เป็นประจำทุกสิ้นปี ที่แต่ละโต๊ะข่าว ของแต่ละสำนักข่าว จะสรุปข่าวประจำปี ด้วยการจัดอันดับข่าวที่น่าสนใจ ยอดนิยม โดยส่วนใหญ่ มักจัดอันดับข่าวไล่มาตั้งแต่อันดับ 10 ถึงอันดับ 1 ซึ่งในปีนี้"ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" ไม่ประสงค์ที่จะจัดอันดับข่าวดังกล่าว แต่จะขอนำเสนอในรูปแบบการสรุปข่าวในเชิงคดีประวัติศาสตร์ คดีอุกอาจ-ฆาตกรรมโหด คดีโศกสลด-สะเทือนขวัญ คดีอาชญากรรมที่น่าสนใจซึ่งมีผลกระทบต่อสังคม และเพื่อเป็นการคลายเครียด "เรา" ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ ยังได้จัดคดีข่าวฮา แบบขำ ขำในรอบปี ที่คัดสรรไว้แล้วมานำเสนอ และข่าว"2548 ปีประจานความชุ่ยขสมก.-รถร่วม-มินิบัส!" เป็นอีกชิ้นที่จัดไว้ในหมวดหมู่ "คดีอาชญากรรมที่น่าสนใจซึ่งมีผลกระทบต่อสังคม"ในรอบปี
หากจะว่าไปแล้ว หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่จะให้ประชาชนเลือกว่าห่วยและชุ่ยที่สุด คงหนีไม่พ้นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร หรือขสมก. ที่ขาดทุนทั้งปีทั้งชาติ ในขณะเดียวกัน รถร่วมที่เข้ามาสัมปทานเส้นทาง ต่างเพิ่มขึ้นหลายสาย จนจดจำกันไม่ไหว แต่ด้านการบริการคงป่าเถื่อน สุดชุ่ยจนไม่รู้จะหาคำอะไรมาเปรียบเทียบกับหน่วยงานนี้ได้
เมื่อต้องมองย้อนไปตั้งแต่ต้นปี 2548 เป็นต้นมา อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นชนิด "ซ้ำซาก" เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และทุกครั้ง หากเป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจผู้คน ผู้ที่มีหน้าที่รีบผิดชอบต่างก็ออกมาเพียงแค่ ช้วยกันหามาตรการ "ล้อมคอก" โดยมิได้มีจิตสำนึกที่จะหาทางป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากบรรดา รถเมล์ รถร่วม หรือรถมินิบัส ให้เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด "เรา ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" จึงขอนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากความสะเพร่า มักง่าย ชุ่ย บริการที่ห่วยแตก มาประจานให้ผูที่ได้รับผิดชอบได้สำนึก เพื่อที่ปีใหม่ ปี 2549 "เรา" ได้แต่เฝ้าหวังว่า อุบัติเหตุในลักษณะเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก หรือให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะภาวนาได้
ประเดิมศกใหม่ ชนผกก.หวิดดับ
12 ม.ค. เวลา 08.30 น.รถประจำทางปรับอากาศร่วมบริการ สาย 538 สีฟ้าคาดขาว หมายเลขทะเบียน 13-4989 หมายเลขข้างรถ 82-183 วิ่งระหว่างสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล คลอง 6-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พุ่งชนพ.ต.อ.การุณ กลิ่นประยูร ผกก.สน.พญาไท ที่พยายามวิ่งหนี แต่ไม่พ้น ถูกชนกระเด็นไปไกลราว 10 เมตร ศีรษะกระแทกพื้นหมดสติ แพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียู ส่วนคนขับ นายนิคม ไชยกุล อายุ 29 ปี บอกว่า เพิ่งมาขับรถประจำทางสาย 538 ได้ 4 เดือน โดยก่อนหน้านั้นได้ขับรับส่งน้ำแข็งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนเกิดเหตุ เวลา 07.00 น. ขับรถออกจากอู่ที่ราชมงคล คลอง 6 มาทางถนนพหลโยธิน เมื่อมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งขณะที่กำลังจะขับเข้าช่องทางรถประจำทาง ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนโบกห้ามไม่ให้เข้าช่องรถประจำทางจึงได้หักรถออกโดยไม่ได้มองด้านขวา ทำให้รถชน พ.ต.อ.การุณ ซึ่งยืนอยู่ได้รับบาดเจ็บ
เฉี่ยวชนร.ต.หญิงชราเกือบกลับบ้านเก่า
27 ม.ค. รถร่วมสาย 64 ก่อเหตุชนหญิงชราเสียชีวิต ร.ต.ท.อาทิตย์ หุ้มทอง ร้องเวรสน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุมีหญิงชราถูกรถประจำทางชนบริเวณสี่แยกบางลำพู ถนนสามเสนตัดถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. รีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถประจำทางสาย 64 รถร่วมเอกชน วิ่งระหว่างสนามหลวง-ท่าน้ำนนทบุรี สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน 12-6428 กทม. หมายเลขข้างรถ 64-28 ของบริษัท สุพรรณยานยนต์ จำกัด ในสภาพไฟเลี้ยวด้านซ้ายแตก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าพลเมืองนำส่งรพ.วชิระพยาบาลแล้ว จึงตามไปตรวจสอบทราบชื่อร.ต.หญิง วีณะรัตน์ สุเดชะ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/27-101 ถนนประดิพัทธ์ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และขาซ้าย
เมื่อสวนเบื้องต้นทราบว่า รถเมล์คันดังกล่าวมีนายวิสิษฐ์ วรรณวิศาล อายุ 60 ปี เป็นคนขับให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขับรถมาจากสนามหลวง และจอดเข้าป้ายบางลำพูบริเวณถนนพระสุเมรุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุจะเลี้ยวซ้ายเข้าบัสเลนบนถนนสามเสน มีป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งติดอยู่ที่เสาไฟฟ้า จู่ๆ ผู้บาดเจ็บโผล่ออกมาจากเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว ซึ่งตนมองไม่เห็น จึงไม่สามารถห้ามล้อทันในขณะนั้นได้ ไฟเลี้ยวด้านซ้ายจึงชนเข้ากับศีรษะของร.ต.วีณะรัตน์ จนล้มลงกับพื้น แล้วกลิ้งเข้าไปใต้ท้องรถ ซึ่งเป็นจังหวะที่สามารถเบรกห้ามล้อได้ทันก่อน จากนั้น ได้ลงจากรถ แล้วรีบมุดเข้าไปช่วย นำตัวออกมาส่งโรงพบยาบาล แล้วเข้ามอบตัวกับตำรวจ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น.ร.ต.ท.สรชัย กาญจนรุจวิวัฒน์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.ย่อยลาดโตนด อ.เมือง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ มีผู้โดยสารพลัดตกจากรถประจำทาง บริเวณตรงข้ามห้างโลตัส สาขาติวานนท์ ถนนติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพบรถประจำทางสาย 90 วิ่งระหว่างหัวถนนติวานนท์ – รัชโยธิน จอดสงบนิ่งอยู่ โดยผู้บาดเจ็บ ทราบภายหลังชื่อน.ส.เอ ชาวพม่า ได้รับบาดเจ็บขาหัก และอาการสาหัส พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลชลประทาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดูแลของแพทย์ และอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ส่วนคนขับรถเมล์หลบหนีไป ตำรวจทำได้แค่ตรวจยึดรถมาไว้ที่โรงพัก
รถร่วมขยี้พ่อค้าปลาทูดับสยองคาล้อ
21 ก.พ. เกิดอุบัติเหตรถประจำทางสาย 69 ชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อผู้ตาย นายกิตติ วรกุลพาณิชย์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/3 ตรอกนางเลิ้ง แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ อาชีพพ่อค้าขายปลาทู สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตสีแดงลาย กางเกงขายาวสีกรมท่า นอนเสียชีวิตติดอยู่กับล้อหน้าด้านซ้ายใต้ท้องรถประจำทางร่วมบริการสาย 69 สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 11-9487 กทม. ซึ่งวิ่งเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามบินน้ำ นนทบุรี
ตำรวจสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คาวาซากิ ทะเบียน 6ป-0167 กทม. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุที่ถนนอโศก-ดินแดง ช่วงจากสามเหลี่ยมดินแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ประมาณ 200 เมตร ได้ถูกรถเมล์สาย 69 ที่จอดรับส่งผู้โดยสารและกำลังวิ่งออกจากป้ายบริเวณหน้าโรงเรียนดุสิตพาณิชยการ เพื่อมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยฯ เบียดทับจนเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถประจำทางทราบชื่อ นายมงคล สุขลาภ หลังเกิดเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
ถึงคิวขสมก.ทับพนง.ล้างรถดับคาอู่
15 มี.ค. เวลา 22.40 น. ร.ต.ต.สมบูรณ์ ดีเกษม พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี รุดไปตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งเหตุรถเมล์ สาย 26 ทับคนเสียชีวิตในอู่รถประจำทาง ขสมก. ตั้งอยู่ในตลาดมีนบุรี แขวงและเขตมีนบุรี กทม.เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถเมล์ สาย 26 ทะเบียน 11-9954 กทม.หมายเลขข้างรถ 2-80168 จอดอยู่ในลักษณะทับร่างผู้ตาย ซึ่งเป็นพนักงานล้างรถ ทราบชื่อ นายสุบิน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 19 ปี จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ นิวาสพัน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 แขวง และเขตมันบุรี กทม. ซึ่งเป็นพนักงานขับรถโดยสารคันที่เกิดเหตุ ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถตีวงโค้งเพื่อจอดรถ ประกอบกับในที่เกิดเหตุเป็นที่มืด จึงไม่ทันเห็นผู้ตายซึ่งสวมชุดดำ กำลังนั่งต่อท่อสายยางเพื่อล้างรถ กระทั่งรถได้ทับร่างผู้ตายเสียชีวิตคาที่
มินิบัสซิ่งคว่ำคาอุโมงค์เจ็บ 3
16 มี.ค. รถมินิบัสสาย 39 หมายเลขทะเบียน11-3977 กทม. สายรังสิต-เกษตร พลิกคว่ำบริเวณอุโมงค์ลอดวงเวียนหลักสี่ขาเข้า ขณะวิ่งตรงมาจากรังสิต มุ่งหน้ามายัง ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน แต่เมื่อถึงกลางอุโมงค์ รถเสียหลักพุ่งชนแผงปูนกั้นถนนจนเกิดพลิกคว่ำคาดว่าสาเหตุมาจากฝนที่ตกหนัก ทำให้พื้นถนนเปียกชื้น ลื่น และมีน้ำขัง เมื่อรถมาด้วยความเร็วจนทำให้เสียหลัก เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากับนายเฉลิมชัย ใบโพธิ์ พนักงานขับรถ ข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินสาธารณะเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
สาย 96 ห้อตะบึงพุ่งชนที่พักผู้โดยสารเจ็บ 1
11พ.ค. ขณะที่พนักงานขับรถ ขสมก.สาย 96 มุ่งหน้าจากสถานีหมอชิตใหม่ไปถึงสวนสยาม และเมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นคอสะพานลาดลง พื้นผิวถนนลื่นทำให้รถเสียหลักแฉลบพุ่งชนหลังคาป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าบริษัทสหฟาร์ม ถนนนวมินทร์อย่างแรง จนล้มพังลงมาทั้งแถบ ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารยืนรอรถอยู่ 3 คน ทำให้กระเบื้องหลังคาหล่นใส่ศีรษะของผู้โดยสารอายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ตำรวจได้แจ้งข้อหาคนขับรถเมล์ฐานขับรถประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินราชการเสียหายและประชาชนได้รับบาดเจ็บ
สลด!ประตูรถร่วมหนีบคร่าชีวิตนศ.แฟนคลับสรยุทธ์
14 พ.ค. รถประจำทางปรับอากาศสีน้ำเงิน-ขาว สาย 528 วิ่งจากไทรน้อย-แยกพระราม 9 หมายเลขข้างรถ 528-3 เลขทะเบียน 13-5713 กทม. ของบริษัท วังศกาญจน์กิจ จำกัด ทับร่างน.ส.อิศยาภรณ์ หงส์อภิโชติสกุล อายุ 21 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะมนุษยศาสตร์ เอกการโรงแรม อยู่บ้านเลขที่ 3/17 หมู่ 1 แขวงจรเข้บัว เขตลาดยาว กทม. ได้รับบาดเจ็บใบหน้าด้านขวายุบ และที่บริเวณหน้าอกถูกล้อรถเมล์ทับ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลเมโย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับ นายจรูญ ถนัดทาง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 1 ต.ประทอง อ.เมือง จ.ยโสธร ได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบสวนเพื่อนของผู้ตายให้การว่า รู้จักกับผู้ตายมาได้ประมาณ 3-4 ปี โดยตนกับเพื่อนและผู้ตายเป็นแฟนคลับของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ใช้ชื่อแฟนคลับ "SFC" วันนี้ได้เดินทางไปกับเพื่อนทั้งหมด 5 คนเพื่อไปอวยพรวันคล้ายวันเกิดย้อนหลังของนายสรยุทธที่ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ในรายการคุยคุ้ยข่าว และได้มอบไฟแช็ก "ZIPPO" สลักชื่อนายสรยุทธ หลังจากนั้นได้เดินทางกลับ โดยนั่งรถแท็กซี่มาลงที่หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน และตนกับผู้ตายได้ออกมายืนรอรถประจำทางที่หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ เมื่อรถเมล์คันดังกล่าวมาจอดเห็นผู้โดยสารลงจากรถ ผู้ตายได้วิ่งไปขึ้นรถประจำทางคันดังกล่าว
