หนุ่มใหญ่เจ้าของอู่ซ่อมรถเมืองปากน้ำ เดินเข้าไปตัดผมในร้านขาประจำ แต่ดันแกล้งถามเจ้าของร้านว่าโกนหัวเท่าไหร่ แล้วก็ขึ้นไปนั่งเก้าอี้รอตัดผม แต่เพลียจัดเผลอหลับ สุดท้ายช่างตัดผมเลยโกนให้ซะเตียนโล่งทั้งหัว ตื่นขึ้นมาเลยยัวะจัด แถมดันเจอช่างหัวเราะเยาะเย้ยจนน้ำลายกระเด็นใส่หัวโล้น เลยฉุนขาด! ขึ้นโรงพักแจ้งจับช่าง
เมื่อเวลา 22.30 น.วานนี้ (1 ต.ค.) ที่ สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ นายสุวิทย์ ฉันทวงค์สุวัฒน์ อายุ 49 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถ “ฟูเจริญยนต์” อยู่บ้านเลขที่ 42/45 ม.3 ซ.บุญสิริ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.บันเทิง กรมแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายภาคภูมิ คำแพง อายุ 59 ปี เจ้าของร้านตัดผม “เสน่ห์ 2” ตั้งอยู่เลขที่ 697 ม.3 ซ.บุญสิริ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
โดย นายสุวิทย์ ให้การว่า ตนเองเป็นลูกค้าประจำของร้านตัดของนายภาคภูมิมาเป็นเวลานานกว่า 4 ปีแล้ว ทุกๆ เดือนก็จะมาตัดผมร้านนี้ โดยจะตัดทรงรองหวีทั้งหัวมาตลอด และก่อนเกิดเหตุวันนี้ร้านว่างไม่มีลูกค้า เลยตัดสินในเข้ามาในร้านเพื่อตัดผม แต่เมื่อเข้ามาถึงในร้าน นายภาคภูมิก็เดินเข้ามาทุบหน้าอกจนตนรู้สึกเจ็บ ตนจึงแกล้งถามไปว่าโกนทั้งหัวราคาเท่าไหร่ นายภาคภูมิก็ตอบว่า โกน 100 บาท ตนจึงตอบกลับไปว่างั้นเหมือนเดิม พร้อมกับขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ให้นายภาคภูมิตัดผมเหมือนเช่นเคย
“แต่ผมรู้สึกเพลียจากการทำงานเลยเคลิ้มหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็มองเห็นในกระจกว่าหัวของผมเตียนโล่ง ไม่มีเส้นผมเหลืออยู่แม้แต่เพียงเส้นเดียว เลยถามเขาไปว่าเคยตัดทรงรองหวีแล้วทำไมวันนี้มาโกนหัวให้ผม แต่เขาก็ไม่ยอมตอบ กลับหัวเราะเสียงดังลั่นเหมือนจะเยาะเย้ยผม จนน้ำลายเขากระเด็นมาโดนหัวผมเข้าอีก ทำให้รู้สึกโกรธมาก เลยตัดสินใจมาแจ้งความ” นายสุวิทย์ กล่าวอย่างหัวเสีย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวนายภาคภูมิมาทำการสอบปากคำ โดยนายภาคภูมิให้การว่า ตนยึดอาชีพเป็นช่างตัดผมมากว่า 30 ปี ก่อนเกิดเหตุก็เห็นนายสุวิทย์ลูกค้าประจำของร้านเดินเข้ามา จึงเข้าไปตบที่หน้าอกเป็นการทักทายตามปกติ หลังจากนั้นนายสุวิทย์ก็ถามตนว่าโกนหัวราคาเท่าไหร่ ตนจึงแกล้งตอบไปเล่นๆ า 100 บาท เพราะคิดว่านายสุวิทย์เป็นลูกค้าประจำมาหลายปี ยังไงก็น่าจะรู้ราคาอยู่แล้ว
“ตอนแรกผมคิดว่าเขาคงแกล้งถาม แต่เห็นเขานั่งลงที่เก้าอี้จึงคิดว่าเขาคงอยากเปลี่ยนทรงจริงๆ ผมก็เลยโกนหัวให้ตามจุดประสงค์ แต่พอโกนเสร็จแล้วเขากลับบอกผมว่าไม่ได้ให้ตัดทรงนี้ ผมก็เลยรู้สึกขำที่ตัวเองตัดผมผิดทรงให้กับลูกค้า แล้วก็เห็นเขาบอกว่าจะมาแจ้งความ ผมยังนึกว่าเขาพูดเล่นอยู่เลย ไม่คิดว่าจะมาแจ้งจริงๆ” นายภาคภูมิ กล่าว
หลังจากสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับนายภาคภูมิช่างตัดผม เป็นจำนวนเงิน 100 บาท ในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า ส่วนในเรื่องค่าเสียหายของการตัดผมผิดทรงนั้นเป็นคดีแพ่ง จึงไกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่ตกลงในเรื่องค่าเสียหายกันเอง