อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดโครงการเยี่ยมญาติผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการ 29 ธ.ค.นี้ หวังลดภาระเจ้าหน้าที่และค่าเดินทางของญาติผู้ต้องโทษ
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สาธิตการเยี่ยมญาติทางไกล หรือ e-visiting ด้วยระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ พร้อมกล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้นำแนวคิดในการใช้เครื่องมือสื่อสารและเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเยี่ยมผู้ต้องขังผ่านระบบสื่อสารทางไกลทางจอภาพ ซึ่งจะสามารถช่วยให้ญาติผู้ต้องขังที่มีภูมิลำเนาต่างพื้นที่ไม่ต้องเดินทางมาเยี่ยม ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดภาระการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบบดังกล่าวนี้กรมราชทัณฑ์ได้ใช้ในการฝากขังตัวนักโทษโดยไม่ต้องไปศาล แต่ติดต่อกับผู้พิพากษาที่ศาลผ่านจอภาพวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ใช้ในการประชุมผู้บัญชาการเรือนจำ และขยายมาถึงการให้เยี่ยมญาติทางไกล จะเปิดอย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 29 ธันวาคม 2548 เริ่มแรกจะมีเรือนจำและทัณฑสถานพร้อมให้บริการ 37 แห่ง และระยะต่อไปจะเปิดให้เยี่ยมญาติทางไกลได้อีก 20 แห่ง
“ผู้ต้องขังโทษสูงๆ ที่ปัจจุบันมีอยู่ร้อยละ 30 พบว่า ร้อยละ 50 ของกลุ่มนี้ขาดการเยี่ยมญาติมานาน เพราะญาติเห็นว่าต้องโทษนาน การมาเยี่ยมต้องมีค่าใช้จ่ายทำให้ขาดการเยี่ยม ซึ่งมีผลต่อผู้ต้องโทษ เพราะการเยี่ยมญาติจะช่วยให้เขามีความหวังที่จะได้กลับสู่สังคม และเห็นว่ายังมีญาติพี่น้องรอคอยอยู่ บริการระบบนี้ขณะนี้ได้ทดลองใช้ในหลายเรือนจำ หากเปิดบริการอย่างเป็นทางการแล้วเชื่อว่าประชาชนจะเข้าเยี่ยมญาติมากขึ้น” นายนัทธี กล่าว และว่าสำหรับการให้บริการ ญาติต้องจองเข้าเยี่ยมทางไกลล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 10 วัน เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ต้องขังและญาติผู้ต้องขังก่อน โดยนักโทษชั้นดีจะมีสิทธิได้รับการเยี่ยมเดือนละ 1 ครั้ง ชั้นดีมาก 2 ครั้งต่อเดือน และชั้นเยี่ยม 3 ครั้งต่อเดือน ซึ่งแต่ละเรือนจำจะจัดกำหนดวันเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ โดยให้เยี่ยมตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และเวลา 13.00-15.00 น. และให้เยี่ยมรอบละไม่เกิน 15 นาที ทั้งนี้ ในการเยี่ยมญาติทางไกลด้วยระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ญาติผู้ต้องขังจะต้องรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ทางไกลในการเยี่ยมแต่ละครั้ง
นายนัทธี กล่าวอีกว่า ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ กรมราชทัณฑ์จะเปิดทดลองใช้ระบบไวไฟติดตั้งกล้องถ่ายทอดการทำงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในเรือนจำบางขวางมายังกรมราชทัณฑ์และเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้บริหารจะมีพาสเวิร์ดในการเปิดดูและถือเป็นการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ในเรือนจำโดยไม่ต้องไปที่เรือนจำ และตรวจสอบได้ตลอดเวลาเหมือนถ่ายทอดสดการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะขยายต่อไปให้ตรวจสอบได้ทุกเรือนจำด้วยระบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สาธิตการเยี่ยมญาติทางไกลโดยติดต่อพูดคุยกับนายอัมเรศ ชีวังกูร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ และนักโทษในเรือนจำกลางสุรินทร์ ด้วย