"หนูเห็นเพื่อนก้าวเท้าขวาขึ้นไปก่อน แต่ประตูรถได้หนีบและลากร่างของเพื่อนออกไปประมาณ 2 เมตร ทำให้ล้มลง และถูกล้อหลังด้านซ้ายทับที่หน้าอก หนูไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับเพื่อน รู้สึกเสียใจอย่างมาก" เพื่อนผู้ตายกล่าว
ต่อมานายสรยุทธ พร้อมด้วย นายกนก รัตน์วงศ์สกุล สองพิธีกรชื่อดัง ได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อพบกับญาติและเพื่อนของผู้ตาย โดยนายสรยุทธกล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นบ่อยจนถูกมองเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก โดยผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่คิดที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
"ผมโทษระบบ ไม่โทษตัวบุคคล เพราะการว่าจ้างคนขับรถเมล์ มักจะว่าจ้างด้วยค่าแรงที่ถูก ทำให้ได้คนในลักษณะเช่นนี้มาขับรถ ก่อนหน้านี้ได้เตือนน้องๆ ให้ระมัดระวังในการขึ้นรถเมล์ ผมจะตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเกิดหลายครั้งแล้วไม่ได้รับการพัฒนา เมื่อเกิดเหตุขึ้นจะเปรียบเทียบว่าค่ารถเพียง 4-5 บาท จะเอาอะไรกันนักหนา" นายสรยุทธกล่าว
ด้านนายจรูญ คนขับรถกล่าวแต่เพียงว่า ได้จอดรถก่อนถึงป้ายและขอยืนยันว่าจอดรถชิดซ้ายอย่างสนิท ตอนเกิดเหตุไม่เห็นผู้ตายกำลังขึ้นรถ แต่ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าทับคนจึงจอดรถลงมาดู และยืนเพื่อรอมอบตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้โดยสารหนีตายไฟเผาปอ.170 วอดทั้งคัน
7 มิ.ย.เกิดเหตุรถเมล์ปรับอากาศ สาย 170 หมายเลขทะเบียน 13-5272 กทม. เกิดเพลิงลุกไหม้ บริเวณหน้าร้านไก่ย่างโคราช ช่วงพุทธมลฑลสาย 4 บนถนน ปิ่นเกล้า - นครชัยศรี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พุทธมลฑล รุดไปให้ความช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุเพลิงได้เผารถไหม้ไปกว่าครึ่งคัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงไว้ หลังเพลิงสงบพบว่ารถคันดังกล่าวถูกไฟเผาวอดทั้งคัน แต่ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนางน้อย คนขับรถที่เกิดเหตุ ทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบริษัทวังสกานต์จิต จำกัด วิ่งระหว่าง อ้อมน้อย - หมอชิต ก่อนเกิดเหตุ สายไฟในห้องเครื่องเกิดช็อตกันขึ้น จึงนำรถจอดข้างทาง และให้ผู้โดยสารที่มาด้วยประมาณ 15 คน ลงจากรถ จากนั้นก็เกิดกลุ่มควันหนาทึบขึ้นทางด้านหน้าของรถ และมีเปลวไฟลุกตามมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลุกลามเผารถวอดทั้งคัน
ตีนผี207เหยียบ"ฮาร์เลย์"ดับ2ศพ
11 มิ.ย. ร.ต.ต.ประพันธ์ ศรีเหมือน ร้อยเวร สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุรถประจำทางชนรถจักรยานยนต์บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เสียชีวิต 2 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณแยกไฟแดง ซอยมหาดไทย ขาออกมุ่งหน้าลำสาลี ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ กทม. เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิตทั้งสองรายติดอยู่ใต้ท้องรถเมล์ เป็นหญิงและชาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายธีรภัทร พาหะมาก อายุ 26 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ ศีรษะแตกมีเลือดไหลอาบ เป็นคนขับขี่ และ น.ส.ศิริรัตน์ พวงเพชร อายุ 23 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนส์ คนซ้อนท้ายมีบาดแผลที่ศีรษะและกะโหลกแตก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุจอดล้มคว่ำอยู่กลางถนน ยี่ห้อฮาร์เลย์ เดวิดสัน สีแดง-ดำ ทะเบียน พพว-246 กทม สภาพใหม่เอี่ยม ได้รับความเสียหายไม่มากนัก
ขณะเดียวกัน รถเมล์ประจำทางร่วมเอกชน สีฟ้า-ขาว สาย 207 วิ่งเส้นทาง ม.รามคำแหง 1 – ราม 2 หมายเลขทะเบียน 10-8815 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งอยู่ริมถนนช่องเลนซ้าย สภาพด้านหน้าได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุ นายบุญธรรม มั่งมูล คนขับรถประจำทางได้ยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากแพทย์ชันสูตรศพเบื้องต้น คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรงจนกะโหลกแตก และเสียชีวิต เจ้าหน้าทีได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
นายบุญธรรม คนขับรถเมล์คันดังกล่าวให้การว่า ขณะเกิดเหตุกำลังรอสัญญาณไฟจราจร เมื่อเห็นไฟเขียวจึงเร่งขับเครื่องขับออกไปแต่มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์ที่เครื่องยนต์ดับเสียอยู่ด้านหน้า กระทั่งได้ยินเสียงดังโครมจึงลงไปดู เห็นซากรถจักรยานยนต์ติดอยู่กับรถเมล์ ขณะที่คนขับมอเตอร์ไซค์กระเด็นเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถเสียชีวิตดังกล่าว และยืนยันว่าไม่มีเจตนาให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ปอ.เบียดคู่แข่งเข้าป้ายชนหลังคาป้ายรถเมล์พินาศ
17 ก.ค. พ.ต.ท.สุรจิต จันทร์แดง พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเมล์ปรับอากาศ สาย 542 เสียหลักพุ่งชนป้ายรถเมล์บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ในที่เกิดเหตุพบรถเมล์ปรับอากาศสาย 542 หมายเลขทะเบียน 13-4025 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ตลิ่งชัน เสียหลักชนป้ายรถเมล์บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า มีผู้โดยสารที่ยืนรอรถเมล์ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ราย พลเมืองดีนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยา
สอบสวนเบื้องต้น ทราบคนขับรถเมล์ชื่อนายสำอางค์ บุตรพรหม อายุ 42 ปี ชาวอำเภอโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด โดยก่อนเกิดเหตุนายสำอางค์ได้ขับรถเข้าจอดที่ป้ายดังกล่าว แต่หลังคารถได้ไปเกี่ยวกับโครงหลังคาป้ายรถเมล์จนเป็นเหตุให้ป้ายรถเมล์ดังกล่าวล้มครืนลงมา ขณะที่ผู้ยืนรถรถเมล์ได้วิ่งหลบกันอย่างชุลมุน แต่หลังคาป้ายรถได้ล้มทับผู้ที่ยืนรอรถจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่หลังเกิดเหตุรถเมล์คันดังกล่าวยังคงวิ่งไปส่งผู้โดยสารตามปกติ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกโชเฟอร์รถเมล์คันดังกล่าวมาสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาท เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป
รถร่วม207ปล่อยลงกลางถนน-ทับขาสาวนครพนมหัก2ท่อน
26 ก.ค. พ.ต.ท.ณัฏฐ์ภาณพ วัชรเสวี สว.จร.สน.โชคชัย รับแจ้งมีผู้โดยสารพลัดตกจากรถเมล์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณป้ายรถรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถร่วม ขสมก.สาย 27 วิ่งระหว่าง มีนบุรี–อนุสาวรีย์ชัยฯ สีฟ้าคาดขาว หมายเลขข้างรถ 27–23 หมายเลขทะเบียน 11-9101 กทม. ของบริษัท ทีพี การเดินรถ จอดอยู่โดยมีนายจำลอง ภูมิงาม อายุ 43 ปี คนขับรถโดยสารคันดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่จึงควบคุมตัวไปสอบสวน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่ามีพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.เปาโลสยาม ไปก่อนหน้านั้นจึงรุดไปตรวจสอบ พบแพทย์กำลังให้การช่วยเหลือชีวิตอยู่อย่างเร่งด่วน ทราบชื่อคนเจ็บต่อมาคือ นางเพ็ญตา สินทะระโก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 12 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ถูกรถทับเข้าที่ขาขวาท่อนบนหัก และมีบาดแผลถลอกตามร่างกายอีกหลายแห่ง
จากการสอบสวนนางเพ็ญตา ผู้บาดเจ็บที่ยังพอให้การได้ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนขึ้นรถโดยสารคันดังกล่าวมาจากมีนบุรี เพื่อมาลงที่ป้ายหน้าห้างบิ๊กซี โดยมีผู้โดยสารมาด้วยกันประมาณ 15 คน เพื่อมาอบรมที่จะทำงานเป็นแม่บ้านของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งตนมาสมัครไว้ ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุรถโดยสารคันดังกล่าวยังวิ่งไม่เข้าป้าย คนขับรถได้เปิดประตูให้ผู้โดยสารลง ก็มีผู้โดยสารประมาณ 10 คน ทยอยกันลงโดยตนลงเป็นคนสุดท้าย แต่เมื่อตนก้าวขาลงยังไม่ถึงพื้นรถคันดังกล่าวได้เคลื่อนตัวออกด้วยความเร็วเป็นเหตุให้พลัดตกลงมาที่พื้นถนน ก่อนที่ล้อรถด้านหลังจะเคลื่อนเข้ามาเหยียบอย่างแรง ตนถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดต่อหน้าผู้โดยสารอีกนับ 10 คน ที่ยืนรอรถเมล์อยู่ เมื่อพยายามจะลุกขึ้นจึงรู้ว่าขาตัวเองหัก ผู้โดยสารที่อาศัยมาคันเดียวกันจึงรีบนำตัวส่ง รพ.เปาโลสยาม
จยย.มุดใต้ท้องปอ.543ดับอนาถ
9 ส.ค. พ.ต.ต.ไพบูลย์ วาสนาม พงส.(สบ.2) สภ.ต.คูคต จ. ปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยายนต์เฉี่ยวชนรถเทรลเลอร์ และเสียหลักพุ่งเข้าไปใต้ท้องรถร่วมบริการปรับอากาศ คนขับขี่รถ จยย.เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในที่เกิดเหตุบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าหมู่บ้านศิริธร ถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา ขาเข้า ต.คูคต จ.ปทุมธานี พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน กรจ-368 ในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายจรัญ ทานกระโทก อายุ 24 ปี พนักงานเสิร์ฟร้าน ป.กุ้งเผา สาขาลำลูกกา สภาพศพเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถร่วมบริการปรับอากาศ สาย 543 หมายเลขทะเบียน 124694 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 1–55002 วิ่งระหว่างบางเขน-ลำลูกกา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้พุ่งเฉี่ยวชนกับรถเทรลเลอร์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ทำให้เสียหลักพุ่งเข้าใต้ท้องรถร่วมบริการที่จอดส่งผู้โดยสารบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่รถเทรลเลอร์ขับหลบหนีไป
มินิบัสตีนผีแข่งนรกชนยับ11คันรวด
2 ก.ย. ร.ต.ต.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ร้อยเวร สน.ลุมพินี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันที่ทางเข้าหน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซา มีประชาชนที่ยืนรอรถประจำทางอยู่ได้รับบาดเจ็บหลายรายจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ มีประชาชนจำนวนมากมามุงดูที่เกิดเหตุ จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอาการขวัญผวา บางส่วนยืนมองอยู่บนสะพานลอย โดยพบว่าบริเวณถนน 2 เลนปากทางเข้าห้างบิ๊กซี มีรถประจำทางยูโรปรับอากาศสีส้ม สาย 511 วิ่งระหว่างปากน้ำ สายใต้ใหม่ ทะเบียน 13-0626 ถูกเฉี่ยวชนด้านท้ายจอดอยู่เลนด้านนอกสุด ใกล้กันมีรถแท็กซี่สีฟ้าแดง ทะเบียน ทม-5534 รถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีน้ำเงิน ทะเบียน ษฮ-2567 กทม.ถูกเฉี่ยวชนเช่นเดียวกันจนมีสภาพเสียหาย โดยมีรถตุ๊กตุ๊ก ทะเบียน สก-4081 ถูกอัดอยู่ระหว่างรถเก๋ง และรถประจำทาง
นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางมินิบัส สีเขียว สาย 74 วิ่งเส้นทางห้วยขวาง คลองเตย ทะเบียน 11-3723 ซึ่งเป็นรถคันก่อเหตุ จอดอยู่เลนใน ลักษณะเยื้องหัวรถเข้าฟุตปาธหน้าทางเข้าห้างฯ ข้างกันมีรถประจำทางสายเดียวกันจอดอยู่ และเมื่อตรวจสอบบริเวณทางเข้ายังพบรถตุ๊กตุ๊กถูกชนเสียหายอีก 3 คันล้มระเนนระนาด รถจักรยานยนต์อีก 2 คัน รวมทั้งสิ้นจำนวน 11 คัน จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีประชาชนที่เดินผ่านไปมา รวมถึงชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนขับรถประจำทางคันต้นเหตุ ที่ยืนรอมอบตัวอยู่ไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ
สอบสวน น.ส.จันจิรา กลิ่นใจ อายุ 18 ปี ทราบว่า ก่อนหน้าได้โดยสารมากับแฟนที่เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารของรถมินิบัสคันก่อเหตุ ที่มีผู้โดยสารอยู่ในรถจำนวน 2 คน มีนายอุทัย หลวงฤทธิ์ อายุ 26 ปีเป็นผู้ขับรถ ขณะขับมาถึงแยกมักกะสัน นายอุทัยได้เร่งเครื่องแข่งกับรถมินิบัสสายเดียวกัน หมายเลขรถเบอร์ 13 เพื่อแย่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทางราชดำริ กระทั่งเมื่อผ่านแยกประตูน้ำช่วงลงสะพานเฉลิมโลก รถเกิดเบรกไม่อยู่ เสียหลักไปชนท้ายรถมินิบัสสายเดียวกัน จากนั้นนายอุทัยได้หักหลบเข้าด้านซ้ายจนเสียหลักชนรถที่อยู่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก
“คนขับพยายามหยุดรถแต่ทำไม่ได้เนื่องจากเบรกแตก จึงหักหลบเข้าไปบริเวณทางเข้าหน้าห้างบิ๊กซี ไปเฉี่ยวชนกับรถตุ๊กตุ๊กที่จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ ก่อนไถลไปชนกับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่และรถเก๋งที่กำลังเลี้ยวรถออกมาจากห้างฯ ระหว่างนั้นเห็นรถชนคนเดินผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน” น.ส.จันจิรา กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
126 เฉี่ยวสาวใหญ่ล้มทับซ้ำสาหัส
18 ก.ย. พ.ต.ต.อนุวัตร์ โพธิ์กลัด สารวัตรเวรจราจร สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีรถเมล์ชนคนเดินเท้าบนถนนรามคำแหง บริเวณหน้าอู่รถเมล์ หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบรถเอกชนร่วมบริการ สาย 126 บางเขน-ม.ราม สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน 11-2822 กทม.จอดอยู่ ส่วนคนเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นางจริณ หมัดนุรัตน์ อายุ 56 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์และคนขับรถเมล์ช่วยกันนำส่ง รพ.เพชรเวช เรียบร้อยแล้ว
จากการสอบถาม นายชาตรี โตจุฬา อายุ 45 ปี คนขับรถตู้ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ปกติคนเจ็บพักอยู่ในซอยรามคำแหง 43 และจะมาขึ้นรถสาย 137 หน้าอู่นี้เป็นประจำเพื่อไปทำงาน ขณะเกิดเหตุเห็นคนเจ็บมายืนรอรถเมล์ตามปกติ จังหวะเดียวกันมีรถสาย 126 คันดังกล่าววิ่งเลี้ยวออกจากอู่มาไม่ทันระวังจึงเฉี่ยวร่างนางจริณล้มลง และล้อหลังของรถเมล์ไปทับร่างกายท่อนล่างของคนเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์จึงเข้าช่วย และได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากเกรงว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอาจถูกรถทับจนขาหัก ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาล
จากการสอบสวนต่อมา ทราบชื่อพนักงานขับรถเมล์ร่วมบริการรายนี้คือ นายวิชิต ประวัติศรี โดยได้เดินทางไปส่งคนเจ็บที่โรงพยาบาลเพชรเวช พร้อมกับกระเป๋ารถเมล์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้พนักงานขับรถเมล์คันก่อเหตุไปให้ปากคำที่ สน.หัวหมาก เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและจะได้รับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
รถร่วมปอ.สาย74 ซึ่งชนหญิงชราดับสยองคาที่
21 ก.ย. เกิดอุบัติเหตุหญิงชราถูกรถเมล์ปรับอากาศร่วมบริการของบริษัท จีจีดี 2001 สาย 74 ชนจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่ถนนประชาสงศ์เคราะห์ขาเข้า หน้าปากซอยประชาสงค์เคราะห์ 34 พบรถประจำทางปรับอากาศ สาย 74 ห้วยขวาง-คลองเตย จอดอยู่ และมีศพหญิงชรานอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน จากคำให้การของชาวบ้านทราบว่า
ขณะที่หญิงชราคนดังกล่าว กำลังเดินข้ามถนน รถเมล์ สาย 74 เลขข้างรถ 74-6 ทะเบียน 13-0830 กทม. วิ่งมาด้วยความเร็ว และพุ่งชน หญิงชราคนดังกล่าวจนเสียชีวิตคาที่ และทราบชื่อของผู้ตายต่อมา คือ นางสุมิตร สุขนาวี อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2015/69 แฟลต15 ชั้น 24 เขต ห้วยขวาง กทม. ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหากับคนขับว่าขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และนำตัวไปสอบสวนที่ สน.สุทธิสาร ต่อไป ส่วนศพหญิงชราก็ได้นำไปไว้ที่นิติเวช พร้อมกับประสานงานให้ญาติทราบต่อไป
มินิบัสกระชากรถ"อาแปะ"ล้มคะมำ
30 ก.ย. พ.ต.ต.พัฒนพงษ์ วิฤทธิ์ สารวัตรเวร สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุมีคนตกรถโดยสารประจำทางขนาดเล็ก (มินิบัส) สาย 1 ถนนตก-สนามหลวง ทะเบียน 11-4885 กทม. บริเวณป้ายรถประจำทางคลองถม ถ.เยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.กลางแล้ว ทราบชื่อคือ นายเม้งเตียง แซ่เตีย อายุ 88 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา
สอบสวนนายไพรบูรณ์ บุญเหลา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 576/25 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ คนขับรถประจำทางสายดังกล่าวให้การว่า ขับรถมาจากถนนตกเพื่อไปสนามหลวงโดยเพิ่งวิ่งเป็นเที่ยวแรก และรับนายเม้งเตียงมาจากย่านเจริญกรุง เมื่อมาถึงบริเวณป้ายรถประจำทางคลองถม นายเม้งเตียงกดกริ่งลงจากรถทางประตูด้านหลัง จึงจอดชิดซ้ายให้ลง โดยตนมองกระจกข้างเห็นว่านายเม้งเตียงได้ลงจากรถแล้ว โดยถือไม้เท้าค้ำยันพื้นไว้ แต่ไม่ทันสังเกตว่านายเม้งเตียงยังไม่ปล่อยมือออกจากราวรถ จึงเร่งเครื่องออกขวาเพื่อออกรถไปรับผู้โดยสารต่อ ระหว่างที่ออกรถได้เพียงนิดเดียวได้ยินเสียงผู้โดยสารและกระเป๋ารถร้องให้หยุดจึงหยุดรถ และเห็นนายเม้งเตียงล้มคว่ำลง ล้อรถได้เฉี่ยวขาขวาเท่านั้น ตนรีบวิ่งมาอุ้มเพื่อนำส่ง รพ. โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่เทศกิจอยู่ละแวกนั้นอาสานำส่ง รพ.ให้
พ.ต.ต.พัฒนพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นให้นายไพรบูรณ์ติดต่อประกันภัยเพื่อมาตรวจสอบรถและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับนายเม้งเตียงตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ในส่วนการดำเนินคดีนั้นทาง รพ.แจ้งว่านายเม้งเตียงมีอาการขาหักและปากแตก เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
มินิบัส 1014 พุ่งชนหญิงวัย 50 ดับแล้วซิ่งหนี
5 ต.ค. เกิดเหตุรถมินิบัสสาย 1014 สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน วิ่งระหว่าง ราม 2 - อุดมสุข ก่อเหตุเฉี่ยวชนชาวบ้านจนสียชีวิต บริเวณตรงข้ามวัดบ้านกล่ำ ถนนอุดมสุข เขตประเวศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็พบหญิงอายุประมาณ 50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน ทราบชื่อของผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นางลำไย ขัตติยะ อายุ 59 ปี เป็นชาวบ้านในย่านที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนทราบว่า รถมินิบัสคันดังกล่าว วิ่งมาด้วยความเร็วและได้พุ่งชนนางลำไยอย่างแรง จากนั้นได้ขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไป ตามเส้นทางสวนหลวง ร.9 ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวคนขับรถมาสอบสวนต่อไป
ขสมก.เหยียบช่างเขียนแสตมป์ดับคาล้อ
18 ต.ค. พ.ต.ท.เอกราช กำเนิดสุข สารวัตรเวร สน.เตาปูน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนกับรถจักรยาน เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุริมถนนดังกล่าว ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนโยธินบูรณะ ห่างจากสี่แยกเกียกกายไปประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถโดยสารประจำทาง สาย 30 สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน 11-9518 กทม. หมายเลขข้างรถ 30-10 วิ่งระหว่างพระราม 7-สายใต้ใหม่ สภาพมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนไฟหน้าฝั่งขวาแตก
โดยเจ้าหน้าที่พบศพชายติดอยู่บริเวณใต้ท้องรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายทวีพร ทองคำใบ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/189 หมู่ 9 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นักวิชาการช่างศิลป์ 7 สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงินเข้ม กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลเป็นรอยถลอกตามใบหน้าและทั่วทั้งร่างกายจนเสื้อผ้าขาดวิ่น และมีรถจักรยานสีน้ำเงินสภาพพังยับเยินติดอยู่ใต้ท้องรถใกล้กันกับศพผู้ตาย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายเสนอ บังสำโรง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 4 ต.กู่สันต์รัตน์ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม พนักงานขับรถโดยสารคันดังกล่าวเอาไว้ได้ ก่อบนำตัวไปสอบสวนที่ สน.เตาปูน โดยนายเสนอ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุวันนี้ ก็ขับรถจากอู่รถย่านพระราม 7 มาตามเส้นทางตามปกติเหมือนทุกวัน เมื่อขับมาถึงถนนประชาราษฎร์สาย 1 ก่อนถึงจุดเกิดเหตุเล็กน้อย ขณะที่รถลงจากสะพานพิบูลสงครามนั้น ก็เกิดเบรกแตกไม่สามารถหยุดรถได้ จึงพยายามบังคับรถไม่ให้เสียหลัก
นายเสนอ ให้การต่อว่า พอรถลงจากสะพานมาถึงบริเวณป้ายรถประจำทางหน้ากองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ก่อนถึงสี่แยกเกียกกายประมาณ 100 เมตร ก็เกิดเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานของผู้ตาย แต่ขณะนั้นตนยังไม่รู้ว่า ผู้ตายติดเข้ามาอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งแรงส่งจากรถที่ลงจากสะพานทำให้ตนยังไม่สามารถควบคุมรถเอาไว้ได้ พุ่งไปข้างผ่านกลางแยกเกียกกายไป โดยบริเวณกลางแยกก็ได้เฉี่ยวชนกับรถกระบะอีซูซึ คามิโอ สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน พน-3571 กทม. ที่กำลังออกมาจากถนนทหารได้รับความเสียหาย พอชนกับรถกระบะแล้ว ก็ยังไม่สามารถหยุดรถเอาไว้ได้อีก รถยังพุ่งผ่านแยกเกียกกายไปอีกประมาณ 100 เมตร จนกระทั่งรถไปหยุดที่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนโยธินบูรณะ ตนจึงรีบลงมาจากรถเพื่อดูความเสียหาย แต่จังหวะนั้นก็มีผู้โดยสารที่ลงมาบอกตนว่าเห็นรอยเลือดเป็นทางยาว เลยมองดูที่ใต้ท้องรถ ก็เห็นคนขับจักรยานที่ถูกตนชนติดอยู่พร้อมกับรถจักรยาน
"ปกติรถคันนี้ ทางบริษัทก็ส่งตรวจสภาพทุกๆปี ก่อนหน้านี้ที่ผมขับมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่วันนี้รู้สึกว่า รถมีปัญหาเบรคไม่อยู่ตั้งแต่อยู่บนสะพาน พอลงสะพานมาก็ยิ่งเพิ่มความเร็วให้รถ ก็เลยทำให้เสียหลักชนเขาไป แถมยังไปชนรถกระบะอีก ผมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัตเหตุจริงๆ" นายเสนอ ให้การกับเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถคันอื่นเสียหาย และทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต กับนายเสนอ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รถร่วมฯ ปอ.82 ทับหัวสมองกระจาย
21 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุรถเมล์ทับคนเสียชีวิต บริเวณปาก ซ.ตากสิน 13 ถ.ตากสิน เขตบุคโล จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถคู่กรณี 3 คัน คือ รถเมล์ร่วมบริการปรับอากาศ สาย 82 หมายเลขทะเบียน 11-9435 รถกระบะไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนอีก 1 คัน และห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบศพเพศชายไม่ทราบชื่อ นอนเสียชีวิตอยู่ในเลนกลางของถนน โดยที่หัวของผู้เสียชีวิตมีร่องรอยถูกล้อรถทับแบนติดถนน เลือดกระจายเต็มพื้นถนน โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ หนุ่มคนดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนตากสินด้วยความเร็ว และเกิดเสียหลักพุ่งชนท้ายรถกระบะที่จอดอยู่เลนซ้ายอย่างแรง ทำให้ผู้ตายกระเด็นไปตกบริเวนเลนกลางของถนน ประจวบเหมาะกับรถเมล์คันดังกล่าวที่วิ่งมาด้วยความเร็วเช่นกัน จึงเบรกไม่ทันวิ่งทับส่วนหัวจนดับคาที่ ซึ่งหลังเกิดเหตุรถเมล์คันดังกล่าวก็รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด
ปอ.-รถร่วมซิ่งชนกันเองผู้โดยสารเจ็บระนาว
24 ต.ค. ร.ต.อ.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ ร้อยเวร สน.พญาไท รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารเฉี่ยวชนกันที่บริเวณแยกประตูน้ำ ถ.เพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถร่วมบริการปรับอากาศ สาย 139 สีน้ำเงิน วิ่งระหว่างสถานีขนส่งหมอชิตใหม่-ม.รามคำแหง บริเวณประตูขึ้นลงตรงกลางรถมีสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบรถร่วมบริการ สาย 38 วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม-ม.รามคำแหง สภาพรถบริเวณด้านหน้าซ้ายพังยับเยิน กระจกด้านหน้าแตก กันชนหักเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 18 คน เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลเดชา
จากการสอบสวน นายอำนาจ สมรัมย์ อายุ 30 ปี คนขับรถร่วมบริการสาย 38 ให้การว่า ขณะที่ขับรถตามเส้นทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อมาถึงแยกประตูน้ำ ได้สัญญาณไฟเขียว ปรากฏว่ารถ ปอ.139 ได้พุ่งออกมาจากใต้สะพานอย่างกะทันหันทำให้เบรกรถไม่อยู่ ประกอบกับฝนตกถนนลื่นจึงเสียหลักพุ่งชนกับ ปอ.139 อย่างแรงทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายราย
ร.ต.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สรุปว่าใครเป็นฝ่ายผิด ต้องรอสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์อีกครั้ง ประกอบกับต้องรอผลการตรวจร่างกายผู้โดยสารจากแพทย์ แต่เบื้องต้นนายบุญรอด พรหมจันทร์ อายุ 40 ปี โชเฟอร์รถ ปอ.139 ยอมรับว่าขับรถผ่าสัญญาณไฟแดง สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 18 ราย ทราบว่าบาดเจ็บเล็กน้อย โดยนายบุญรอดยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง พนักงานสอบสวนจึงได้นัดให้มาพบ ก่อนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย และทำการเปรียบเทียบปรับต่อไป
จยย.พุ่งชนท้ายรถเมล์ดับ
25 ต.ค. ตำรวจนครบาลบางพลัด รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถโดยสารประจำทางที่จอดอยู่หน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 79 แขวงและเขตบางพลัด กทม. มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงรุดตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเอ็นเอสอาร์ สีดำขาว หมายเลขทะเบียน ร-8077 เชียงราย ล้มคว่ำสภาพเสียหาย และรถเมล์สาย 110 หมายเลขทะเบียน 11-2820 กทม. วิ่งระหว่างเส้นทางพระราม 7-เทเวศร์ จอดอยู่ริมทาง ถูกรถ จยย.คันดังกล่าวพุ่งชนท้าย เป็นเหตุให้นายธนากร แซ่ฟุ้ง อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ขับขี่รถ จยย.เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และน.ส.พิสมัย ดำรงศิลป์ อายุ 20 ปี แฟนสาวที่ซ้อนท้ายมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.ศิริราช
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมแฟนสาวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่ามองไม่เห็นรถเมล์ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าปากซอยเนื่องจากเป็นที่มืด ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกลงมาทำให้ถนนลื่น กระทั่งทำให้ขับรถพุ่งชนท้ายรถเมล์เป็นเหตุให้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
รถร่วมชานเมืองเหยียบคนเดินถนนไส้ทะลักดับคาที่
26 ต.ค. ร.ต.อ.อภิวัฒน์ บุญสว่าง ร้อยเวร สภ.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งมีเหตุรถเมล์ร่วมบริการสาย ปอ.2 วิ่งระหว่างรังสิต-นนทบุรี ทับคนเสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณถนนติวานนท์ขาออก ใกล้ปากทางเข้าเมืองทองธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถเมล์ร่วมบริการสีฟ้า-ขาว วิ่งระหว่างรังสิต-นนทบุรี ทะเบียน 10-0992 ปทุมธานี หมายเลขข้างรถ 367-27 เป็นรถร่วมของบริษัท กิตติสุนทร จำกัด ที่บริเวณล้อหลังด้านซ้ายพบศพชายไทยนอนเสียชีวิตในลักษณะแขน-ขาหัก ไส้โผล่ออกมา สภาพสยดสยอง ที่พื้นถนนมีรอยลากยาวประมาณ 10 เมตร จากการตรวจสอบสภาพรถพบว่า ไฟหน้าด้านซ้ายแตก กระจกหน้าด้านซ้ายร้าว โดยมีนายมนตรี ตั้งสุมิตร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113/46 หมู่ 4 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี คนขับยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายมนตรี คนขับรถร่วมฯ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากท่าที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อไปเข้าท่าที่รังสิต โดยมีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคัน ขณะวิ่งมาถึงใกล้ที่เกิดเหตุสังเกตเห็นผู้ตายเดินอยู่ริมถนน ปรากฏว่าเมื่อรถวิ่งเข้ามาใกล้ผู้ตายได้กระโจนพุ่งเข้าใส่รถทันที ตนจึงได้เหยียมเบรกก่อนจะลงมาดูก็พบว่าผู้ตายได้ถูกล้อรถทับเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้โดยสารหลังเกิดเหตุได้แยกย้ายกันลงจากรถไป
ด้าน ร.ต.อ.อภิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นนายมนตรีคนขับได้ให้การว่าผู้ตายได้กระโดดพุ่งเข้าหารถจนถูกรถทับเสียชีวิต ซึ่งจะได้สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ต่อไป พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
รถร่วมเฉียวจยย.ทับขาเด็กป.6หักสะบั้น
2 พ.ย. ร.ต.ท.พนม ผุยหนองโพ ร้อยเวร สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุรถร่วมบริการ ขสมก.เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณปากซอยสุขุมวิท 42/1 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทะเบียน 9ง-8760 กทม.ล้มคว่ำติดอยู่บริเวณล้อหน้าขวาของรถประจำทางสาย 25 สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน 11-5705 กทม.วิ่งระหว่างปากน้ำ-หัวลำโพง ขณะเดียวกันทราบว่ามีเด็กนักเรียนชั้น ป.6/3 โรงเรียนดาราคาม หรือปทุมคงคาเก่า ทราบต่อมาชื่อ ด.ช.ธนาวิทย์ อิทธิพงศ์ชัย อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยผู้เห็นเหตุการณ์ได้แจ้งไปยังศูนย์โรงพยาบาลสุขุมวิทที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุให้มาช่วยเหลือ จากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาล และแพทย์ได้นำเข้าห้องไอซียูในทันที
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุรชัย อิทธิพงศ์ชัย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 516 อ่อนนุช 30 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.และ ด.ช.ธนาวิทย์ บุตรชาย ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพื่อไปส่งบุตรชายที่โรงเรียน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้เฉี่ยวชนกับรถเมล์คันดังกล่าว และ ด.ช.ธนาวุธ ถูกล้อรถทับที่ขาขวาจนกระดูกแตกละเอียด โดยแพทย์ระบุว่าอาจจะต้องตัดขาทิ้ง
ด้าน นายมานิตย์ โพธิ์ผล อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 หมู่ 3 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โชเฟอร์รถเมล์ ซึ่งยืนรอให้การกับตำรวจในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ในช่วงเช้าได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากต้นทางที่ปากน้ำ มุ่งหน้าไปยังหัวลำโพงโดยมีผู้โดยสารเต็มคันรถ เมื่อถึงที่เกิดเหตุขณะรถกำลังออกตัวนั้นได้ยินเสียงผู้โดยสารตะโกนว่ามีรถจักรยานยนต์ติดอยู่ใต้ท้องรถ จึงรีบหยุดรถแล้วลงไปดู พบว่า มีรถจักรยานยนต์ติดอยู่จริง และพบ ด.ช.ธนาวุธ ถูกล้อรถทับขาขวาเลือดไหลนองจึงได้รีบช่วยกันพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเด็ก
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจและเป็นห่วงเด็กมาก อยากให้น้องเค้าอาการดีขึ้น” นายมานิตย์ กล่าว
สาย 96 เสยรถมอเตอร์ไซค์คนขับดับคาที่
16 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชันได้รับรายงานว่า รถประจำทางสาย 96 วิ่งเส้นทางระหว่าง สวนสยาม - หมอชิต ทะเบียน 11-9912 กทม. ชนรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า 80-2157 กทม. บริเวณจุดกลับรถ หน้าสวนสยาม เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อของผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายบุญชู เปล่งศรีนิพนธ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/1 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. โดยผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ รถเมล์สายดังกล่าวกำลังวิ่งออกจากอู่ เพื่อมุ่งหน้าไปอนุสาวรีชัย ด้วยความเร็ว และ รถจักรยานยนต์คนประสบเหตุได้วิ่งสวนมาพอดี รถเมล์จึงพุ่งชนอย่างจัง จนทำให้รถจักรยานยนต์พังยับ และคนขับรถจักรยานยนต์ดับคาที่ ทันที
ขสมก.อ้างเสียหลักพุ่งชนจยย.ดับ
24 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งว่า รถเมล์พิเศษสาย 2 สีครีม-แดง วิ่งระหว่าง สำโรง - ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หมายเลขทะเบียน 11-8221 กทม. ก่อเหตุชนรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน กยย-433 นครปฐม บริเวณ ซ.สุขุมวิท 23 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถเมล์คันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็ว และเกิดเสียหลักพุ่งชนรถจักรยานยนต์ และลากไปไกลประมาณ 100 เมตร จนคนขับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถเมล์ได้หลบหนีไป ล่าสุดได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า สามารถสกัดจับรถเมล์คันที่ก่อเหตุได้บริเวณสี่แยกศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถ.รัชดาภิเษก เขตคลองเตย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเหล่านี้ จะล้วนเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่หรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้บริหารขสมก. จะต้องนำกลับไปทบทวน เพื่อหาทางแก้ไข ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำซากอีก อุบัติเหตุบางราย เชื่อเหลือเกินว่า เกิดจากความสะเพร่าของคนขับ ของเจ้าของรถ ที่ไม่ดูแลบำรุงสภาพรถให้อยู่ในลักษณะที่พร้อมออกบริการสาธารณะ หรืออบรมให้คนขับมีสำนึกที่จะรับผิดชอบชีวิตของผู้โดยสาร "เรา" หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปี 2549 และปีต่อๆไป จะไม่เกิดเรื่องทำนองนี้อีก เพียงแต่ ผู้บริหารขสมก. พนักงาน คนขับ เจ้าของรถ เจ้าของอู่ มีจิตสำนึกในการรับผิดชอบร่วมต่อสังคมเท่านั้น!
