ปุ๊กกี้ชื่นมื่น ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ต๋องยอมให้พบบุตร

คดีละเมิดสิทธิบุตรปุ๊กกี้ ไกล่เกลี่ยสำเร็จ “ต๋อง สุรพันธ์” ยอม ปุ๊กกี้ ฟ้องละเมิด สองฝ่ายชื่นมื่นต่างเซ็นสัญญายอมความ สร้างหลักประกันพบลูกได้ทุกโอกาส แต่สิทธิดูแลยังเป็นของต๋อง

วันนี้ (28 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 13 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง ศาลนัดไกล่เกลี่ยคดีที่ น.ส.ปริศนา พรายแสง หรือ ปุ๊กกี้ อายุ 27 ปี อดีตนักร้องดังค่ายอาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เจ้าของอัลบั้ม “ชา ลา ล่า” เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุรพันธ์ จำลองกุล หรือ ต๋อง อายุ 40 ปี อดีตสามี - นักร้องนำวงทู เป็นจำเลย เรื่องละเมิดสิทธิการติดต่อบุตรชายหญิงทั้ง 2 คน คือ ด.ญ.ปรีณาพรรณ หรือน้องแพบเบิ้ล อายุ 7 ปี และ ด.ช.ชัชนันท์ จำลองกุล หรือน้องแบมแบม อายุ 3 ปี โดย ปุ๊กกี้ ยื่นขอสิทธิเข้าพบบุตรทั้งสองได้โดยสะดวกในทุกโอกาส รวมทั้งขอให้ได้รับสิทธิพาบุตรทั้งสองเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศด้วย โดยคดีนี้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2549 ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ปุ๊กกี้สวมชุดสูทสีดำ เดินทางมาพร้อมกับผู้ใกล้ชิดและทนายความ มาศาล ขณะที่ ต๋อง สุรพันธ์ สวมชุดลำลอง เสื้อเชิ้ตลายสก็อต กางเกงยีนส์ เดินทางมาพร้อมกับทนาย หลังจากนั้น ศาลจึงเริ่มกระบวนการไกล่เกลี่ย โดยสั่งห้ามบุคคลภายนอก รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าฟังการเจรจาโดยเวลาไกล่เกลี่ยนานกว่า 3 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น ซึ่งการเจรจา ปรากฏว่า ปุ๊กกี้ถึงกับหลั่งน้ำตา จนศาลต้องพักการพิจารณาเป็นระยะ เพื่อให้ปรับสภาพจิตใจ และนำคู่ความ เข้าเจรจาตกลงกันในห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ภายหลังยุติการไกล่เกลี่ยแล้ว อดีตน้องร้องสาว ซึ่งสวมแว่นตาทรงใหญ่สีขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเจรจาวันนี้เป็นไปได้ด้วยดี แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย ปุ๊กกี้ได้ตามต้องการทุกอย่างที่ขอไป โดยที่พี่ต๋องไม่ได้เสนอเงื่อนไขใด ๆ เพิ่มเข้าใหม่ ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ตกลงกันนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่า จะไม่นำไปเปิดเผย

อย่างไรก็ตาม คดีได้ยุติลงด้วยดี ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันลงชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้ปุ๊กกี้จะมีสัญญายอมความดังกล่าวเป็นเครื่องรับประกันที่จะเข้าพบลูกได้อย่างสะดวก ไม่ต้องขออนุญาต ไม่ว่าจะเป็นในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือช่วงปิดเทอม รวมทั้งการพาลูกทั้งสองเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ หลังจากนี้ ปุ๊กกี้จะพาลูกไปเที่ยวทะเลต่อไป แต่สิทธิดูแลลูกยังเป็นของพี่ต๋อง ส่วนเรื่องพี่ต๋องจะเริ่มชีวิตคู่ใหม่นั้นตนไม่อยากจะเข้าไปก้าวก่าย

ด้าน ต๋อง สุรพันธ์ กล่าวว่า คดีจบลงแล้ว ซึ่งมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกันต่อหน้าผู้ใหญ่ อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาตนไม่เคยคิดกีดกั้นเรื่องที่แม่ลูกจะพบกัน โดยเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความเข้าใจผิด ซึ่งผมกับเขายังโทรศัพท์ติดต่อกันอยู่ สำหรับเรื่องเลี้ยงลูกถ้าเขาอยากจะเข้ามาเลี้ยงลูกเขาก็มีสิทธิในฐานะที่เป็นแม่ อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ลูกทั้งสองยังอยู่ในความปกครองของตน ซึ่งเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั้งในเรื่องการศึกษาและการกินอยู่ทั่วไป