กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดสัปดาห์รณรงค์ปราบปรามสื่อลามกอนาาจาร พร้อมตั้งสายด่วน “1194” ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสสื่อลามกอนาจาร รวมทั้งสั่งขึ้บัญชีพื้นที่สีแดง และสีชมพู สถานที่วางจำหน่ายสื่อลามก หนีไม่พ้นห้างพันธุ์ทิพย์ ตะวันนา เซียร์ คลองถม
วันนี้ (25 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ร่วมกับ ผบก.ในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันแถลงข่าวการจัดสัปดาห์รณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาสื่อสิ่งพิมพ์ลามก ระหว่างวันที่ 25–31 ต.ค.นี้ โดยมีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจสันนติบาล (บช.ส.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ
พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ กล่าวถึงโครงกานี้ว่า ตามที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ประชุมมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ลามก โดยให้มีการรณรงค์อย่างจริงจังและต่อเนื่องพร้อมทั้งมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจสันนติบาล (บช.ส.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ โดยในส่วนของ บช.ก.นั้น ได้กำหนดมาตรการดำเนินงานทั้งในส่วนการป้องกันและปราบปราม โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานรณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาสื่อสิ่งพิมพ์ลามก เพื่อให้การปฏิบัติเป้นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผบช.ก.ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการนั้นจะมีการแบ่งงานออกเป็น 3 หน่วยหลัก คือ 1.หน่วยปฏิบัติการ ใช้กำลังหลักจากกองบังคับการปราบปราม (ป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) และกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) ทำหน้าที่ในการดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ลามก แหล่งผลิตสิ่งของลามกทุกประเภท 2.หน่วยสนับสนุน ใช้กำลังจากกองบังคับการกองทะเบียน (บก.ท.) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) และกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ทำหน้าที่ในการสืบสวนหาข่าว จับกุมผู้กระทำผิดและแหล่งผลิตสิ่งของลามกตามพื้นที่ต่างๆ ในความรับผิดชอบ และหน่วยสุดท้ายคือ หน่วยอำนวยการ ใช้กำลังจากกองบังคับการอำนวยการ (บก.อก.) และกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายอำนวยการดำเนินการวางแผน เชื่อมโยงข้อมูล จัดทำสถิติ รายงานผลการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่ง
ผบช.ก.ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้กำชับหน่วยงานในสังกัดเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ลามกในลักษณะที่ชักชวน แนะนำให้มีการติดต่อซื้อขายบริการทางเพศ และแอบแฝงโฆษณาขายสินค้าหรือวัตถุลามกอนาจารอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง แล้วขยายผลและตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวมีการใช้เด็ก เยาวชน และสตรีเป็นเครื่องมือหรือเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจหรือไม่ หากเข้าข่ายให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในทุกบทกฎหมายด้วย
“นอกจากนี้ยังได้ให้กองบังคับการทะเบียน ประสานกับกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบและพิจารณาออกใบอนุญาตการผลิต การจำหน่าย การให้เช่า ซีดี วีซีดี วิดีโอ ภาพยนตร์ หนังสือ และสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ตลอดจนเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต ด้วยความเรียบร้อยของสังคม ส่วนการปราบปรามนั้นให้ดำเนินการ 3 ส่วน คือ แหล่งผลิตเส้นทางลำเลียงและแหล่งจำหน่ายทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทยซึ่งยังมีการกำหนดพื้นที่ในการปราบปรามเป็น พื้นที่สีแดง และพื้นที่สีชมพู ในพื้นที่ที่มีสื่อลามกเผยแพร่อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซา, ห้างตะวันนา, เซียร์ รังสิต และคลองถม เป็นต้น” ผบช.ก.กล่าว
ผบช.ก.ยังกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่มีเบาะแสของการกระทำผิดหรือแหล่งผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ลามก สามารถแจ้งผ่านสายด่วน 1194 หรือตู้ ปณ.1 ปณจ.สามเสนใน กรุงเทพ 10400 หรือผ่านเว็บไซต์ www.csd.go.th โดย บช.ก.จะเริ่มกวาดล้างจับกุมอย่างจริงจัง และจะประสานงานด้านการข่าวและการปราบปรามกับกองบัญชาการตำรวจสันติบาลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การปราบปรามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากเจ้าหน้าที่ที่ละเลยการปฏิบัติจะส่งเรื่องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาลงโทษตามระเบียบต่อไป



วันนี้ (25 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ร่วมกับ ผบก.ในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันแถลงข่าวการจัดสัปดาห์รณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาสื่อสิ่งพิมพ์ลามก ระหว่างวันที่ 25–31 ต.ค.นี้ โดยมีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจสันนติบาล (บช.ส.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ
พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ กล่าวถึงโครงกานี้ว่า ตามที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ประชุมมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ลามก โดยให้มีการรณรงค์อย่างจริงจังและต่อเนื่องพร้อมทั้งมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจสันนติบาล (บช.ส.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ โดยในส่วนของ บช.ก.นั้น ได้กำหนดมาตรการดำเนินงานทั้งในส่วนการป้องกันและปราบปราม โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานรณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาสื่อสิ่งพิมพ์ลามก เพื่อให้การปฏิบัติเป้นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผบช.ก.ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการนั้นจะมีการแบ่งงานออกเป็น 3 หน่วยหลัก คือ 1.หน่วยปฏิบัติการ ใช้กำลังหลักจากกองบังคับการปราบปราม (ป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) และกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) ทำหน้าที่ในการดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ลามก แหล่งผลิตสิ่งของลามกทุกประเภท 2.หน่วยสนับสนุน ใช้กำลังจากกองบังคับการกองทะเบียน (บก.ท.) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) และกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ทำหน้าที่ในการสืบสวนหาข่าว จับกุมผู้กระทำผิดและแหล่งผลิตสิ่งของลามกตามพื้นที่ต่างๆ ในความรับผิดชอบ และหน่วยสุดท้ายคือ หน่วยอำนวยการ ใช้กำลังจากกองบังคับการอำนวยการ (บก.อก.) และกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายอำนวยการดำเนินการวางแผน เชื่อมโยงข้อมูล จัดทำสถิติ รายงานผลการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่ง
ผบช.ก.ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้กำชับหน่วยงานในสังกัดเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ลามกในลักษณะที่ชักชวน แนะนำให้มีการติดต่อซื้อขายบริการทางเพศ และแอบแฝงโฆษณาขายสินค้าหรือวัตถุลามกอนาจารอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง แล้วขยายผลและตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวมีการใช้เด็ก เยาวชน และสตรีเป็นเครื่องมือหรือเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจหรือไม่ หากเข้าข่ายให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในทุกบทกฎหมายด้วย
“นอกจากนี้ยังได้ให้กองบังคับการทะเบียน ประสานกับกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบและพิจารณาออกใบอนุญาตการผลิต การจำหน่าย การให้เช่า ซีดี วีซีดี วิดีโอ ภาพยนตร์ หนังสือ และสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ตลอดจนเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต ด้วยความเรียบร้อยของสังคม ส่วนการปราบปรามนั้นให้ดำเนินการ 3 ส่วน คือ แหล่งผลิตเส้นทางลำเลียงและแหล่งจำหน่ายทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทยซึ่งยังมีการกำหนดพื้นที่ในการปราบปรามเป็น พื้นที่สีแดง และพื้นที่สีชมพู ในพื้นที่ที่มีสื่อลามกเผยแพร่อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซา, ห้างตะวันนา, เซียร์ รังสิต และคลองถม เป็นต้น” ผบช.ก.กล่าว
ผบช.ก.ยังกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่มีเบาะแสของการกระทำผิดหรือแหล่งผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ลามก สามารถแจ้งผ่านสายด่วน 1194 หรือตู้ ปณ.1 ปณจ.สามเสนใน กรุงเทพ 10400 หรือผ่านเว็บไซต์ www.csd.go.th โดย บช.ก.จะเริ่มกวาดล้างจับกุมอย่างจริงจัง และจะประสานงานด้านการข่าวและการปราบปรามกับกองบัญชาการตำรวจสันติบาลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การปราบปรามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากเจ้าหน้าที่ที่ละเลยการปฏิบัติจะส่งเรื่องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาลงโทษตามระเบียบต่อไป