xs
xsm
sm
md
lg

พลิกตำนานเล่าขาน “อาถรรพณ์ สน.บางเขน กับศาลเจ้าพ่อไทร”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


หมายเหตุ-หลังจากเกิดเหตุการณ์โจรยิง 2 สายตรวจ สน.บางเขนจนเสียชีวิตในคืนที่ผ่านมา ทีมข่าวอาชญากรรม ซึ่งเคยนำเสนอบทความนี้ไปแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ จึงนำกลับมาเสนออีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายยิง ด.ต.วัชระ สตารัตน์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.บางเขน เสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้"ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" เข้าเกาะติดการคลี่คลายคดีนี้อย่างใกล้ชิด เพราะคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เหมือนเป็นการ "ตบหน้า" เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างจัง

จากเหตุนี้เองทำให้"ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" ได้รับการบอกเล่าจากชาวบ้านในพื้นที่ ถึงเรื่องราวอาถรรพ์ ที่มักจะเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางเขนถึง "อาถรรพ์แห่งเจ้าพ่อต้นไทร" ที่ตั้งอยู่ด้านหลังโรงพัก ความเชื่อของตำรวจประจำสน. และชาวบ้านในพื้นที่ ที่รับรู้ "ความเฮี้ยน" ของเจ้าพ่อต้นไทร โดยเฉพาะเมื่อช่วง 10 ปีก่อน ที่มีตำรวจบางเขน เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง เสมือนเป็น"เครื่องเซ่น สังเวย" ให้กับเจ้าพ่อต้นไทร "ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" จึงอยากนำเสนอมุมมองที่แตกต่าง ด้วยการนำความเชื่อของคนในพื้นที่ มาบอกเล่าให้รับรู้ นอกเหนือไปจาก การจากไปอย่างกล้าหาญของด.ต.วัชระ ที่ต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือโจรสวะ 3 คน

ด.ต.วิกรม ตังศุภศิริ ผบ.หมู่สน.บางเขน เจ้าหน้าที่งานธุรการ ฝ่ายเปรียบเทียบปรับ อายุ 52 ปี คือแหล่งข่าวที่ "ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" เสาะหาจนพบ เนื่องจากทราบข้อมูลว่านายดาบคนดังกล่าว รับราชการตำรวจที่สน.บางเขนมาตั้งแต่ช่วงปีพ.ศ.2511 นับรวมอายุราชการที่อยู่สน.บางเขนแล้ว มากกว่า 30 ปี จึงน่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอาถรรพ์ อันเป็นที่ร่ำลือในหมู่ตำรวจ และชาวบ้านในพื้นที่สน.บางเขน

ด.ต.วิกรมได้ทบทวนความจำ และเล่าประวัติความเป็นมาของ "ศาลเจ้าพ่อทองคำ" ให้ "ทีมข่าวอาชญากรรมผู้จัดการออนไลน์" ฟังว่า ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อตั้งโรงพักบางเขน มีต้นกระทุ่มตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังโรงพักซึ่งเป็นพื้นที่โล่งว่าง จากนั้นได้มีการก่อสร้างศาลขึ้น ตำรวจและชาวบ้านในละแวกนั้น จึงเรียกชื่อศาลว่า "ศาลเจ้าพ่อต้นกระทุ่ม" ต่อมาได้มีต้นไทรขึ้นโอบล้อมต้นกระทุ่มที่อยู่ข้างศาลกระทั่งต้นกระทุ่มตายลงไป

ด.ต.วิกรม ท้าวความให้ฟังอีกว่า ในช่วงที่ พ.ต.ต.บุญเลิศ มณีกาญจณ์ มาดำรงตำแหน่งเป็น สว.จร.ที่สน.บางเขน ได้ทำการบูรณะศาลขึ้นมาใหม่ เนื่องจากมีสภาพทรุดโทรม มีการเชิญคนเข้าทรงมาทำพิธีตามความเชื่อ และตั้งศาลใหม่ขึ้นมาบริเวณต้นไทรหลังสน. พร้อมกับใช้ชื่อว่า "ศาลเจ้าพ่อทองคำ" ซึ่งเป็นที่นับถือของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางเขนทุกนาย รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีความเชื่อ เดินทางมาเคารพสักการะ

นายดาบตำรวจผู้นี้ บอกกับเราอีกว่า ในส่วนของความเชื่อที่ว่า "เจ้าพ่อต้นไทร" นำชีวิตของตำรวจสน.บางเขนไปรับใช้ในทุกๆ ปีนั้น โดยส่วนตัวแล้วก็มีความเชื่อบ้าง เพราะก่อนหน้าเมื่อช่วงราว 10 ปีก่อน มีเหตุให้เจ้าหน้าที่สน.บางเขน ต้องมีอันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นเพียงความเชื่อที่มีการเล่าต่อกันมาเท่านั้น ซึ่งทางสน.ได้มีการทำบุญให้กับ "ศาลเจ้าพ่อทองคำ" ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี

"ตำรวจทุกนายที่อยู่สน.บางเขน จะร่วมกันทำบุญให้กับศาลเจ้าพ่อทองคำในช่วงวันสงกรานต์ มีการถวายหัวหมู อาหาร และเชิญร่างทรงมาทำพิธี เพื่อแสดงความเคารพ สักการะต่อเจ้าพ่อ" ด.ต.วิกรม กล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.สันติ แสงเพ็ญจันทร์ ผกก.สน.บางเขน (ในขณะนั้น) บอกว่า ได้รับรู้ถึงเรื่องเล่าขาน และอาถรรพ์ของ "ศาลเจ้าพ่อทองคำ"เป็นอย่างดี จึงให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำบุญเป็นประจำทุกปี โดยผู้กำกับสันติบอกกับ "ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" ทิ้งท้ายว่า เชื่อไม่เชื่อก็ต้องเคารพ ไม่เคยลบหลู่

ด.ต.บัญชา ประสงค์ อายุ 50 ปี ผบ.หมู่ จร. เล่าให้ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ฟังว่า เกิดและอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด อีกทั้งก็รับราชการตำรวจมาตั้งแต่ พ.ศ.2520 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ประจำอยู่ที่ สน.บางเขนมาตลอด แต่ย้ายมาเมื่อ พ.ศ. 2536 และก็อาศัยอยู่ที่นี่ไม่เคยย้ายไปที่ไหน เพราะบิดาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจนกระทั่งเกษียณอายุราชการอยู่ที่นี่

ด.ต.บัญชา ย้อนอดีตให้ฟังว่า เดิมทีศาลเจ้าพ่อนั้นเป็นเพียงศาลเล็ก ๆ มีต้นกระทุ่มขึ้นอยู่ข้างศาล ต่อมามีต้นไทรขึ้นมาทับจนต้นกระทุ่มตายลง และศาลก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาเพราะขาดคนดูแล ชาวบ้านรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันบูรณะใหม่ โดยช่วยกันออกค่าใช้จ่ายในการบูรณะ เพราะทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและบุคคลที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ต่างก็เคารพนับถือศาลเจ้าพ่อทั้งนั้น

สำหรับศาลเจ้าพ่อทองคำนั้น ตนก็ให้ความเคารพนับถือ โดยมักเรียกติดปากว่า “ศาลพ่อปู่” ทุกครั้งที่ออกจากบ้านจะต้องไหว้สักการะศาลเจ้าพ่ออยู่เสมอมิเคยขาด และมักจะขอให้พ่อปู่ ช่วยคุ้มครองดูแลเสมอทุกครั้ง

ด.ต.บัญชา เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เชื่อว่า ศาลพ่อปู่คอยคุ้มครองคือ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2548 ขณะที่กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้าตามปกติ ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงจนต้องนอนพักรักษาตัวนานกว่า 2 เดือน

“วันนั้นเป็นช่วงเช้า หลังจากปล่อยแถวจราจร ผมซึ่งต้องเข้าเวรป้อมจราจรที่แยกมัยลาภ ได้ขับรถยนต์กระบะ ไมตี้เอ็กซ์ ส่วนตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่กำลังเลี้ยวรถเพื่อเข้าจอด จังหวะนั้นเองได้มีรถบรรทุก 6 ล้อ วิ่งฝ่าไฟแดงเข้ามาชนกลางลำ จนผมสลบ ไปรู้สึกตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาล”

ด.ต.บัญชา ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ผลจากการถูกชนนั้นทำให้หางคิ้วซ้ายแตก หมอต้องผ่าตัดเพื่อดามเหล็ก และเย็บถึง30 เข็ม และยังได้รับบาดเจ็บตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอีกหลายแห่ง แต่เมื่อดูจากสภาพรถที่พังยับทั้งคันจนไม่สามารถซ่อมได้ ทำให้เชื่อว่าเป็นบารมีของ พ่อปู่ ที่ตนกราบไหว้และให้ช่วยคุ้มครองอยู่เสมอ จึงรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาได้ราวปาฏิหาริย์

ส่วนที่มีคำร่ำลือถึงอาถรรพ์ ศาลเจ้าพ่อทองคำนั้น ด.ต.บัญชา ได้กล่าวว่า ตั้งแต่ตนอาศัยอยู่ที่นี่มาจนบัดนี้ก็อยู่ในช่วงปลายของการรับราชการ ไม่เชื่อว่าการที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเสียชีวิตนั้นจะเป็นเพราะอาถรรพ์ของเจ้าพ่อ เนื่องจากเจ้าพ่อจะคอยคุ้มครองตำรวจของ สน.บางเขน และทุกคนที่นี่ให้ความเคารพนับถือเจ้าพ่อทุกคน จึงไมน่าจะมีความเป็นไป

“ผมคิดว่าการที่มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต คงเป็นเรื่องของเวรกรรมมากว่า ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นผมคิดว่าน่าจะเป็นข่าวลือ ที่เกิดจากปากต่อปาก จนทำให้คิดว่าเมื่อมีตำรวจตาย จึงเป็นการเซ่นสังเวยแก่เจ้าพ่อ ทั้งที่เจ้าพ่อคอยคุ้มครองแล้ว เจ้าพ่อจะเอาชีวิตตำรวจทำไม” ด.ต.บัญชา ตั้งข้อสังเกต

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงมุมมองหนึ่งของตำรวจสน.บางเขน ความเชื่อ หรืออาถรรพ์ที่ว่า จะเป็นจริงตามคำล่ำลือหรือไม่ ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เกิดจากการกระทำของตัวบุคคลนั้นๆมมากกว่า หากระมัดระวัง หรือดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ก็ย่อมที่จะช่วยผ่อนคลายทุกอย่างได้ดี เพียงแต่อาชีพ ตำรวจ ทหาร และแม้กระทั่งคนร้าย ย่อมมีชีวิตที่ค่อนข้างเสี่ยงกว่าบุคคลปกติทั่วไปเท่านั้นเอง

สถานีตำรวจนครบาลบางเขน
กำลังโหลดความคิดเห็น