อัยการปล่อยตัว “สนธิ” และบก.คม ชัด ลึก โดยไม่ต้องประกันตัว ให้เหตุผลมีความน่าเชื่อถือ ไม่จำเป็นต้องควบคุมตัวไว้ ย้ำยึดหลักเสมอภาคและเป็นธรรมเป็นหัวใจในการพิจารณาคดี ติงตำรวจออกหมายจับแล้ว ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้วควรจะเพิกถอนหมายจับให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ภายหลังจากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายเฉลียว พงษ์สุข บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก พร้อมสำนวนการสอบสวน ส่งมอบให้กับนายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาและคณะเสร็จสิ้นตามกระบวนการแล้ว พนักงานอัยการได้ปล่อยตัวนายสนธิ และนายเฉลียวกลับไปโดยไม่ต้องมีการประกันตัวเหมือนเช่นในชั้นพนักงานสอบสวน
นายสนธิ กล่าวหลังออกจากห้องพนักงานอัยการว่า อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาได้พิจารณาปัญหา 1 ข้อ ในกระบวนการที่ตำรวจขอหมายศาลจับกุม ได้มีการทำบันทึกจับกุมตามหมายจับหรือไม่ ปรากฏว่าบันทึกจับกุมตามหมายจับนั้นไม่มี เป็นเพียงแต่บันทึกรับการมอบตัว และแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งได้กราบเรียนอธิบดีฯ ไปว่า ในวันที่ศาลได้ออกหมายจับนั้นได้เข้ามอบตัวก่อนที่หมายนั้นจะถูกต้องตามกฎหมาย คือก่อนที่ศาลจะเซ็น แต่ทางตำรวจได้ขอเรียกร้องให้มีการประกันตัวจึงจำเป็นต้องประกันตัว
“ทางอธิบดีฯ บอกว่าในเมื่อไม่มีบันทึกการจับกุม ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงื่อนไขกับที่ตำรวจเรียกร้อง จึงต้องปล่อยตัวชั่วคราว พูดง่ายๆ เงิน 3 แสนที่นำไปประกันตัวนั้นขอเอาคืนได้ ทางอธิบดีฯ ยึดกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาเหมือนไม้บรรทัด ขอจบการให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง” นายสนธิ กล่าว
ด้าน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายสนธิ กล่าวว่า หลังจากที่ลงบันทึกประจำวันที่กองปราบปรามแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะต้องมีการส่งตัวนายสนธิมาเพื่อฟังคำสั่งของพนักงานอัยการว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ เนื่องจากอธิบดีและรองอธิบดีเป็นคณะทำงานคณะเดียวกับคดีของพันธมิตรฯ ด้วย ซึ่งในสำนวนคดีหมิ่นได้นัดให้มาฟังคำสั่งในวันที่ 8 มิ.ย.เวลา 10.00 น. และหากทางเรามีหลักฐานเพิ่มขึ้น ทางอัยการจะทำการสอบสวนให้ ซึ่งเวลาก็อาจจะเลื่อนออกไป โดยจะประสานมาทางอัยการอีกครั้ง
ต่อมา นายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา พร้อมคณะทำงานทั้ง 9 คน แถลงว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 20 แฟ้ม รวม 5 ลัง ที่มีการกล่าวหานายสนธิกับพวกในข้อหาดูหมิ่นและหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยในวันนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหามาส่ง 2 คน คือ นายสนธิ และนายเฉลียว เพื่อมอบให้อัยการพร้อมสำนวน
อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวอีกว่า ทางอัยการเองได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 9 คน โดยมีตนเป็นหัวหน้า มีรองอธิบดี อัยการอาวุโส อดีตอธิบดี และอัยการผู้ใหญ่อีกหลายคนเป็นคณะทำงานในคดีนี้ โดยในการตรวจพิจารณาสำนวนคงใช้หลักการเดียวกับการรับมอบตัวพันธมิตรฯเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คือ ต้องเสมอภาค และเป็นธรรม ซึ่งเป็นหัวใจในการพิจารณา ซึ่งขณะนี้ ได้รับมอบตัวผู้ต้องหาและสำนวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยจะทำบันทึกทราบนัดกับผู้ต้องหาให้มาพบพนักงานอัยการในวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 10.00 น.เพื่อฟังคำสั่งของพนักงานอัยการต่อไป
นายวันชัย ตอบคำถามถึงการปล่อยตัวนายสนธิ และนายเฉลียวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 3 แสนบาท เหมือนเช่นในชั้นพนักงานสอบสวนว่า คดีนี้ที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ก็มีการออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาได้เข้าหาพนักงานสอบสวน ซึ่งพูดง่ายๆ ว่าเข้ามอบตัว แต่ภาษากฎหมายเรียกว่าการเข้าหาพนักงานสอบสวน เมื่อผู้ต้องหามาปรากฏต่อหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อเท็จจริง และรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดให้ผู้ต้องหาทราบ แล้วจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบตามขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนปฏิบัติ ซึ่งเรียกว่าการรับมอบตัวและการแจ้งข้อกล่าวหา
“เท่าที่ดูจากเอกสารที่พนักงานสอบสวนนำเสนอ บอกว่าเป็นการรับมอบตัวและเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น ไม่ได้มีการจับกุม และพนักงานสอบสวนได้รายงานผลการเข้าพบของผู้ต้องหาให้ทางศาลทราบแล้ว แต่ว่าจะมีการเพิกถอนหมายจับหรือไม่อย่างไร ฝากให้พนักงานสอบสวนไปติดตามให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย” นายวันชัย กล่าว และว่าทางอัยการเองได้วินิจฉัยแล้ว เห็นว่า เมื่อผู้ต้องหาเข้าหาพนักงานสอบสวน จึงเพียงแต่ทำบันทึกทราบนัดแล้วปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว ซึ่งการปล่อยตัวชั่วคราวใช้หลักทรัพย์หรือไม่ใช้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือ แต่เท่าที่ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนก็ถือว่าไม่จำเป็นต้องมีพฤติกรรมที่จะต้องควบคุมตัวไว้
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ภายหลังจากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายเฉลียว พงษ์สุข บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก พร้อมสำนวนการสอบสวน ส่งมอบให้กับนายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาและคณะเสร็จสิ้นตามกระบวนการแล้ว พนักงานอัยการได้ปล่อยตัวนายสนธิ และนายเฉลียวกลับไปโดยไม่ต้องมีการประกันตัวเหมือนเช่นในชั้นพนักงานสอบสวน
นายสนธิ กล่าวหลังออกจากห้องพนักงานอัยการว่า อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาได้พิจารณาปัญหา 1 ข้อ ในกระบวนการที่ตำรวจขอหมายศาลจับกุม ได้มีการทำบันทึกจับกุมตามหมายจับหรือไม่ ปรากฏว่าบันทึกจับกุมตามหมายจับนั้นไม่มี เป็นเพียงแต่บันทึกรับการมอบตัว และแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งได้กราบเรียนอธิบดีฯ ไปว่า ในวันที่ศาลได้ออกหมายจับนั้นได้เข้ามอบตัวก่อนที่หมายนั้นจะถูกต้องตามกฎหมาย คือก่อนที่ศาลจะเซ็น แต่ทางตำรวจได้ขอเรียกร้องให้มีการประกันตัวจึงจำเป็นต้องประกันตัว
“ทางอธิบดีฯ บอกว่าในเมื่อไม่มีบันทึกการจับกุม ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงื่อนไขกับที่ตำรวจเรียกร้อง จึงต้องปล่อยตัวชั่วคราว พูดง่ายๆ เงิน 3 แสนที่นำไปประกันตัวนั้นขอเอาคืนได้ ทางอธิบดีฯ ยึดกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาเหมือนไม้บรรทัด ขอจบการให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง” นายสนธิ กล่าว
