ท.สุนทร คงกล่ำ รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก เบิกตัว นายโมฮัมหมัด อารีฟ ชาวปากีสถาน ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ น.ส.ดิสนีย์ ทองนาคแท้ อายุ 28 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษชั้น ม.1-3 ของโรงเรียนเทศบาล 1 ต.พิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาจุดที่จะนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในแต่ละจุด โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณครึ่งชั่วโมง
พ.ต.ท.สุนทร กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยการเขียนใส่กระดาษเป็นภาษาอังกฤษระบุว่า ได้นัดหมายผู้ตายมาพบส่วนตัว โดยไปรับที่สนามบินช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 7 พ.ค.จากนั้น พาผู้ตายไปที่โรงแรมราชาพาเลซ ห้อง 1004 และได้ร่วมหลับนอนกัน 3 ครั้ง หลังจากนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า ฝ่ายผู้ตายชวนไปเที่ยวต่อที่พัทยา แต่ผู้ต้องหาได้ปฏิเสธ โดยอ้างว่า ไม่มีเงิน และต้องทำงานต่ออีก จากนั้นผู้ตายทวงเงินจากผู้ต้องหาถึงค่าตั๋วเครื่องบินที่ได้สำรองจ่ายไปก่อน เนื่องจากผู้ต้องหาได้รับปากว่าจะเป็นผู้ออกค่าตั๋วเครื่องบินดังกล่าวให้ ซึ่งผู้ต้องหาได้ปฏิเสธอีกเช่นกันว่าไม่มีเงิน ทำให้ผู้ตายบันดาลโทสะ และเกิดปากเสียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ถึงขั้นถูกผู้ตายด่าทอดูหมิ่นถึงศาสนาของผู้ต้องหา จึงทำให้ผู้ต้องหาโกรธจัด ระงับอารมณ์ไม่อยู่ ใช้หมอนกดผู้ตายที่พยายามดิ้นรน และใช้เชือกรัดคอ พร้อมใช้มือบีบคอ จนผู้ตายแน่นิ่ง หลังจากที่รู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องหาไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะกลัวจะมีความผิด จึงเดินทางไปซื้อมีดที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขารัชดาภิเษก มา 2 เล่ม นำมาหั่นศพผู้ตายในห้องน้ำ จากนั้นได้นำส่วนหัวกับขาใส่กระเป๋าผู้ตาย 2 ใบ ไปทิ้งที่คลองน้ำแก้ว ซึ่งขนานกับถนนรัชดาภิเษก เป็นจุดแรก โดยใช้เวลาเดินทางห่างจากโรงแรมประมาณ 5 นาที แต่ยังเหลือลำตัวผู้ตายอีก จึงไปซื้อกระเป๋าเดินทางมาอีก 2 ใบ จากห้างโลตัส สาขารัชดาภิเษก และนำชิ้นส่วนใส่ไปทิ้งที่รามคำแหง 24 ซึ่งเป็นสถานที่พบศพครั้งแรก
พ.ต.ท.สุนทร กล่าวว่า ที่ผู้ต้องหารับสารภาพ โดยเขียนในคำรับสารภาพ เนื่องจากเห็นว่า ตำรวจต้องทำงานหนักมาก รู้สึกสงสารตำรวจ อีกทั้งถูกตำรวจถามกดดันทุกวัน ว่า ไปทำอะไรมา จึงยอมรับสารภาพ และต้องการทนายความให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเท่าที่สอบถาม ไม่พบว่า ผู้ต้องหามีความชำนาญในเรื่องการฆ่าหั่นศพเป็นพิเศษอะไร เพียงแต่ชำแหละศพไปตามความคิดของตัวเองเท่านั้น
“ขณะนี้ พนักงานสอบสวนสอบปากพยานหมดแล้ว รอเพียงผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของกองพิสูจน์หลักฐาน และหลังจากครบกำหนดก็จะนำผู้ต้องหาส่งฟ้องศาล โดยจะไม่นำตัวกลับมาควบคุมอีก” พ.ต.ท.สุนทร กล่าว
