เสี่ยเจ้าของร้านคาราโอเกะจอมเจ้าชู้ โดนแทงตายคาเตียงในอพาร์ตเมนต์ย่านดอนเมือง แถมทรัพย์สินหายเรียบ พี่สาวเผยก่อนตายเอาแต่กินเหล้านั่งร่ำไห้ฟูมฟายเพราะถูกกิ๊กสาวทิ้ง ตร.คาดฝีมือคู่ขาสาวตัวดี เพราะพยานเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันเดือด ก่อนฝ่ายหญิงเผ่นหายไปจากห้อง เตรียมล่าตัวมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 6 พ.ค. ร.ต.ท.ธีรพงศ์ สุทธิจำนงค์ ร้อยเวร สน.ดอนเมือง รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตภายใน TMC อพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 281/32 หมู่ 1 ซอยบุญนาค 2 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 6 ชั้น โดยบริเวณชั้นที่ 1 ห้องเลขที่ 109 เจ้าหน้าที่พบศพนายณรงค์ แสวงเจริญ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 14 ต.โพสังโฆ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี สภาพศพนอนหงายอยู่บนที่นอน ขาห้อยอยู่ที่พื้น ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางยีนส์ขายาวถูกถลกลงมากองที่หน้าขา ไม่สวมกางเกงใน โดยมีผ้าขนหนูสีชมพูคลุมตัวอยู่ 1 ผืน จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกแทงด้วยขอมีคมเข้าที่บริเวณใต้สะดือ 1 แผล ข้างศพเจ้าหน้าที่พบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ และมีพับตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.ครคง แสวงเจริญ อายุ 45 ปี พี่สาวของผู้ตายให้การว่า น้องชายตนเองเป็นเจ้าของร้านบัดดี้คาราโอเกะ อยู่ย่านถนนสรงประภา มีครอบครัวอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนวานนี้ ตนมานั่งดื่มเหล้ากับน้องชายที่ร้าน น้องชายตนก็เอาแต่นั่งร้องไห้เสียใจ สาเหตุเพราะถูกกิ๊กสาวทิ้งไป จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันนี้ (6 พ.ค.) ตนเองก็ขอตัวกลับบ้านก่อน ส่วนน้องชายตนออกจาไปร้านกลับที่พักไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.00 น.หลังจากนั้นตนก็โทรศัพท์มาหาน้องชายอีกครั้งแต่ปรากฏว่าไม่ยอมรับสาย ด้วยความเป็นห่วงน้องชายจึงได้ให้ลูกชายตนเองมาหาที่ห้อง แต่ลูกชายตนบอกว่าเคาะห้องเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิด
น.ส.ครคงให้การต่อว่า กระทั่งช่วงเย็นเวลาประมาณ 16.00 น.ซึ่งเป็นเวลาที่น้องชายตนจะต้องออกไปเปิดร้านคาราโอเกะด้วยตัวเอง แต่วันนี้ยังไม่ยอมออกไปที่ร้าน ตนจึงเข้ามาตามเอง แต่เมื่อมาถึงเคาะห้องเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิดเลยรู้สึกเอะใจ จึงไปตามช่างกุญแจมางัดประตูห้อง พอเมื่อเปิดประตูได้ก็เห็นน้องชายนอนอยู่ในสภาพดังกล่าว ซึ่งตนคิดว่านอนหลับจึงได้เอาผ้าขนหนูมาคลุมตัวให้ แต่พอปลุกไม่ตื่นเลยรู้ว่าน้องชายเสียชีวิตจึงได้โทร.แจ้งตำรวจ ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะถูกฆ่าชิงทรัพย์ เพราะปกติน้องชายตนจะมีทรัพย์สินติดตัวเป็นเงินสด ประมาณ 2 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท โทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง แต่ทรัพย์สินทั้งหมดหายไป
ด้าน น.ส.สมฤทธิ์ คงดี อายุ 39 ปี อาชีพช่างเย็บผ้าและรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นภรรยาผู้ตายให้การว่า ตนเองกับผู้ตายทะเลาะกันอยู่ โดยสามีได้แยกตัวออกมาเช่าห้องที่เกิดเหตุได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ตลอดเวลาที่แยกกันอยู่นั้น สามีก็โทร.มาพยายามง้อขอคืนดีตลอดว่าโดยสัญญาจะไม่นอกใจ แต่ตนไม่ยอมเพราะทุกครั้งที่กลับไปคืนดี สามีก็มักจะแอบนอกใจทุกครั้ง กระทั่งเมื่อวานนี้ 5 พ.ค.เวลาประมาณ 16.00 น. สามีก็โทร.มาง้อขอคืนดีให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งแต่ตนได้ปฏิเสธไป จนกระทั่งมารู้ข่าวว่าสามีถูกแทงตายจึงได้เดินทางมาดู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ปกติผู้ตายมักจะพาสาวคู่ขา ที่ชื่อ น.ส.แอน อายุ 24 ปี มาร่วมหลับนอนที่ห้องของผู้ตายเป็นประจำ โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น.ก็มีคนได้ยินเสียงผู้ตายกับ น.ส.แอน ทะเลาะกันรุนแรงแล้วก็เงียบเสียงไปจึงไม่มีใครสนใจอะไร กระทั่งพี่สาวของผู้ตายมาพบก็กลายเป็นศพไปแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็น น.ส.แอน สาวคู่ขาของผู้ตายเอง โดยสาเหตุน่าจะมาทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง โดยหลังจากที่แทงผู้ตายจนเสียชีวิตแล้ว น.ส.แอนอาจจะหยิบทรัพย์สินของผู้ตายติดมือหลบหนีไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้พยามยามติดตามตัว น.ส.แอนมาสอบปากคำก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป