ตำรวจ ปดส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข บุกทลายคลินิกศัลยกรรมเถื่อน ฉีดน้ำมันละหุ่งเสริมคาง แก้ม ก้น และหน้าอกให้ลูกค้า แต่กลับเสียโฉม เลยแจ้งกระทรวงสาธารณสุขประสานตำรวจบุกเข้าจับ ส่วนเจ้าของรับสารภาพเป็นอดีตผู้ช่วยพยาบาลลาออกมาตั้งตัวเป็นหมอประกอบอาชีพดังกล่าว
วันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 14.30 น. พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.ท.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผกก.1 บก.ปดส. พร้อม น.พ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมสนับสนุนและบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ ค 317/2548 ลงวันที่ 29 ก.ค. เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 2 ซอยลาดพร้าว 114 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าที่บ้านหลังดังกล่าวลักลอบเปิดเป็นคลินิกเถื่อน ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ โดยมีลูกค้าไปใช้บริการและเกิดผลกระทบต่อร่างกายทำให้เสียโฉมหลายราย
สถานที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ที่หน้าบ้านพบรถเบนซ์ สีบรอนซ์ทอง อี 220 ทะเบียน ฐฐ-365 กทม. และรถโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วค-4143 กทม. จอดอยู่ เมื่อตำรวจเข้าไปภายในบ้านพบว่ามีทั้งหญิงสาวชาวไทย และชาวต่างชาติแถบเอเชียนั่งรอทำศัลยกรรมอยู่ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างกรูกันเดินหลบออกจากบ้านหลังดังกล่าวไป
ภายในบ้านตำรวจพบ นางกาญจนา สุนิพนธ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ถนนพญาลิไท ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก รับเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่ชั้นล่างบริเวณเคาน์เตอร์ พบใบประกอบวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์ของ น.ส.จริยา สวัสดิ์วงศ์ชัย ซึ่งนางกาญจนาอ้างว่าเป็นบุตรสาว ถัดจากเคาน์เตอร์พบห้องแบ่งซอยใช้สำหรับใช้ทำศัลยกรรม มีเตียง 2 เตียง และพบเข็มฉีดยาที่ใช้แล้ว และยังไม่ได้ใช้ รวมทั้งสารที่ใช้ฉีดให้ลูกค้า ส่วนชั้นบน ถูกแบ่งเป็นห้องซอย สำหรับให้ลูกค้านอนพัก เนื่องจากบางคนที่ถูกฉีดสารดังกล่าวเข้าไปมากจะทำให้เกิดอาการเบลอได้
เบื้องต้นนางกาญจนารับสารภาพว่า เปิดสถานบริการรับเสริมความงามให้กับลูกค้ามาเป็นเวลาถึง 5 ปี โดยเป็นอดีตผู้ช่วยพยาบาลมาก่อน แต่ลาออกมาทำอาชีพดังกล่าว ส่วนใบประกอบวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์ของบุตรสาวนั้นนำมาเพียงตั้งโชว์เพื่อความน่าเชื่อถือ ไม่เกี่ยวข้องกับบุตรสาวแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากประชาชนและผู้เสียหาย แจ้งไปยังกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวลักลอบเปิดให้บริการเป็นคลินิกศัลยกรรมเถื่อน โดยใช้ชื่อว่า “หมอกาญจนา” ตำรวจจึงใช้สายสืบหญิงเข้าไปทำทีติดต่อใช้บริการ โดยแจ้งความประสงค์จนทราบว่า หากทำศัลยกรรมที่คาง นางกาญจนาจะคิดเงิน 2,000 บาท ฉีดแก้ม 2 ข้าง 3,000 บาท ฉีดทั้งหน้า 7,000 บาท ฉีดเสริมสะโพก 15,000 บาท ซึ่งผู้มาใช้บริการบางคนถึงกับหน้าอกเน่า สะโพกเน่า และเมื่อสายสืบหญิงตกลงราคาแล้วจึงส่งสัญญาณออกมาให้ชุดที่นำกำลังไปซุ่มอยู่เข้าจับกุมดังกล่าว
ขณะที่ น.พ.เรวัต กล่าวว่า เบื้องต้นต้องแจ้งข้อหานางกาญจนา 2 ข้อหา ประกอบด้วย ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนของกลางที่ยึดได้มีทั้งเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้ พร้อมสารที่ฉีดเข้าร่างกายลูกค้า ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นน้ำมันละหุ่งนั้นจะได้ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจวิเคราะห์ต่อไป
ส่วน นางกาญจนา ผู้ต้องหา ตำรวจคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุดำเนินคดีต่อไป



วันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 14.30 น. พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.ท.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผกก.1 บก.ปดส. พร้อม น.พ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมสนับสนุนและบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ ค 317/2548 ลงวันที่ 29 ก.ค. เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 2 ซอยลาดพร้าว 114 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าที่บ้านหลังดังกล่าวลักลอบเปิดเป็นคลินิกเถื่อน ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ โดยมีลูกค้าไปใช้บริการและเกิดผลกระทบต่อร่างกายทำให้เสียโฉมหลายราย
สถานที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ที่หน้าบ้านพบรถเบนซ์ สีบรอนซ์ทอง อี 220 ทะเบียน ฐฐ-365 กทม. และรถโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วค-4143 กทม. จอดอยู่ เมื่อตำรวจเข้าไปภายในบ้านพบว่ามีทั้งหญิงสาวชาวไทย และชาวต่างชาติแถบเอเชียนั่งรอทำศัลยกรรมอยู่ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างกรูกันเดินหลบออกจากบ้านหลังดังกล่าวไป
ภายในบ้านตำรวจพบ นางกาญจนา สุนิพนธ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ถนนพญาลิไท ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก รับเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่ชั้นล่างบริเวณเคาน์เตอร์ พบใบประกอบวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์ของ น.ส.จริยา สวัสดิ์วงศ์ชัย ซึ่งนางกาญจนาอ้างว่าเป็นบุตรสาว ถัดจากเคาน์เตอร์พบห้องแบ่งซอยใช้สำหรับใช้ทำศัลยกรรม มีเตียง 2 เตียง และพบเข็มฉีดยาที่ใช้แล้ว และยังไม่ได้ใช้ รวมทั้งสารที่ใช้ฉีดให้ลูกค้า ส่วนชั้นบน ถูกแบ่งเป็นห้องซอย สำหรับให้ลูกค้านอนพัก เนื่องจากบางคนที่ถูกฉีดสารดังกล่าวเข้าไปมากจะทำให้เกิดอาการเบลอได้
เบื้องต้นนางกาญจนารับสารภาพว่า เปิดสถานบริการรับเสริมความงามให้กับลูกค้ามาเป็นเวลาถึง 5 ปี โดยเป็นอดีตผู้ช่วยพยาบาลมาก่อน แต่ลาออกมาทำอาชีพดังกล่าว ส่วนใบประกอบวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์ของบุตรสาวนั้นนำมาเพียงตั้งโชว์เพื่อความน่าเชื่อถือ ไม่เกี่ยวข้องกับบุตรสาวแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากประชาชนและผู้เสียหาย แจ้งไปยังกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวลักลอบเปิดให้บริการเป็นคลินิกศัลยกรรมเถื่อน โดยใช้ชื่อว่า “หมอกาญจนา” ตำรวจจึงใช้สายสืบหญิงเข้าไปทำทีติดต่อใช้บริการ โดยแจ้งความประสงค์จนทราบว่า หากทำศัลยกรรมที่คาง นางกาญจนาจะคิดเงิน 2,000 บาท ฉีดแก้ม 2 ข้าง 3,000 บาท ฉีดทั้งหน้า 7,000 บาท ฉีดเสริมสะโพก 15,000 บาท ซึ่งผู้มาใช้บริการบางคนถึงกับหน้าอกเน่า สะโพกเน่า และเมื่อสายสืบหญิงตกลงราคาแล้วจึงส่งสัญญาณออกมาให้ชุดที่นำกำลังไปซุ่มอยู่เข้าจับกุมดังกล่าว
ขณะที่ น.พ.เรวัต กล่าวว่า เบื้องต้นต้องแจ้งข้อหานางกาญจนา 2 ข้อหา ประกอบด้วย ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนของกลางที่ยึดได้มีทั้งเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้ พร้อมสารที่ฉีดเข้าร่างกายลูกค้า ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นน้ำมันละหุ่งนั้นจะได้ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจวิเคราะห์ต่อไป
ส่วน นางกาญจนา ผู้ต้องหา ตำรวจคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุดำเนินคดีต่อไป