xs
xsm
sm
md
lg

ความจริงใน “ตันหยงลิมอ” วันฆ่าโหด 2 ทหาร

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เหตุการณ์อันป่าเถื่อนที่ได้เกิดขึ้นในบ้าน “ตันหยงลิมอ” อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 20 ต่อเนื่องถึงวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา รวมเวลากว่า 19 ชั่วโมง ที่ชาวบ้านจับกุม “ร.ต.วินัย นาคะบุตร” และ “จ.อ.คำธร ทองเอียด” สังกัดกองพันทหารราบที่ 9 กรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ เป็นตัวประกันและถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด

โดยวันนั้น “นายนัจมุดดีน อูมา” อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย คือผู้ที่เข้าไปมีบทบาทในการช่วยเจรจาหวังช่วยชีวิตทหาร และเครียร์ความรู้สึกของชาวบ้านที่ต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ โดยที่หลายคนลืมนึกไปว่า “นัจมุดดีน” คือ 1 ในจำเลยคดีปล้นอาวุธปืนค่ายทหาร

เหตุการร้ายผ่านไป การติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆ่าโหด 2 นาวิกโยธิน ยังสับสน การออกหมายจับ การจับกุมตัว ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าใครคือมือฆ่าโหดตัวจริง และจับกุมถูกตัวหรือผิดตัว

หลังเกิดเหตุ 21 ก.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดว่า “คนพวกนี้ก็ยังใช้ความโหดเหี้ยมทารุณในลักษณะเหมือนกับไม่ใช่มนุษย์ ทั้งๆ ที่คนเหล่านั้น(ทหาร) ก็ไม่ได้ต่อสู้อะไร และทำร้ายแบบนี้เราจะไม่ยอมให้ 2 คนนี้ตายฟรีแน่นอน กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ผมสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมาย จะต้องจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด”

วันที่ 23 ก.ย.พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์หลังแถลงตรวจพิสูจน์ศพ 2 นายหทาร โดยเรียกร้องให้อดีตนักการเมือง และผู้นำชุมชนที่พยายามเข้าไปเจรจาต่อรองกับชาวบ้าน ออกมาร่วมรับผิดชอบ เนื่องจากเชื่อว่าจะเป็นผู้ที่จะสามารถบอกเบาะแสได้ชัดเจนถึงการทรมานและสังหารนาวิกโยธินทั้ง 2 นายได้

ต้องชี้ให้ชัดว่ากรณีมีอดีตนักการเมือง และผู้นำชุมชนที่พยายามเข้าไปเจรจาต่อรอง ผู้นั้นแหละที่จะบอกเบาะแสได้ชัดเจน ต้องออกมารับผิดชอบ กรณีนี้ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐตายอย่างทารุณจึงไม่ถูกต้อง แต่สังคมเข้าใจผิดว่ามีการกดขี่ข่มเหง ซึ่งกรณีนี้ชัดเจนว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังในการสร้างสถานการณ์แน่นอน

มาวันนี้ วันที่ 27 ก.ย.พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พูดถึงเหตุการณ์ฆ่าโหด 2 ทหารในบ้านตันหยงลิมอ ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเกี่ยวโยงกับกลุ่มของนายสะแปอิง บาซอ แกนนำกบฏแบ่งแยกดินแดนที่หลบหนีหมายจับ และก่อนเกิดเหตุกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งเตือนว่ามีผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวเข้าไปแฝงตัวในหมู่บ้านตันหยงลิมอ ขอให้ระวังเหตุ เนื่องจากพบว่ามีผู้ต้องหา 1 รายที่หลบหนีหมายจับซึ่งคนในพื้นที่เรียกกันว่า “โต๊ะแช” ได้เข้ามาในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ

**อีกทั้งยังมีผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีปล้นอาวุธปืนที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รวม 6 ราย เป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.ตันหยงลิมอ**

ประเด็น 6 ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีปล้นปืน เป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.ตันหยงลิมอ ...ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และเกี่ยวพันเกี่ยวโยงกับ “นัจมุดดีน อูมา” อดีตนักการเมืองผู้มีบทบาทเจรจาต่อรอง จนได้รับยกย่องเชิญร่วมโต๊ะนั่งแถลงข่าวอย่างออกนอกหน้า กับแม่ทัพภาคที่ 4 ในวันเกิดเหตุ...

“นัจมุดดีน อูมา” วันนี้ เขาทำอะไร เขาบริสุทธิ์ หรือ เขาถูกกล่าวหาโดยไร้หลักฐาน ... แต่วันนี้ “นัจมุดดีน อูมา” เขาคือ 1 ในจำเลย ตามคดีหมายเลขดำที่ 2038/2547 (ปล้นปืนค่ายทหาร)

วันที่ 15 ก.ค.47 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนัจมุดดีน อูมา อายุ 43 ปี ส.ส.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย ในขณะนั้น และนายอารีฟ หรือ ฮารีฟ โซ๊ะโก ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานแบ่งแยกดินแดน สะสมกำลังพล และอาวุธ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ สมคบกันเป็นซ่องโจร รวม 12 ข้อกล่าวหา ระวางโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต และสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 400 กระบอก ซึ่งถูกปล้นไปจากค่ายกองพันทหารพัฒนาที่ 4 จ.นราธิวาส เป็นจำนวนกว่า 7 ล้านบาท คืนให้กับกองทัพบก

โดยคดีเดียวกัน อัยการได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหาที่ 1, นายอัมเยาะ หรือฮามีเยาะ สะอุ ผู้ต้องหาที่ 12, นายนอรอดึง หรือมะรูดึง บินบือราเฮง ผู้ต้องหาที่ 14, นายแบมะ ไม่ทราบนามสกุล ผู้ต้องหาที่ 17, นายสมาน หรืออุสมาน วอฮะ ผู้ต้องหาที่ 18 ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 26 คน อัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยเหตุผลว่าเพราะพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง และผู้ต้องหาบางคนให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงกันไว้เป็นพยาน

คดีนี้ ศาลได้แถลงเปิดคดี และสืบพยานโจทก์ปากแรกเป็นกรณีเร่งด่วนไว้ก่อน 1 ปาก เมื่อวันที่ 30 ก.ค.47 โดยจำเลยได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทางอัยการโจทก์แถลงต่อศาลขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 152 ปาก ทางทนายฝ่ายจำเลยขอนำพยานเข้าสืบรวม 70 ปาก

ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ ส่วน “นัจมุดดีน” จำเลย ปัจจุบันไม่ได้เป็น ส.ส.และต้องใช้เวลากับการเดินขึ้นบันไดศาลพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ....

ขณะที่ 6 ผู้ต้องหาคดีปล้นอาวุธปืน ที่มีภูมิลำเนาในตันหยงลิมอ และแกนนำคนสำคัญตามหมายจับจะอยู่ในหมู่บ้านขณะเกิดเหตุจริงตามข้อมูลของ (ดีเอสไอ) หรือไม่ และวันเจรจาต่อรอง “นัจมุดดีน อูมา” อาสาผู้สร้างภาพรักชาติ รักแผ่นดิน จะรับรู้ หรือรู้เห็นหรือไม่ มีเฉพาะ “นัดมุจดีน อูมา” เพียงหนึ่งเดียวที่จะตอบความจริงกับประชาชนคนในชาติ...ว่า มันเกิดอะไรขึ้นที่ “บ้านตันหยงลิมอ”





กำลังโหลดความคิดเห็น