ต่อมาเวลา 13.30 น. พ.ต.ต.วิษณุ ตุวยานนท์ สารวัตรเวร สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุพบกระเป๋าต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าจะใช้ใส่ชิ้นส่วนที่เหลือของผู้ตายภายในคลองน้ำแก้ว ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.พล.ต.ต.วิทยา โกสิยสถิตย์ ผบก.น.4 พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชัยณรงค์ ลิปิทีป ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผกก.สน.สุทธิสาร เจ้าของพื้นที่ และฝ่ายสืบสวนชุดคลี่คลายคดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบ นางรัตนา จินดารักษ์ อายุ 40 ปี แม่ค้าร้านขายอาหารตามสั่ง ข้างคลองที่พบกระเป๋า ให้การว่าเห็นกระเป๋าลอยขึ้นมาจึงคิดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของผู้ตายที่น่าจะหลงเหลืออยู่ จึงหยิบกระเป๋าขึ้นมาจากน้ำแต่ไม่กล้าเปิด จึงให้ น.ส.ปิ่นมณี แซ่โค้ว อายุ 28 ปี น้องสาวเป็นผู้เปิดดู จึงพบท่อนขาบรรจุในถุงพลาสติก และด้วยความตกใจจึงรีบปิดไว้ดังเดิมก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ทราบในเวลาต่อมา
“เมื่อวานหลังพบส่วนหัวแล้ว ดิฉันได้กลิ่นเหมือนผู้ตายตามมาด้วย จึงจุดธูปบอกว่าถ้าอยากกลับบ้านขอให้พบทุกชิ้นส่วน และให้ลอยขึ้นมาจากน้ำ จนกระทั่งในวันนี้ก็พบกระเป๋าดังกล่าว จึงได้นำข้าวสาร ไข่ต้ม ข้าวสุก ใส่แก้วไปจุดธูปบอกจนกระทั่งพบกระเป๋าลอยน้ำขึ้นมา” นางรัตนา กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อแกะถุงพลาสติกออกพบท่อนขาซ้ายถูกตัดออกเป็น 2 ท่อน ท่อนแรกเป็นต้นขาถึงตาตุ่ม และบริเวณเฉพาะเท้าซ้ายอีกท่อน
ต่อมาเวลา 14.30 น. ตำรวจนำตัวนายโมฮัมหมัดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกไปยังโรงแรมราชารีสอร์ท ที่ห้อง 1004 ตำรวจคุมผู้ต้องหาทำแผนตั้งแต่จุดที่ผู้ต้องหาพาผู้ตายมาที่ห้องตามคำรับสารภาพที่เขียนให้กับพนักงานสอบสวนในเบื้องต้น โดยจุดแรกใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นพาไปยังจุดที่ 2 บริเวณคลองน้ำแก้ว ถนนรัชดาภิเษก ที่ผู้ต้องหานำกระเป๋าชิ้นส่วน ส่วนหัวและขาไปทิ้งก่อน โดยผู้ต้องหาเดินถือกระเป๋า 2 ใบ เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ จนไปถึงสะพานข้ามคลองซอยศรีสุข ได้ทิ้งกระเป๋าไปยังบริเวณริมสะพาน จากนั้น เดินออกไปทางปากซอยลาดพร้าว 34 แล้วกลับไปยังโรงแรม จากนั้นตำรวจคุมตัวไปทำแผนยังจุดสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหานำชิ้นส่วนลำตัวกับส่วนแขน ไปทิ้งที่ซอยรามคำแหง 24 โดยเริ่มตั้งแต่เปิดท้ายรถแท็กซี่ และนำกระเป๋าออกไปทิ้งข้างกองขยะ หลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น ตำรวจคุมตัวกลับไปควบคุมไว้ที่ สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย ซ่อนเร้นย้ายทำลายศพ เพื่อปกปิดการตาย ต่อไป
เจอแล้ว! ศีรษะครูสาวเหยื่อฆ่าชำแหละศพ
แม่เหยื่อฆ่าชำแหละศพ ร้องไห้โฮ! หลังพบศพบุตรสาว
ฝากขังแขกปากีฯโหดฆ่าหั่นศพครูสาว-ค้านประกัน
เผยเหยื่อฆ่าหั่นศพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ - ยังไม่พบชิ้นส่วนเพิ่ม
รวบแขกปากีฯ มือฆ่าหั่นศพครูสาวเมืองดอกบัว
ฆ่าหั่นศพสาวแยกชิ้นใส่กระเป๋าทิ้งริม ถ.รามฯ