รอง ผบ.ตร.“อำนวย เพชรศิริ” สั่งรวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริง กรณีตำรวจยุค “สันต์” บุกจับ “ตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์” หลังกรรมการสิทธิฯ ชี้ชัด ละเมิดสิทธิ โดยนายเวรยืนยันตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา
จากกรณีที่วานนี้ (23 ม.ค.) นางอริณญา สูตรสุคนธ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีหนังสือแจ้งถึง นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการตามรายงานผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณีที่นายตุลย์ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) ในการแจ้งความดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และผู้จัดกวน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548 พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) มีหนังสือแจ้งตอบกลับ โดยยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตามมติของคณะกรรมการสิทธิฯ ที่ให้กำหนดมาตรการในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับกุม ทั้งที่มีหมายจับและไม่มีหมายจับ หรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลโดยตรงเป็นการลิดรอน หรือกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ส่วนกรณีมติให้พิจารณาดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายในการจับกุมนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนผลจะเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบโดยด่วน
วันนี้ (24 ม.ค.) ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ ได้โทรศัพท์ถึง พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ รอง ผบ.ตร.เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน โดยได้รับคำตอบจาก พ.ต.อ.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา นายเวร รอง ผบ.ตร.ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และอยู่ระหว่างรอรายงานอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปฏิพัทธ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานแล้ว พล.ต.อ.อำนวย จะทำการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง ก่อนที่จะทำการสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง พร้อมกับยืนยันว่าตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับนายตุลย์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้ง จาก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น ประกอบด้วย พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ประจำ สตช.ในขณะนั้น เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน, พ.ต.อ.จามร จันทร์ทรงกลด รองหัวหน้า โดยทีมสอบสวน ประกอบด้วย พ.ต.ท.ประภาส แสงดีจริง, พ.ต.ท.สุกิตติ ไสวเกียรติ, พ.ต.ท.ชยุธ มารยาตร์, พ.ต.ท.ต่อเกียรติ พรหมบุตร, พ.ต.ท.อานนท์ อุนทริจันทร์, พ.ต.ต.สาโรจน์ คุ้มทรัพย์, พ.ต.ต.วุฒิเลิศ คงเพ็ชร, ร.ต.อ.สืบพงศ์ กรุณา และ ร.ต.ท.รุ่งเลิศ คันธจันทร์
ส่วนตำรวจที่ลงชื่อในบัญทึกการจับกุม นายตุลย์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2546 ประกอบด้วย พ.ต.ท.ประภาส แสงดีจริง, พ.ต.ท.ชยุธ มารยาตร์, พ.ต.ท.สุกิตติ ไสวเกียรติ, พ.ต.ท.อานนท์ อุนทริจันทร์, พ.ต.ต.สาโรจน์ คุ้มทรัพย์ และ พ.ต.ต.วุฒิเลิศ คงเพ็ชร ต่อมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีมติว่า การที่ พล.ต.อ.สันต์ แต่งตั้ง พล.ต.ท.จงรัก กับคณะ เป็นผู้อำนวยการสอบสวนควบคุมคดีที่เป็นความผิดต่อส่วนตัว เป็นการใช้อำนาจไม่สมควร และไม่เหมาะสม อันอาจเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการดำเนินคดี ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวมาทำการจับกุมผู้ร้อง เป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงเห็นชอบให้กำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทำนองเดียวกันนี้
จากกรณีที่วานนี้ (23 ม.ค.) นางอริณญา สูตรสุคนธ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีหนังสือแจ้งถึง นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการตามรายงานผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณีที่นายตุลย์ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) ในการแจ้งความดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และผู้จัดกวน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548 พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) มีหนังสือแจ้งตอบกลับ โดยยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตามมติของคณะกรรมการสิทธิฯ ที่ให้กำหนดมาตรการในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับกุม ทั้งที่มีหมายจับและไม่มีหมายจับ หรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลโดยตรงเป็นการลิดรอน หรือกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ส่วนกรณีมติให้พิจารณาดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายในการจับกุมนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนผลจะเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบโดยด่วน
วันนี้ (24 ม.ค.) ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ ได้โทรศัพท์ถึง พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ รอง ผบ.ตร.เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน โดยได้รับคำตอบจาก พ.ต.อ.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา นายเวร รอง ผบ.ตร.ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และอยู่ระหว่างรอรายงานอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปฏิพัทธ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานแล้ว พล.ต.อ.อำนวย จะทำการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง ก่อนที่จะทำการสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง พร้อมกับยืนยันว่าตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับนายตุลย์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้ง จาก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น ประกอบด้วย พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ประจำ สตช.ในขณะนั้น เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน, พ.ต.อ.จามร จันทร์ทรงกลด รองหัวหน้า โดยทีมสอบสวน ประกอบด้วย พ.ต.ท.ประภาส แสงดีจริง, พ.ต.ท.สุกิตติ ไสวเกียรติ, พ.ต.ท.ชยุธ มารยาตร์, พ.ต.ท.ต่อเกียรติ พรหมบุตร, พ.ต.ท.อานนท์ อุนทริจันทร์, พ.ต.ต.สาโรจน์ คุ้มทรัพย์, พ.ต.ต.วุฒิเลิศ คงเพ็ชร, ร.ต.อ.สืบพงศ์ กรุณา และ ร.ต.ท.รุ่งเลิศ คันธจันทร์
ส่วนตำรวจที่ลงชื่อในบัญทึกการจับกุม นายตุลย์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2546 ประกอบด้วย พ.ต.ท.ประภาส แสงดีจริง, พ.ต.ท.ชยุธ มารยาตร์, พ.ต.ท.สุกิตติ ไสวเกียรติ, พ.ต.ท.อานนท์ อุนทริจันทร์, พ.ต.ต.สาโรจน์ คุ้มทรัพย์ และ พ.ต.ต.วุฒิเลิศ คงเพ็ชร ต่อมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีมติว่า การที่ พล.ต.อ.สันต์ แต่งตั้ง พล.ต.ท.จงรัก กับคณะ เป็นผู้อำนวยการสอบสวนควบคุมคดีที่เป็นความผิดต่อส่วนตัว เป็นการใช้อำนาจไม่สมควร และไม่เหมาะสม อันอาจเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการดำเนินคดี ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวมาทำการจับกุมผู้ร้อง เป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงเห็นชอบให้กำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทำนองเดียวกันนี้
