ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี หนุ่มขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ฐานเบิกความเป็นพยานเท็จ กล่าวหา “ภาพ 70 ไร่” ค้ายาบ้าย่านคลองเตย
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายสยาม ทรัพย์วรสิทธิ์ หรือ ภาพ 70 ไร่ อดีตจำเลยคดีค้ายาเสพติดย่านคลองเตย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชำนาญ ระรวยทรง อายุ 35 ปี อาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จ
ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2546 เวลากลางวัน จำเลยได้เข้าเบิกความเป็นพยานฝ่ายโจทก์ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 ได้ยื่นฟ้องโจทก์ฐานสมคบกันกับพวกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อจำหน่ายยาบ้าทำนองว่า “จำเลยทราบว่าโจทก์มีพฤติการณ์ค้ายาบ้าย่านชุมชนคลองเตย ที่กำลังระบาดหนักในปี 38-39 โดยจำเลยเป็นลูกน้องของนายสุชาติ ปานทะโชติ ผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ในชุมชนคลองเตย เท่าที่ทราบมา นายสุชาติ รับยาบ้ามากจากลูกน้องของโจทก์อีกทอดหนึ่ง และโจทก์ก็เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่เช่นเดียวกับนายสุชาติ” ผลจากการเบิกความดังกล่าว ทำให้ศาลอาญาเชื่อว่าโจทก์กระทำผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง กระทั่งวันที่ 9 ก.ย.47 ศาลอาญาพิพากษาให้จำคุกโจทก์ตลอดชีวิต
คดีนี้ จำเลยรับสารภาพว่าทำงานรับส่งยาบ้าให้แก่นายสุชาติจริงเพราะมีค่าตอบแทนให้ตามจำนวนยาบ้าที่จำหน่าย แต่เมื่อเดือนมิถุนายน 43 จำเลย นายสุชาติ และพวก ถูกจับกุมดำเนินคดี พร้อมยาบ้าของกลางจำนวน 10,000 เม็ด ต่อมาศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก 26 ปี จำเลยยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษจนคดีสิ้นสุดแล้วไม่ได้ยื่นฎีกา ซึ่งระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำคลองเปรมนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบหลายครั้ง แจ้งว่านายสุชาติให้มาพบ และขอให้จำเลยช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องการเบิกความเป็นพยานกล่าวหาโจทก์ว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติด แล้วจะช่วยเหลือให้ได้รับการอภัยโทษ จำเลยจึงตกลงยอมเป็นพยานเท็จ กระทั่งวันที่ 18 ธันวาคม 46 จำเลยมาศาลเพื่อเบิกความเท็จปรักปรำโจทก์ แต่หลังจากนั้นจำเลยรู้สึกสับสนในจิตใจและรู้สึกผิด แต่จำเลยก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ต่อมาวันที่ 2 มี.ค.47 จำเลยถูกนำตัวมาเบิกความในคดีอื่นๆ ด้วยความสำนึกผิดเรื่องนี้ จึงยอมเบิกความไปตามจริงว่าโจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยจำเลยสามารถระบุว่าคนที่นายสุชาติให้ไปติดต่อนั้นมีใครบ้าง และไม่มีโจทก์อยู่ในกลุ่มของบุคคลดังกล่าว
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรค 2 ให้จำคุก 4 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี พิจารณารายงานการสืบเสาะและพินิจแล้วไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีภาพ 70 ไร่ นี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 กันยายน 48 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง ภาพ 70 ไร่ เนื่องจากฝ่ายโจทก์มีนายสุชาติเบิกความเป็นประจักษ์พยานเพียงปากเดียว ศาลจึงต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง แต่จากการตรวจสำนวนการจับกุมนายสุชาติ พบว่าคำให้การชั้นสอบสวนกับคำเบิกความในชั้นศาล มีความแตกต่างกันในสาระสำคัญหลายอย่างจึงให้ยกฟ้อง แต่ยังให้ขังภาพ 70 ไร่ ระหว่างฎีกา