หากจะว่าไปแล้ว หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่จะให้ประชาชนเลือกว่าห่วยและชุ่ยที่สุด คงหนีไม่พ้นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร หรือขสมก. ที่ขาดทุนทั้งปีทั้งชาติ ในขณะเดียวกัน รถร่วมที่เข้ามาสัมปทานเส้นทาง ต่างเพิ่มขึ้นหลายสาย จนจดจำกันไม่ไหว แต่ด้านการบริการคงป่าเถื่อน สุดชุ่ยจนไม่รู้จะหาคำอะไรมาเปรียบเทียบกับหน่วยงานนี้ได้
เมื่อต้องมองย้อนไปตั้งแต่ต้นปี 2548 เป็นต้นมา อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นชนิด "ซ้ำซาก" เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และทุกครั้ง หากเป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจผู้คน ผู้ที่มีหน้าที่รีบผิดชอบต่างก็ออกมาเพียงแค่ ช้วยกันหามาตรการ "ล้อมคอก" โดยมิได้มีจิตสำนึกที่จะหาทางป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากบรรดา รถเมล์ รถร่วม หรือรถมินิบัส ให้เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด "เรา ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" จึงขอนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากความสะเพร่า มักง่าย ชุ่ย บริการที่ห่วยแตก มาประจานให้ผูที่ได้รับผิดชอบได้สำนึก เพื่อที่ปีใหม่ ปี 2549 "เรา" ได้แต่เฝ้าหวังว่า อุบัติเหตุในลักษณะเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก หรือให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะภาวนาได้
ประเดิมศกใหม่ ชนผกก.หวิดดับ
12 ม.ค. เวลา 08.30 น.รถประจำทางปรับอากาศร่วมบริการ สาย 538 สีฟ้าคาดขาว หมายเลขทะเบียน 13-4989 หมายเลขข้างรถ 82-183 วิ่งระหว่างสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล คลอง 6-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พุ่งชนพ.ต.อ.การุณ กลิ่นประยูร ผกก.สน.พญาไท ที่พยายามวิ่งหนี แต่ไม่พ้น ถูกชนกระเด็นไปไกลราว 10 เมตร ศีรษะกระแทกพื้นหมดสติ แพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียู ส่วนคนขับ นายนิคม ไชยกุล อายุ 29 ปี บอกว่า เพิ่งมาขับรถประจำทางสาย 538 ได้ 4 เดือน โดยก่อนหน้านั้นได้ขับรับส่งน้ำแข็งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนเกิดเหตุ เวลา 07.00 น. ขับรถออกจากอู่ที่ราชมงคล คลอง 6 มาทางถนนพหลโยธิน เมื่อมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งขณะที่กำลังจะขับเข้าช่องทางรถประจำทาง ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนโบกห้ามไม่ให้เข้าช่องรถประจำทางจึงได้หักรถออกโดยไม่ได้มองด้านขวา ทำให้รถชน พ.ต.อ.การุณ ซึ่งยืนอยู่ได้รับบาดเจ็บ
เฉี่ยวชนร.ต.หญิงชราเกือบกลับบ้านเก่า
27 ม.ค. รถร่วมสาย 64 ก่อเหตุชนหญิงชราเสียชีวิต ร.ต.ท.อาทิตย์ หุ้มทอง ร้องเวรสน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุมีหญิงชราถูกรถประจำทางชนบริเวณสี่แยกบางลำพู ถนนสามเสนตัดถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. รีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถประจำทางสาย 64 รถร่วมเอกชน วิ่งระหว่างสนามหลวง-ท่าน้ำนนทบุรี สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน 12-6428 กทม. หมายเลขข้างรถ 64-28 ของบริษัท สุพรรณยานยนต์ จำกัด ในสภาพไฟเลี้ยวด้านซ้ายแตก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าพลเมืองนำส่งรพ.วชิระพยาบาลแล้ว จึงตามไปตรวจสอบทราบชื่อร.ต.หญิง วีณะรัตน์ สุเดชะ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/27-101 ถนนประดิพัทธ์ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และขาซ้าย
เมื่อสวนเบื้องต้นทราบว่า รถเมล์คันดังกล่าวมีนายวิสิษฐ์ วรรณวิศาล อายุ 60 ปี เป็นคนขับให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขับรถมาจากสนามหลวง และจอดเข้าป้ายบางลำพูบริเวณถนนพระสุเมรุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุจะเลี้ยวซ้ายเข้าบัสเลนบนถนนสามเสน มีป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งติดอยู่ที่เสาไฟฟ้า จู่ๆ ผู้บาดเจ็บโผล่ออกมาจากเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว ซึ่งตนมองไม่เห็น จึงไม่สามารถห้ามล้อทันในขณะนั้นได้ ไฟเลี้ยวด้านซ้ายจึงชนเข้ากับศีรษะของร.ต.วีณะรัตน์ จนล้มลงกับพื้น แล้วกลิ้งเข้าไปใต้ท้องรถ ซึ่งเป็นจังหวะที่สามารถเบรกห้ามล้อได้ทันก่อน จากนั้น ได้ลงจากรถ แล้วรีบมุดเข้าไปช่วย นำตัวออกมาส่งโรงพบยาบาล แล้วเข้ามอบตัวกับตำรวจ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น.ร.ต.ท.สรชัย กาญจนรุจวิวัฒน์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.ย่อยลาดโตนด อ.เมือง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ มีผู้โดยสารพลัดตกจากรถประจำทาง บริเวณตรงข้ามห้างโลตัส สาขาติวานนท์ ถนนติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพบรถประจำทางสาย 90 วิ่งระหว่างหัวถนนติวานนท์ – รัชโยธิน จอดสงบนิ่งอยู่ โดยผู้บาดเจ็บ ทราบภายหลังชื่อน.ส.เอ ชาวพม่า ได้รับบาดเจ็บขาหัก และอาการสาหัส พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลชลประทาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดูแลของแพทย์ และอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ส่วนคนขับรถเมล์หลบหนีไป ตำรวจทำได้แค่ตรวจยึดรถมาไว้ที่โรงพัก
รถร่วมขยี้พ่อค้าปลาทูดับสยองคาล้อ
21 ก.พ. เกิดอุบัติเหตรถประจำทางสาย 69 ชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อผู้ตาย นายกิตติ วรกุลพาณิชย์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/3 ตรอกนางเลิ้ง แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ อาชีพพ่อค้าขายปลาทู สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตสีแดงลาย กางเกงขายาวสีกรมท่า นอนเสียชีวิตติดอยู่กับล้อหน้าด้านซ้ายใต้ท้องรถประจำทางร่วมบริการสาย 69 สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 11-9487 กทม. ซึ่งวิ่งเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามบินน้ำ นนทบุรี
ตำรวจสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คาวาซากิ ทะเบียน 6ป-0167 กทม. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุที่ถนนอโศก-ดินแดง ช่วงจากสามเหลี่ยมดินแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ประมาณ 200 เมตร ได้ถูกรถเมล์สาย 69 ที่จอดรับส่งผู้โดยสารและกำลังวิ่งออกจากป้ายบริเวณหน้าโรงเรียนดุสิตพาณิชยการ เพื่อมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยฯ เบียดทับจนเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถประจำทางทราบชื่อ นายมงคล สุขลาภ หลังเกิดเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
ถึงคิวขสมก.ทับพนง.ล้างรถดับคาอู่
15 มี.ค. เวลา 22.40 น. ร.ต.ต.สมบูรณ์ ดีเกษม พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี รุดไปตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งเหตุรถเมล์ สาย 26 ทับคนเสียชีวิตในอู่รถประจำทาง ขสมก. ตั้งอยู่ในตลาดมีนบุรี แขวงและเขตมีนบุรี กทม.เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถเมล์ สาย 26 ทะเบียน 11-9954 กทม.หมายเลขข้างรถ 2-80168 จอดอยู่ในลักษณะทับร่างผู้ตาย ซึ่งเป็นพนักงานล้างรถ ทราบชื่อ นายสุบิน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 19 ปี จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ นิวาสพัน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 แขวง และเขตมันบุรี กทม. ซึ่งเป็นพนักงานขับรถโดยสารคันที่เกิดเหตุ ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถตีวงโค้งเพื่อจอดรถ ประกอบกับในที่เกิดเหตุเป็นที่มืด จึงไม่ทันเห็นผู้ตายซึ่งสวมชุดดำ กำลังนั่งต่อท่อสายยางเพื่อล้างรถ กระทั่งรถได้ทับร่างผู้ตายเสียชีวิตคาที่
มินิบัสซิ่งคว่ำคาอุโมงค์เจ็บ 3
16 มี.ค. รถมินิบัสสาย 39 หมายเลขทะเบียน11-3977 กทม. สายรังสิต-เกษตร พลิกคว่ำบริเวณอุโมงค์ลอดวงเวียนหลักสี่ขาเข้า ขณะวิ่งตรงมาจากรังสิต มุ่งหน้ามายัง ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน แต่เมื่อถึงกลางอุโมงค์ รถเสียหลักพุ่งชนแผงปูนกั้นถนนจนเกิดพลิกคว่ำคาดว่าสาเหตุมาจากฝนที่ตกหนัก ทำให้พื้นถนนเปียกชื้น ลื่น และมีน้ำขัง เมื่อรถมาด้วยความเร็วจนทำให้เสียหลัก เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากับนายเฉลิมชัย ใบโพธิ์ พนักงานขับรถ ข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินสาธารณะเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
สาย 96 ห้อตะบึงพุ่งชนที่พักผู้โดยสารเจ็บ 1
11พ.ค. ขณะที่พนักงานขับรถ ขสมก.สาย 96 มุ่งหน้าจากสถานีหมอชิตใหม่ไปถึงสวนสยาม และเมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นคอสะพานลาดลง พื้นผิวถนนลื่นทำให้รถเสียหลักแฉลบพุ่งชนหลังคาป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าบริษัทสหฟาร์ม ถนนนวมินทร์อย่างแรง จนล้มพังลงมาทั้งแถบ ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารยืนรอรถอยู่ 3 คน ทำให้กระเบื้องหลังคาหล่นใส่ศีรษะของผู้โดยสารอายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ตำรวจได้แจ้งข้อหาคนขับรถเมล์ฐานขับรถประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินราชการเสียหายและประชาชนได้รับบาดเจ็บ
สลด!ประตูรถร่วมหนีบคร่าชีวิตนศ.แฟนคลับสรยุทธ์
14 พ.ค. รถประจำทางปรับอากาศสีน้ำเงิน-ขาว สาย 528 วิ่งจากไทรน้อย-แยกพระราม 9 หมายเลขข้างรถ 528-3 เลขทะเบียน 13-5713 กทม. ของบริษัท วังศกาญจน์กิจ จำกัด ทับร่างน.ส.อิศยาภรณ์ หงส์อภิโชติสกุล อายุ 21 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะมนุษยศาสตร์ เอกการโรงแรม อยู่บ้านเลขที่ 3/17 หมู่ 1 แขวงจรเข้บัว เขตลาดยาว กทม. ได้รับบาดเจ็บใบหน้าด้านขวายุบ และที่บริเวณหน้าอกถูกล้อรถเมล์ทับ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลเมโย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับ นายจรูญ ถนัดทาง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 1 ต.ประทอง อ.เมือง จ.ยโสธร ได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบสวนเพื่อนของผู้ตายให้การว่า รู้จักกับผู้ตายมาได้ประมาณ 3-4 ปี โดยตนกับเพื่อนและผู้ตายเป็นแฟนคลับของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ใช้ชื่อแฟนคลับ "SFC" วันนี้ได้เดินทางไปกับเพื่อนทั้งหมด 5 คนเพื่อไปอวยพรวันคล้ายวันเกิดย้อนหลังของนายสรยุทธที่ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ในรายการคุยคุ้ยข่าว และได้มอบไฟแช็ก "ZIPPO" สลักชื่อนายสรยุทธ หลังจากนั้นได้เดินทางกลับ โดยนั่งรถแท็กซี่มาลงที่หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน และตนกับผู้ตายได้ออกมายืนรอรถประจำทางที่หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ เมื่อรถเมล์คันดังกล่าวมาจอดเห็นผู้โดยสารลงจากรถ ผู้ตายได้วิ่งไปขึ้นรถประจำทางคันดังกล่าว
"หนูเห็นเพื่อนก้าวเท้าขวาขึ้นไปก่อน แต่ประตูรถได้หนีบและลากร่างของเพื่อนออกไปประมาณ 2 เมตร ทำให้ล้มลง และถูกล้อหลังด้านซ้ายทับที่หน้าอก หนูไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับเพื่อน รู้สึกเสียใจอย่างมาก" เพื่อนผู้ตายกล่าว
ต่อมานายสรยุทธ พร้อมด้วย นายกนก รัตน์วงศ์สกุล สองพิธีกรชื่อดัง ได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อพบกับญาติและเพื่อนของผู้ตาย โดยนายสรยุทธกล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นบ่อยจนถูกมองเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก โดยผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่คิดที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
"ผมโทษระบบ ไม่โทษตัวบุคคล เพราะการว่าจ้างคนขับรถเมล์ มักจะว่าจ้างด้วยค่าแรงที่ถูก ทำให้ได้คนในลักษณะเช่นนี้มาขับรถ ก่อนหน้านี้ได้เตือนน้องๆ ให้ระมัดระวังในการขึ้นรถเมล์ ผมจะตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเกิดหลายครั้งแล้วไม่ได้รับการพัฒนา เมื่อเกิดเหตุขึ้นจะเปรียบเทียบว่าค่ารถเพียง 4-5 บาท จะเอาอะไรกันนักหนา" นายสรยุทธกล่าว
ด้านนายจรูญ คนขับรถกล่าวแต่เพียงว่า ได้จอดรถก่อนถึงป้ายและขอยืนยันว่าจอดรถชิดซ้ายอย่างสนิท ตอนเกิดเหตุไม่เห็นผู้ตายกำลังขึ้นรถ แต่ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าทับคนจึงจอดรถลงมาดู และยืนเพื่อรอมอบตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้โดยสารหนีตายไฟเผาปอ.170 วอดทั้งคัน
7 มิ.ย.เกิดเหตุรถเมล์ปรับอากาศ สาย 170 หมายเลขทะเบียน 13-5272 กทม. เกิดเพลิงลุกไหม้ บริเวณหน้าร้านไก่ย่างโคราช ช่วงพุทธมลฑลสาย 4 บนถนน ปิ่นเกล้า - นครชัยศรี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พุทธมลฑล รุดไปให้ความช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุเพลิงได้เผารถไหม้ไปกว่าครึ่งคัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงไว้ หลังเพลิงสงบพบว่ารถคันดังกล่าวถูกไฟเผาวอดทั้งคัน แต่ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนางน้อย คนขับรถที่เกิดเหตุ ทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบริษัทวังสกานต์จิต จำกัด วิ่งระหว่าง อ้อมน้อย - หมอชิต ก่อนเกิดเหตุ สายไฟในห้องเครื่องเกิดช็อตกันขึ้น จึงนำรถจอดข้างทาง และให้ผู้โดยสารที่มาด้วยประมาณ 15 คน ลงจากรถ จากนั้นก็เกิดกลุ่มควันหนาทึบขึ้นทางด้านหน้าของรถ และมีเปลวไฟลุกตามมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลุกลามเผารถวอดทั้งคัน
ตีนผี207เหยียบ"ฮาร์เลย์"ดับ2ศพ
11 มิ.ย. ร.ต.ต.ประพันธ์ ศรีเหมือน ร้อยเวร สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุรถประจำทางชนรถจักรยานยนต์บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เสียชีวิต 2 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณแยกไฟแดง ซอยมหาดไทย ขาออกมุ่งหน้าลำสาลี ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ กทม. เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิตทั้งสองรายติดอยู่ใต้ท้องรถเมล์ เป็นหญิงและชาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายธีรภัทร พาหะมาก อายุ 26 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ ศีรษะแตกมีเลือดไหลอาบ เป็นคนขับขี่ และ น.ส.ศิริรัตน์ พวงเพชร อายุ 23 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนส์ คนซ้อนท้ายมีบาดแผลที่ศีรษะและกะโหลกแตก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุจอดล้มคว่ำอยู่กลางถนน ยี่ห้อฮาร์เลย์ เดวิดสัน สีแดง-ดำ ทะเบียน พพว-246 กทม สภาพใหม่เอี่ยม ได้รับความเสียหายไม่มากนัก
ขณะเดียวกัน รถเมล์ประจำทางร่วมเอกชน สีฟ้า-ขาว สาย 207 วิ่งเส้นทาง ม.รามคำแหง 1 – ราม 2 หมายเลขทะเบียน 10-8815 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งอยู่ริมถนนช่องเลนซ้าย สภาพด้านหน้าได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุ นายบุญธรรม มั่งมูล คนขับรถประจำทางได้ยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากแพทย์ชันสูตรศพเบื้องต้น คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรงจนกะโหลกแตก และเสียชีวิต เจ้าหน้าทีได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
นายบุญธรรม คนขับรถเมล์คันดังกล่าวให้การว่า ขณะเกิดเหตุกำลังรอสัญญาณไฟจราจร เมื่อเห็นไฟเขียวจึงเร่งขับเครื่องขับออกไปแต่มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์ที่เครื่องยนต์ดับเสียอยู่ด้านหน้า กระทั่งได้ยินเสียงดังโครมจึงลงไปดู เห็นซากรถจักรยานยนต์ติดอยู่กับรถเมล์ ขณะที่คนขับมอเตอร์ไซค์กระเด็นเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถเสียชีวิตดังกล่าว และยืนยันว่าไม่มีเจตนาให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ปอ.เบียดคู่แข่งเข้าป้ายชนหลังคาป้ายรถเมล์พินาศ
17 ก.ค. พ.ต.ท.สุรจิต จันทร์แดง พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเมล์ปรับอากาศ สาย 542 เสียหลักพุ่งชนป้ายรถเมล์บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ในที่เกิดเหตุพบรถเมล์ปรับอากาศสาย 542 หมายเลขทะเบียน 13-4025 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ตลิ่งชัน เสียหลักชนป้ายรถเมล์บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า มีผู้โดยสารที่ยืนรอรถเมล์ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ราย พลเมืองดีนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยา
สอบสวนเบื้องต้น ทราบคนขับรถเมล์ชื่อนายสำอางค์ บุตรพรหม อายุ 42 ปี ชาวอำเภอโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด โดยก่อนเกิดเหตุนายสำอางค์ได้ขับรถเข้าจอดที่ป้ายดังกล่าว แต่หลังคารถได้ไปเกี่ยวกับโครงหลังคาป้ายรถเมล์จนเป็นเหตุให้ป้ายรถเมล์ดังกล่าวล้มครืนลงมา ขณะที่ผู้ยืนรถรถเมล์ได้วิ่งหลบกันอย่างชุลมุน แต่หลังคาป้ายรถได้ล้มทับผู้ที่ยืนรอรถจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่หลังเกิดเหตุรถเมล์คันดังกล่าวยังคงวิ่งไปส่งผู้โดยสารตามปกติ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกโชเฟอร์รถเมล์คันดังกล่าวมาสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาท เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป
รถร่วม207ปล่อยลงกลางถนน-ทับขาสาวนครพนมหัก2ท่อน
26 ก.ค. พ.ต.ท.ณัฏฐ์ภาณพ วัชรเสวี สว.จร.สน.โชคชัย รับแจ้งมีผู้โดยสารพลัดตกจากรถเมล์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณป้ายรถรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถร่วม ขสมก.สาย 27 วิ่งระหว่าง มีนบุรี–อนุสาวรีย์ชัยฯ สีฟ้าคาดขาว หมายเลขข้างรถ 27–23 หมายเลขทะเบียน 11-9101 กทม. ของบริษัท ทีพี การเดินรถ จอดอยู่โดยมีนายจำลอง ภูมิงาม อายุ 43 ปี คนขับรถโดยสารคันดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่จึงควบคุมตัวไปสอบสวน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่ามีพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.เปาโลสยาม ไปก่อนหน้านั้นจึงรุดไปตรวจสอบ พบแพทย์กำลังให้การช่วยเหลือชีวิตอยู่อย่างเร่งด่วน ทราบชื่อคนเจ็บต่อมาคือ นางเพ็ญตา สินทะระโก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 12 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ถูกรถทับเข้าที่ขาขวาท่อนบนหัก และมีบาดแผลถลอกตามร่างกายอีกหลายแห่ง
จากการสอบสวนนางเพ็ญตา ผู้บาดเจ็บที่ยังพอให้การได้ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนขึ้นรถโดยสารคันดังกล่าวมาจากมีนบุรี เพื่อมาลงที่ป้ายหน้าห้างบิ๊กซี โดยมีผู้โดยสารมาด้วยกันประมาณ 15 คน เพื่อมาอบรมที่จะทำงานเป็นแม่บ้านของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งตนมาสมัครไว้ ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุรถโดยสารคันดังกล่าวยังวิ่งไม่เข้าป้าย คนขับรถได้เปิดประตูให้ผู้โดยสารลง ก็มีผู้โดยสารประมาณ 10 คน ทยอยกันลงโดยตนลงเป็นคนสุดท้าย แต่เมื่อตนก้าวขาลงยังไม่ถึงพื้นรถคันดังกล่าวได้เคลื่อนตัวออกด้วยความเร็วเป็นเหตุให้พลัดตกลงมาที่พื้นถนน ก่อนที่ล้อรถด้านหลังจะเคลื่อนเข้ามาเหยียบอย่างแรง ตนถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดต่อหน้าผู้โดยสารอีกนับ 10 คน ที่ยืนรอรถเมล์อยู่ เมื่อพยายามจะลุกขึ้นจึงรู้ว่าขาตัวเองหัก ผู้โดยสารที่อาศัยมาคันเดียวกันจึงรีบนำตัวส่ง รพ.เปาโลสยาม
จยย.มุดใต้ท้องปอ.543ดับอนาถ
9 ส.ค. พ.ต.ต.ไพบูลย์ วาสนาม พงส.(สบ.2) สภ.ต.คูคต จ. ปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยายนต์เฉี่ยวชนรถเทรลเลอร์ และเสียหลักพุ่งเข้าไปใต้ท้องรถร่วมบริการปรับอากาศ คนขับขี่รถ จยย.เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในที่เกิดเหตุบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าหมู่บ้านศิริธร ถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา ขาเข้า ต.คูคต จ.ปทุมธานี พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน กรจ-368 ในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายจรัญ ทานกระโทก อายุ 24 ปี พนักงานเสิร์ฟร้าน ป.กุ้งเผา สาขาลำลูกกา สภาพศพเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถร่วมบริการปรับอากาศ สาย 543 หมายเลขทะเบียน 124694 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 1–55002 วิ่งระหว่างบางเขน-ลำลูกกา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้พุ่งเฉี่ยวชนกับรถเทรลเลอร์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ทำให้เสียหลักพุ่งเข้าใต้ท้องรถร่วมบริการที่จอดส่งผู้โดยสารบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่รถเทรลเลอร์ขับหลบหนีไป
มินิบัสตีนผีแข่งนรกชนยับ11คันรวด
2 ก.ย. ร.ต.ต.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ร้อยเวร สน.ลุมพินี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันที่ทางเข้าหน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซา มีประชาชนที่ยืนรอรถประจำทางอยู่ได้รับบาดเจ็บหลายรายจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ มีประชาชนจำนวนมากมามุงดูที่เกิดเหตุ จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอาการขวัญผวา บางส่วนยืนมองอยู่บนสะพานลอย โดยพบว่าบริเวณถนน 2 เลนปากทางเข้าห้างบิ๊กซี มีรถประจำทางยูโรปรับอากาศสีส้ม สาย 511 วิ่งระหว่างปากน้ำ สายใต้ใหม่ ทะเบียน 13-0626 ถูกเฉี่ยวชนด้านท้ายจอดอยู่เลนด้านนอกสุด ใกล้กันมีรถแท็กซี่สีฟ้าแดง ทะเบียน ทม-5534 รถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีน้ำเงิน ทะเบียน ษฮ-2567 กทม.ถูกเฉี่ยวชนเช่นเดียวกันจนมีสภาพเสียหาย โดยมีรถตุ๊กตุ๊ก ทะเบียน สก-4081 ถูกอัดอยู่ระหว่างรถเก๋ง และรถประจำทาง
นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางมินิบัส สีเขียว สาย 74 วิ่งเส้นทางห้วยขวาง คลองเตย ทะเบียน 11-3723 ซึ่งเป็นรถคันก่อเหตุ จอดอยู่เลนใน ลักษณะเยื้องหัวรถเข้าฟุตปาธหน้าทางเข้าห้างฯ ข้างกันมีรถประจำทางสายเดียวกันจอดอยู่ และเมื่อตรวจสอบบริเวณทางเข้ายังพบรถตุ๊กตุ๊กถูกชนเสียหายอีก 3 คันล้มระเนนระนาด รถจักรยานยนต์อีก 2 คัน รวมทั้งสิ้นจำนวน 11 คัน จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีประชาชนที่เดินผ่านไปมา รวมถึงชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนขับรถประจำทางคันต้นเหตุ ที่ยืนรอมอบตัวอยู่ไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ
สอบสวน น.ส.จันจิรา กลิ่นใจ อายุ 18 ปี ทราบว่า ก่อนหน้าได้โดยสารมากับแฟนที่เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารของรถมินิบัสคันก่อเหตุ ที่มีผู้โดยสารอยู่ในรถจำนวน 2 คน มีนายอุทัย หลวงฤทธิ์ อายุ 26 ปีเป็นผู้ขับรถ ขณะขับมาถึงแยกมักกะสัน นายอุทัยได้เร่งเครื่องแข่งกับรถมินิบัสสายเดียวกัน หมายเลขรถเบอร์ 13 เพื่อแย่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทางราชดำริ กระทั่งเมื่อผ่านแยกประตูน้ำช่วงลงสะพานเฉลิมโลก รถเกิดเบรกไม่อยู่ เสียหลักไปชนท้ายรถมินิบัสสายเดียวกัน จากนั้นนายอุทัยได้หักหลบเข้าด้านซ้ายจนเสียหลักชนรถที่อยู่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก
“คนขับพยายามหยุดรถแต่ทำไม่ได้เนื่องจากเบรกแตก จึงหักหลบเข้าไปบริเวณทางเข้าหน้าห้างบิ๊กซี ไปเฉี่ยวชนกับรถตุ๊กตุ๊กที่จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ ก่อนไถลไปชนกับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่และรถเก๋งที่กำลังเลี้ยวรถออกมาจากห้างฯ ระหว่างนั้นเห็นรถชนคนเดินผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน” น.ส.จันจิรา กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
126 เฉี่ยวสาวใหญ่ล้มทับซ้ำสาหัส
18 ก.ย. พ.ต.ต.อนุวัตร์ โพธิ์กลัด สารวัตรเวรจราจร สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีรถเมล์ชนคนเดินเท้าบนถนนรามคำแหง บริเวณหน้าอู่รถเมล์ หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบรถเอกชนร่วมบริการ สาย 126 บางเขน-ม.ราม สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน 11-2822 กทม.จอดอยู่ ส่วนคนเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นางจริณ หมัดนุรัตน์ อายุ 56 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์และคนขับรถเมล์ช่วยกันนำส่ง รพ.เพชรเวช เรียบร้อยแล้ว
จากการสอบถาม นายชาตรี โตจุฬา อายุ 45 ปี คนขับรถตู้ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ปกติคนเจ็บพักอยู่ในซอยรามคำแหง 43 และจะมาขึ้นรถสาย 137 หน้าอู่นี้เป็นประจำเพื่อไปทำงาน ขณะเกิดเหตุเห็นคนเจ็บมายืนรอรถเมล์ตามปกติ จังหวะเดียวกันมีรถสาย 126 คันดังกล่าววิ่งเลี้ยวออกจากอู่มาไม่ทันระวังจึงเฉี่ยวร่างนางจริณล้มลง และล้อหลังของรถเมล์ไปทับร่างกายท่อนล่างของคนเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์จึงเข้าช่วย และได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากเกรงว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอาจถูกรถทับจนขาหัก ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาล
จากการสอบสวนต่อมา ทราบชื่อพนักงานขับรถเมล์ร่วมบริการรายนี้คือ นายวิชิต ประวัติศรี โดยได้เดินทางไปส่งคนเจ็บที่โรงพยาบาลเพชรเวช พร้อมกับกระเป๋ารถเมล์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้พนักงานขับรถเมล์คันก่อเหตุไปให้ปากคำที่ สน.หัวหมาก เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและจะได้รับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
รถร่วมปอ.สาย74 ซึ่งชนหญิงชราดับสยองคาที่
21 ก.ย. เกิดอุบัติเหตุหญิงชราถูกรถเมล์ปรับอากาศร่วมบริการของบริษัท จีจีดี 2001 สาย 74 ชนจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่ถนนประชาสงศ์เคราะห์ขาเข้า หน้าปากซอยประชาสงค์เคราะห์ 34 พบรถประจำทางปรับอากาศ สาย 74 ห้วยขวาง-คลองเตย จอดอยู่ และมีศพหญิงชรานอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน จากคำให้การของชาวบ้านทราบว่า
ขณะที่หญิงชราคนดังกล่าว กำลังเดินข้ามถนน รถเมล์ สาย 74 เลขข้างรถ 74-6 ทะเบียน 13-0830 กทม. วิ่งมาด้วยความเร็ว และพุ่งชน หญิงชราคนดังกล่าวจนเสียชีวิตคาที่ และทราบชื่อของผู้ตายต่อมา คือ นางสุมิตร สุขนาวี อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2015/69 แฟลต15 ชั้น 24 เขต ห้วยขวาง กทม. ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหากับคนขับว่าขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และนำตัวไปสอบสวนที่ สน.สุทธิสาร ต่อไป ส่วนศพหญิงชราก็ได้นำไปไว้ที่นิติเวช พร้อมกับประสานงานให้ญาติทราบต่อไป
มินิบัสกระชากรถ"อาแปะ"ล้มคะมำ
30 ก.ย. พ.ต.ต.พัฒนพงษ์ วิฤทธิ์ สารวัตรเวร สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุมีคนตกรถโดยสารประจำทางขนาดเล็ก (มินิบัส) สาย 1 ถนนตก-สนามหลวง ทะเบียน 11-4885 กทม. บริเวณป้ายรถประจำทางคลองถม ถ.เยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.กลางแล้ว ทราบชื่อคือ นายเม้งเตียง แซ่เตีย อายุ 88 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา
สอบสวนนายไพรบูรณ์ บุญเหลา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 576/25 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ คนขับรถประจำทางสายดังกล่าวให้การว่า ขับรถมาจากถนนตกเพื่อไปสนามหลวงโดยเพิ่งวิ่งเป็นเที่ยวแรก และรับนายเม้งเตียงมาจากย่านเจริญกรุง เมื่อมาถึงบริเวณป้ายรถประจำทางคลองถม นายเม้งเตียงกดกริ่งลงจากรถทางประตูด้านหลัง จึงจอดชิดซ้ายให้ลง โดยตนมองกระจกข้างเห็นว่านายเม้งเตียงได้ลงจากรถแล้ว โดยถือไม้เท้าค้ำยันพื้นไว้ แต่ไม่ทันสังเกตว่านายเม้งเตียงยังไม่ปล่อยมือออกจากราวรถ จึงเร่งเครื่องออกขวาเพื่อออกรถไปรับผู้โดยสารต่อ ระหว่างที่ออกรถได้เพียงนิดเดียวได้ยินเสียงผู้โดยสารและกระเป๋ารถร้องให้หยุดจึงหยุดรถ และเห็นนายเม้งเตียงล้มคว่ำลง ล้อรถได้เฉี่ยวขาขวาเท่านั้น ตนรีบวิ่งมาอุ้มเพื่อนำส่ง รพ. โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่เทศกิจอยู่ละแวกนั้นอาสานำส่ง รพ.ให้
พ.ต.ต.พัฒนพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นให้นายไพรบูรณ์ติดต่อประกันภัยเพื่อมาตรวจสอบรถและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับนายเม้งเตียงตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ในส่วนการดำเนินคดีนั้นทาง รพ.แจ้งว่านายเม้งเตียงมีอาการขาหักและปากแตก เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
มินิบัส 1014 พุ่งชนหญิงวัย 50 ดับแล้วซิ่งหนี
5 ต.ค. เกิดเหตุรถมินิบัสสาย 1014 สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน วิ่งระหว่าง ราม 2 - อุดมสุข ก่อเหตุเฉี่ยวชนชาวบ้านจนสียชีวิต บริเวณตรงข้ามวัดบ้านกล่ำ ถนนอุดมสุข เขตประเวศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็พบหญิงอายุประมาณ 50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน ทราบชื่อของผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นางลำไย ขัตติยะ อายุ 59 ปี เป็นชาวบ้านในย่านที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนทราบว่า รถมินิบัสคันดังกล่าว วิ่งมาด้วยความเร็วและได้พุ่งชนนางลำไยอย่างแรง จากนั้นได้ขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไป ตามเส้นทางสวนหลวง ร.9 ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวคนขับรถมาสอบสวนต่อไป
ขสมก.เหยียบช่างเขียนแสตมป์ดับคาล้อ
18 ต.ค. พ.ต.ท.เอกราช กำเนิดสุข สารวัตรเวร สน.เตาปูน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนกับรถจักรยาน เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุริมถนนดังกล่าว ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนโยธินบูรณะ ห่างจากสี่แยกเกียกกายไปประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถโดยสารประจำทาง สาย 30 สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน 11-9518 กทม. หมายเลขข้างรถ 30-10 วิ่งระหว่างพระราม 7-สายใต้ใหม่ สภาพมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนไฟหน้าฝั่งขวาแตก
โดยเจ้าหน้าที่พบศพชายติดอยู่บริเวณใต้ท้องรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายทวีพร ทองคำใบ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/189 หมู่ 9 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นักวิชาการช่างศิลป์ 7 สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงินเข้ม กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลเป็นรอยถลอกตามใบหน้าและทั่วทั้งร่างกายจนเสื้อผ้าขาดวิ่น และมีรถจักรยานสีน้ำเงินสภาพพังยับเยินติดอยู่ใต้ท้องรถใกล้กันกับศพผู้ตาย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายเสนอ บังสำโรง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 4 ต.กู่สันต์รัตน์ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม พนักงานขับรถโดยสารคันดังกล่าวเอาไว้ได้ ก่อบนำตัวไปสอบสวนที่ สน.เตาปูน โดยนายเสนอ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุวันนี้ ก็ขับรถจากอู่รถย่านพระราม 7 มาตามเส้นทางตามปกติเหมือนทุกวัน เมื่อขับมาถึงถนนประชาราษฎร์สาย 1 ก่อนถึงจุดเกิดเหตุเล็กน้อย ขณะที่รถลงจากสะพานพิบูลสงครามนั้น ก็เกิดเบรกแตกไม่สามารถหยุดรถได้ จึงพยายามบังคับรถไม่ให้เสียหลัก
นายเสนอ ให้การต่อว่า พอรถลงจากสะพานมาถึงบริเวณป้ายรถประจำทางหน้ากองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ก่อนถึงสี่แยกเกียกกายประมาณ 100 เมตร ก็เกิดเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานของผู้ตาย แต่ขณะนั้นตนยังไม่รู้ว่า ผู้ตายติดเข้ามาอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งแรงส่งจากรถที่ลงจากสะพานทำให้ตนยังไม่สามารถควบคุมรถเอาไว้ได้ พุ่งไปข้างผ่านกลางแยกเกียกกายไป โดยบริเวณกลางแยกก็ได้เฉี่ยวชนกับรถกระบะอีซูซึ คามิโอ สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน พน-3571 กทม. ที่กำลังออกมาจากถนนทหารได้รับความเสียหาย พอชนกับรถกระบะแล้ว ก็ยังไม่สามารถหยุดรถเอาไว้ได้อีก รถยังพุ่งผ่านแยกเกียกกายไปอีกประมาณ 100 เมตร จนกระทั่งรถไปหยุดที่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนโยธินบูรณะ ตนจึงรีบลงมาจากรถเพื่อดูความเสียหาย แต่จังหวะนั้นก็มีผู้โดยสารที่ลงมาบอกตนว่าเห็นรอยเลือดเป็นทางยาว เลยมองดูที่ใต้ท้องรถ ก็เห็นคนขับจักรยานที่ถูกตนชนติดอยู่พร้อมกับรถจักรยาน
"ปกติรถคันนี้ ทางบริษัทก็ส่งตรวจสภาพทุกๆปี ก่อนหน้านี้ที่ผมขับมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่วันนี้รู้สึกว่า รถมีปัญหาเบรคไม่อยู่ตั้งแต่อยู่บนสะพาน พอลงสะพานมาก็ยิ่งเพิ่มความเร็วให้รถ ก็เลยทำให้เสียหลักชนเขาไป แถมยังไปชนรถกระบะอีก ผมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัตเหตุจริงๆ" นายเสนอ ให้การกับเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถคันอื่นเสียหาย และทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต กับนายเสนอ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รถร่วมฯ ปอ.82 ทับหัวสมองกระจาย
21 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุรถเมล์ทับคนเสียชีวิต บริเวณปาก ซ.ตากสิน 13 ถ.ตากสิน เขตบุคโล จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถคู่กรณี 3 คัน คือ รถเมล์ร่วมบริการปรับอากาศ สาย 82 หมายเลขทะเบียน 11-9435 รถกระบะไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนอีก 1 คัน และห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบศพเพศชายไม่ทราบชื่อ นอนเสียชีวิตอยู่ในเลนกลางของถนน โดยที่หัวของผู้เสียชีวิตมีร่องรอยถูกล้อรถทับแบนติดถนน เลือดกระจายเต็มพื้นถนน โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ หนุ่มคนดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนตากสินด้วยความเร็ว และเกิดเสียหลักพุ่งชนท้ายรถกระบะที่จอดอยู่เลนซ้ายอย่างแรง ทำให้ผู้ตายกระเด็นไปตกบริเวนเลนกลางของถนน ประจวบเหมาะกับรถเมล์คันดังกล่าวที่วิ่งมาด้วยความเร็วเช่นกัน จึงเบรกไม่ทันวิ่งทับส่วนหัวจนดับคาที่ ซึ่งหลังเกิดเหตุรถเมล์คันดังกล่าวก็รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด
ปอ.-รถร่วมซิ่งชนกันเองผู้โดยสารเจ็บระนาว
24 ต.ค. ร.ต.อ.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ ร้อยเวร สน.พญาไท รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารเฉี่ยวชนกันที่บริเวณแยกประตูน้ำ ถ.เพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถร่วมบริการปรับอากาศ สาย 139 สีน้ำเงิน วิ่งระหว่างสถานีขนส่งหมอชิตใหม่-ม.รามคำแหง บริเวณประตูขึ้นลงตรงกลางรถมีสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบรถร่วมบริการ สาย 38 วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม-ม.รามคำแหง สภาพรถบริเวณด้านหน้าซ้ายพังยับเยิน กระจกด้านหน้าแตก กันชนหักเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 18 คน เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลเดชา
จากการสอบสวน นายอำนาจ สมรัมย์ อายุ 30 ปี คนขับรถร่วมบริการสาย 38 ให้การว่า ขณะที่ขับรถตามเส้นทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อมาถึงแยกประตูน้ำ ได้สัญญาณไฟเขียว ปรากฏว่ารถ ปอ.139 ได้พุ่งออกมาจากใต้สะพานอย่างกะทันหันทำให้เบรกรถไม่อยู่ ประกอบกับฝนตกถนนลื่นจึงเสียหลักพุ่งชนกับ ปอ.139 อย่างแรงทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายราย
ร.ต.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สรุปว่าใครเป็นฝ่ายผิด ต้องรอสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์อีกครั้ง ประกอบกับต้องรอผลการตรวจร่างกายผู้โดยสารจากแพทย์ แต่เบื้องต้นนายบุญรอด พรหมจันทร์ อายุ 40 ปี โชเฟอร์รถ ปอ.139 ยอมรับว่าขับรถผ่าสัญญาณไฟแดง สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 18 ราย ทราบว่าบาดเจ็บเล็กน้อย โดยนายบุญรอดยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง พนักงานสอบสวนจึงได้นัดให้มาพบ ก่อนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย และทำการเปรียบเทียบปรับต่อไป
จยย.พุ่งชนท้ายรถเมล์ดับ
25 ต.ค. ตำรวจนครบาลบางพลัด รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถโดยสารประจำทางที่จอดอยู่หน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 79 แขวงและเขตบางพลัด กทม. มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงรุดตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเอ็นเอสอาร์ สีดำขาว หมายเลขทะเบียน ร-8077 เชียงราย ล้มคว่ำสภาพเสียหาย และรถเมล์สาย 110 หมายเลขทะเบียน 11-2820 กทม. วิ่งระหว่างเส้นทางพระราม 7-เทเวศร์ จอดอยู่ริมทาง ถูกรถ จยย.คันดังกล่าวพุ่งชนท้าย เป็นเหตุให้นายธนากร แซ่ฟุ้ง อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ขับขี่รถ จยย.เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และน.ส.พิสมัย ดำรงศิลป์ อายุ 20 ปี แฟนสาวที่ซ้อนท้ายมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.ศิริราช
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมแฟนสาวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่ามองไม่เห็นรถเมล์ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าปากซอยเนื่องจากเป็นที่มืด ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกลงมาทำให้ถนนลื่น กระทั่งทำให้ขับรถพุ่งชนท้ายรถเมล์เป็นเหตุให้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
รถร่วมชานเมืองเหยียบคนเดินถนนไส้ทะลักดับคาที่
26 ต.ค. ร.ต.อ.อภิวัฒน์ บุญสว่าง ร้อยเวร สภ.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งมีเหตุรถเมล์ร่วมบริการสาย ปอ.2 วิ่งระหว่างรังสิต-นนทบุรี ทับคนเสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณถนนติวานนท์ขาออก ใกล้ปากทางเข้าเมืองทองธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถเมล์ร่วมบริการสีฟ้า-ขาว วิ่งระหว่างรังสิต-นนทบุรี ทะเบียน 10-0992 ปทุมธานี หมายเลขข้างรถ 367-27 เป็นรถร่วมของบริษัท กิตติสุนทร จำกัด ที่บริเวณล้อหลังด้านซ้ายพบศพชายไทยนอนเสียชีวิตในลักษณะแขน-ขาหัก ไส้โผล่ออกมา สภาพสยดสยอง ที่พื้นถนนมีรอยลากยาวประมาณ 10 เมตร จากการตรวจสอบสภาพรถพบว่า ไฟหน้าด้านซ้ายแตก กระจกหน้าด้านซ้ายร้าว โดยมีนายมนตรี ตั้งสุมิตร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113/46 หมู่ 4 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี คนขับยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายมนตรี คนขับรถร่วมฯ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากท่าที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อไปเข้าท่าที่รังสิต โดยมีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคัน ขณะวิ่งมาถึงใกล้ที่เกิดเหตุสังเกตเห็นผู้ตายเดินอยู่ริมถนน ปรากฏว่าเมื่อรถวิ่งเข้ามาใกล้ผู้ตายได้กระโจนพุ่งเข้าใส่รถทันที ตนจึงได้เหยียมเบรกก่อนจะลงมาดูก็พบว่าผู้ตายได้ถูกล้อรถทับเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้โดยสารหลังเกิดเหตุได้แยกย้ายกันลงจากรถไป
ด้าน ร.ต.อ.อภิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นนายมนตรีคนขับได้ให้การว่าผู้ตายได้กระโดดพุ่งเข้าหารถจนถูกรถทับเสียชีวิต ซึ่งจะได้สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ต่อไป พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
รถร่วมเฉียวจยย.ทับขาเด็กป.6หักสะบั้น
2 พ.ย. ร.ต.ท.พนม ผุยหนองโพ ร้อยเวร สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุรถร่วมบริการ ขสมก.เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณปากซอยสุขุมวิท 42/1 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทะเบียน 9ง-8760 กทม.ล้มคว่ำติดอยู่บริเวณล้อหน้าขวาของรถประจำทางสาย 25 สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน 11-5705 กทม.วิ่งระหว่างปากน้ำ-หัวลำโพง ขณะเดียวกันทราบว่ามีเด็กนักเรียนชั้น ป.6/3 โรงเรียนดาราคาม หรือปทุมคงคาเก่า ทราบต่อมาชื่อ ด.ช.ธนาวิทย์ อิทธิพงศ์ชัย อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยผู้เห็นเหตุการณ์ได้แจ้งไปยังศูนย์โรงพยาบาลสุขุมวิทที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุให้มาช่วยเหลือ จากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาล และแพทย์ได้นำเข้าห้องไอซียูในทันที
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุรชัย อิทธิพงศ์ชัย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 516 อ่อนนุช 30 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.และ ด.ช.ธนาวิทย์ บุตรชาย ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพื่อไปส่งบุตรชายที่โรงเรียน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้เฉี่ยวชนกับรถเมล์คันดังกล่าว และ ด.ช.ธนาวุธ ถูกล้อรถทับที่ขาขวาจนกระดูกแตกละเอียด โดยแพทย์ระบุว่าอาจจะต้องตัดขาทิ้ง
ด้าน นายมานิตย์ โพธิ์ผล อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 หมู่ 3 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โชเฟอร์รถเมล์ ซึ่งยืนรอให้การกับตำรวจในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ในช่วงเช้าได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากต้นทางที่ปากน้ำ มุ่งหน้าไปยังหัวลำโพงโดยมีผู้โดยสารเต็มคันรถ เมื่อถึงที่เกิดเหตุขณะรถกำลังออกตัวนั้นได้ยินเสียงผู้โดยสารตะโกนว่ามีรถจักรยานยนต์ติดอยู่ใต้ท้องรถ จึงรีบหยุดรถแล้วลงไปดู พบว่า มีรถจักรยานยนต์ติดอยู่จริง และพบ ด.ช.ธนาวุธ ถูกล้อรถทับขาขวาเลือดไหลนองจึงได้รีบช่วยกันพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเด็ก
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจและเป็นห่วงเด็กมาก อยากให้น้องเค้าอาการดีขึ้น” นายมานิตย์ กล่าว
สาย 96 เสยรถมอเตอร์ไซค์คนขับดับคาที่
16 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชันได้รับรายงานว่า รถประจำทางสาย 96 วิ่งเส้นทางระหว่าง สวนสยาม - หมอชิต ทะเบียน 11-9912 กทม. ชนรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า 80-2157 กทม. บริเวณจุดกลับรถ หน้าสวนสยาม เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อของผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายบุญชู เปล่งศรีนิพนธ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/1 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. โดยผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ รถเมล์สายดังกล่าวกำลังวิ่งออกจากอู่ เพื่อมุ่งหน้าไปอนุสาวรีชัย ด้วยความเร็ว และ รถจักรยานยนต์คนประสบเหตุได้วิ่งสวนมาพอดี รถเมล์จึงพุ่งชนอย่างจัง จนทำให้รถจักรยานยนต์พังยับ และคนขับรถจักรยานยนต์ดับคาที่ ทันที
ขสมก.อ้างเสียหลักพุ่งชนจยย.ดับ
24 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งว่า รถเมล์พิเศษสาย 2 สีครีม-แดง วิ่งระหว่าง สำโรง - ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หมายเลขทะเบียน 11-8221 กทม. ก่อเหตุชนรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน กยย-433 นครปฐม บริเวณ ซ.สุขุมวิท 23 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถเมล์คันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็ว และเกิดเสียหลักพุ่งชนรถจักรยานยนต์ และลากไปไกลประมาณ 100 เมตร จนคนขับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถเมล์ได้หลบหนีไป ล่าสุดได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า สามารถสกัดจับรถเมล์คันที่ก่อเหตุได้บริเวณสี่แยกศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถ.รัชดาภิเษก เขตคลองเตย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเหล่านี้ จะล้วนเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่หรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้บริหารขสมก. จะต้องนำกลับไปทบทวน เพื่อหาทางแก้ไข ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำซากอีก อุบัติเหตุบางราย เชื่อเหลือเกินว่า เกิดจากความสะเพร่าของคนขับ ของเจ้าของรถ ที่ไม่ดูแลบำรุงสภาพรถให้อยู่ในลักษณะที่พร้อมออกบริการสาธารณะ หรืออบรมให้คนขับมีสำนึกที่จะรับผิดชอบชีวิตของผู้โดยสาร "เรา" หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปี 2549 และปีต่อๆไป จะไม่เกิดเรื่องทำนองนี้อีก เพียงแต่ ผู้บริหารขสมก. พนักงาน คนขับ เจ้าของรถ เจ้าของอู่ มีจิตสำนึกในการรับผิดชอบร่วมต่อสังคมเท่านั้น!
