xs
xsm
sm
md
lg

สลด!พ่อจับลูก 2 ขวบโยนจากชั้น 7 แล้วโดดฆ่าตัวตายตามกลาง ม.ศรีปทุม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

หนุ่มเกาะกูด จับหนูน้อยวัย 2 ขวบ โยนจากตึกชั้น 7 แล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตายตาม ภายในมหาวิทยาลัยศรีปทุม ตำรวจอยู่ระหว่างตามญาติมาให้ปากคำถึงสาเหตุ

วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สุพัฒน์ ลิ้มอิ่ม สารวัตรเวร สน.บางเขน รับแจ้งเหตุพบศพพลัดตกจากที่สูง 2 ศพ ภายในมหาวิทยาลัยศรีปทุม ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 12 ชั้น ชื่ออาคาร ดร.สุข พุคยาภรณ์ หน้าอาคารตำรวจพบศพ นายจารึก สุขยืด อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ 3 ต.เกาะกูด กิ่ง อ.เกาะกูด จ.ตราด สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดโปโลสีขาว กางเกงขายาวสีเทา สวมรองเท้าแตะ ใบหน้ายุบ แขนขาหัก ใกล้กันพบศพ ด.ช.รุ่งรุจ สุขยืด หรือน้องปลื้ม อายุ 1 ปี 9 เดือน สวมเสื้อยืดสีส้มลายการ์ตูน กางเกงขาสั้นสีแดงลายการ์ตูน นอนตะแคงขวา แขนและขาหัก

เบื้องต้น สอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยที่เข้าเวรใกล้ที่เกิดเหตุให้การว่า เห็นร่างเด็กร่วงลงมาก่อน จากนั้นมองขึ้นไปข้างบนก็เห็นนายจารึกยืนอยู่บนชั้น 7 แล้วกระโดดตามลงมาจนเสียชีวิต ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายจับเด็กซึ่งคาดว่าเป็นลูกชายโยนลงมาจากชั้น 7 ก่อนที่จะกระโดดตามลงมาเพื่อฆ่าตัวตายดังกล่าว ส่วนสาเหตุตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน

ด้านแม่บ้าน ซึ่งประจำอยู่ที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นห้องสมุดของบัณฑิตวิทยาลัย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นผู้ตาย เดินอุ้มเด็กไปมา พร้อมกับโทรศัพท์อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งมาทราบอีกครั้งว่า ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรพลิกศพอยู่นั้น โทรศัพท์ของผู้ตายดังขึ้น ตำรวจจึงรับสายและทราบว่าเป็นญาติของผู้ตายเป็นผู้โทรศัพท์เข้ามา

ต่อมา น.ส.ธัญพร พุทธสุวรรณ อายุ 23 ปี ภรรยานายจารึก แม่น้องปลื้ม เดินทางมายังสน.บางเขน พบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำ พร้อมญาติๆ ซึ่งหลังจากให้ปากคำเสร็จ น.ส.ธัญพรเดินทางไปดูศพน้องปลื้มพร้อมกับญาติพี่น้อง และเมื่อเห็นศพน้องปลื้ม ต่างร่ำไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ

น.ส.ธัญพรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ อยู่กินฉันท์สามีภรรยากับนายจารึก ที่เกาะกูด โดยเปิดร้านขายของชำเป็นอาชีพ แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยไปเที่ยว จึงได้ย้ายครอบครัวไปอยู่เพชรบูรณ์ โดยสามีไปสมัครเป็นเซลขายรถ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จอีก สุดท้ายเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ได้ย้ายครอบครัวมาอยู่กับนางเรณู หุงสันเที๊ยะ อายุ 40 ปี ผู้เป็นอาตนที่กรุงเทพฯ จากนั้นสามีได้แยกตัวออกไปประมาณเดือนเศษ เนื่องจากไม่อยากอยู่รวมกับครอบครัวตน โดยอ้างว่าจะไปอยู่กับเพื่อน ต่อมา ได้แจ้งให้ทราบว่า ไปได้งานในโรงงานน้ำหอม ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งล่าสุด ตนเปิดกระเป๋าสตางค์ พบเอกสารที่สามีนำรถจักรยานยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ สามีได้ไปสมัครสอบเป็นปลัดอบต.ที่จ.ปัตตานี ซึ่งทางราชการได้เรียกสัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอการเรียกตัว

น.ส.ธัญพรกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจารึกมาหาลูก ซึ่งสามีจะเดินทางมาเยี่ยมลุกเป็นประจำ จากนั้นได้บอกให้ลุกมาขอสตางค์ตน เพื่อจะพาไปซื้อขนม และได้พาลูกหายออกจากบ้านไป จนกระทั่งนายจารึกได้โทรศัพท์เข้ามาหาและบอกว่าจะฆ่าตัวตาย จึงได้พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมเพื่อให้สามีผ่อนคลายลง จนกระทั่งมาทราบอีกครั้งว่า ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายพร้อมลูกแล้ว

“สาเหตุ เชื่อว่าเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า จะเอาลูกไปอยู่ด้วยให้ได้ ซึ่งดิฉันบอกไปว่า จะพาไปอยู่ด้วยทำไม เพราะอยู่ที่นี่ มีแม่คอยเลี้ยงดูให้อยู่ สามีเคยเป็นศิษบ์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ปกติเป็นคนขี้น้อยใจ และเอาแต่ใจเสมอ” น.ส.ธัญพรกล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น