ด้าน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายสนธิ กล่าวว่า หลังจากที่ลงบันทึกประจำวันที่กองปราบปรามแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะต้องมีการส่งตัวนายสนธิมาเพื่อฟังคำสั่งของพนักงานอัยการว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ เนื่องจากอธิบดีและรองอธิบดีเป็นคณะทำงานคณะเดียวกับคดีของพันธมิตรฯ ด้วย ซึ่งในสำนวนคดีหมิ่นได้นัดให้มาฟังคำสั่งในวันที่ 8 มิ.ย.เวลา 10.00 น. และหากทางเรามีหลักฐานเพิ่มขึ้น ทางอัยการจะทำการสอบสวนให้ ซึ่งเวลาก็อาจจะเลื่อนออกไป โดยจะประสานมาทางอัยการอีกครั้ง
ต่อมา นายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา พร้อมคณะทำงานทั้ง 9 คน แถลงว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 20 แฟ้ม รวม 5 ลัง ที่มีการกล่าวหานายสนธิกับพวกในข้อหาดูหมิ่นและหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยในวันนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหามาส่ง 2 คน คือ นายสนธิ และนายเฉลียว เพื่อมอบให้อัยการพร้อมสำนวน
อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวอีกว่า ทางอัยการเองได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 9 คน โดยมีตนเป็นหัวหน้า มีรองอธิบดี อัยการอาวุโส อดีตอธิบดี และอัยการผู้ใหญ่อีกหลายคนเป็นคณะทำงานในคดีนี้ โดยในการตรวจพิจารณาสำนวนคงใช้หลักการเดียวกับการรับมอบตัวพันธมิตรฯเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คือ ต้องเสมอภาค และเป็นธรรม ซึ่งเป็นหัวใจในการพิจารณา ซึ่งขณะนี้ ได้รับมอบตัวผู้ต้องหาและสำนวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยจะทำบันทึกทราบนัดกับผู้ต้องหาให้มาพบพนักงานอัยการในวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 10.00 น.เพื่อฟังคำสั่งของพนักงานอัยการต่อไป
นายวันชัย ตอบคำถามถึงการปล่อยตัวนายสนธิ และนายเฉลียวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 3 แสนบาท เหมือนเช่นในชั้นพนักงานสอบสวนว่า คดีนี้ที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ก็มีการออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาได้เข้าหาพนักงานสอบสวน ซึ่งพูดง่ายๆ ว่าเข้ามอบตัว แต่ภาษากฎหมายเรียกว่าการเข้าหาพนักงานสอบสวน เมื่อผู้ต้องหามาปรากฏต่อหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อเท็จจริง และรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดให้ผู้ต้องหาทราบ แล้วจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบตามขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนปฏิบัติ ซึ่งเรียกว่าการรับมอบตัวและการแจ้งข้อกล่าวหา
“เท่าที่ดูจากเอกสารที่พนักงานสอบสวนนำเสนอ บอกว่าเป็นการรับมอบตัวและเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น ไม่ได้มีการจับกุม และพนักงานสอบสวนได้รายงานผลการเข้าพบของผู้ต้องหาให้ทางศาลทราบแล้ว แต่ว่าจะมีการเพิกถอนหมายจับหรือไม่อย่างไร ฝากให้พนักงานสอบสวนไปติดตามให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย” นายวันชัย กล่าว และว่าทางอัยการเองได้วินิจฉัยแล้ว เห็นว่า เมื่อผู้ต้องหาเข้าหาพนักงานสอบสวน จึงเพียงแต่ทำบันทึกทราบนัดแล้วปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว ซึ่งการปล่อยตัวชั่วคราวใช้หลักทรัพย์หรือไม่ใช้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือ แต่เท่าที่ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนก็ถือว่าไม่จำเป็นต้องมีพฤติกรรมที่จะต้องควบคุมตัวไว้
