xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ดึงอัยการร่วมปรึกษาคดีกล่าวหา “สนธิ” หมิ่นเบื้องสูง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตำรวจขอพนักงานอัยการร่วมปรึกษาการดำเนินคดีกับ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ตามที่ผู้แจ้ง 37 รายให้ดำเนินคดีหมิ่นเบื้องสูง ย้ำเพื่อความโปร่งใส แม้หัวหน้าพนักงานสอบสวนจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.เดียวกันกับนายกรัฐมนตรีก็ตาม ยืนยันไม่เคยส่งตำรวจตามประกบ ไม่เคยคิดออกหมายจับ “สนธิ”

วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีสำคัญทางหัวหน้าพนักงานสอบสวน คือ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วยผบ.ตร.ได้ทำหนังสือ ตช.0001(ปป 2)/113 ลงวันที่ 29 มี.ค.2549 เรื่องของพนักงานอัยการเป็นที่ปรึกษาในการสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่ง นายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา มาร่วมเป็นที่ปรึกษาในการสอบสวนดำเนินคดีนี้ โดยพนักงานสอบสวนจะหารือกับตัวแทนที่มาจากสำนักงานอัยการสูงสุดทุกประเด็น ส่วนการสรุปสำนวนคดีอย่างไรนั้น เมื่อเสร็จสิ้นตำรวจจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบทันที ส่วนชั้นนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร วัตถุพยานและการสอบสวนพยานบุคคล และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่ามีการแจ้งความเพิ่มเติม ยังคงมีผู้แจ้งทั้งหมด 37 ราย ซึ่งเราจะรวบรวมเป็นคดีเดียวในการดำเนินการ

“ส่วนการที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ต้องเป็น ห่วงเรื่องนี้ต้องยิ่งกว่าโปร่งใสอีก เพราะตำรวจต้องทำงานอยู่ภายใต้การตรวจสอบของสื่อมวลชน เราจะไม่ทำอะไรที่ไม่โปร่งใส เราทำอะไรเองโดยพลการไม่ได้ ในกระบวนการยุติธรรมมีอำนาจในการถ่วงดุลของแต่ละฝ่ายอยู่แล้ว การออกหมายจับหมายค้นเราก็ออกเองไม่ได้ ทุกอย่างต้องรวบรวมพยานหลักฐานเสนอผู้มีอำนาจในการอนุมัติออกหมายจับ และยิ่งเรามีพนักงานอัยการเข้ามาร่วมในการตรวจสอบก็ยิ่งจะทำให้การรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจรอบคอบตรงไปตรงมาแน่นอน ซึ่งคดีสำคัญๆ เราก็มีพนักงานอัยการมาร่วมทำการสอบสวนมาโดยตลอด คดีนี้ไม่ใช่คดีแรก และคดีนี้ตำรวจไม่ได้รับใบสั่งจากใครให้มาดำเนินการ คนออกใบสั่งได้มีแต่ตำรวจจราจรเท่านั้น ส่วนที่มีข่าวว่าตำรวจส่งคนประกบตัวนายสนธิหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีการส่งคนประกบแต่อย่างใด นายสนธิยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา สามารถไปไหนต่อไหนก็ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้นายสนธิก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะขอสู้คดีในชั้นศาล ก็ไม่มีเหตุอะไรที่เราต้องไปประกบเขา” พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าว

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวย้ำอีกว่า ในส่วนของการดำเนินคดีขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำผู้สื่อข่าว ประชาชนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งทำการตรวจสอบหลักฐานแผ่นวีซีดีที่มีการบันทึกไว้ในวันที่นายสนธิกล่าวด้านหลังเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.เวลา 22.30 น.ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นนายสนธิอ้างว่ามีการตัดต่อเทป เรื่องนี้ต้องมีการพิสูจน์กันในชั้นศาล หากศาลมีความเห็นว่าไม่มีความผิดก็ยกฟ้องไป ส่วนกรอบระยะเวลาในการดำเนินการสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้กำหนด ขอเพียงให้คดีนี้รอบคอบชัดเจนเท่านั้น ส่วนการสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องนายสนธิ และหนังสือพิมพ์ที่นำข้อความไปลงนั้นอาจจะมีการสั่งคดีที่ไม่เหมือนกันก็ได้ เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องนายสนธิ ผู้ที่เข้าแจ้งความจะเข้าข่ายมีความผิดกรณีให้ผู้อื่นได้รับโทษทางคดีอาญาหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นกฎหมาย นายสนธิสามารถดำเนินการได้ หากคิดว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เป็นธรรมก็สามารถดำเนินการได้ เรื่องนี้ไม่ขอวิจารณ์อะไร เพราะกฎหมายมีทางออกเสมอ เรื่องนี้ศาลยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสินเอง

ต่อข้อถามกรณีที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.จะมีการดำเนินคดีอย่างจริงจังกับม็อบที่ก่อความเดือดร้อนและกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง เรื่องนี้ตำรวจจะดำเนินการทันทีหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบ ขอให้สื่อมวลชนนำเทปสัมภาษณ์ของ ผบ.ตร.มาให้ดูหน่อย แต่ขอเรียนว่าหากใครกระทำผิดกฎหมายไม่ว่าเรื่องอะไร ตำรวจต้องดำนินคดีทุกราย ส่วนจะจับเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการรวบรวมพยานหลักฐานครบก็จับทันที ทุกเรื่องหากมีผู้ร้องทุกข์แจ้งความเราก็ดำเนินคดีทุกราย ซึ่งตำรวจมีจุดยืนอยู่ว่าหากจะดำเนินการอะไรลงไปต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อบ้านเมืองเป็นหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น