หากเอ่ยชื่อ "นายสุรชัย เงินทองฟู หรือ บังรอน" อาชญากรค้ายานรกรายใหญ่....ถือว่า คงไม่มีใครไม่รู้จัก วายร้ายคนสำคัญ ที่รัฐบาล สั่งล่าตัว มาตลอดทุกฤดูกาลประกาศสงครามยาเสพติด
"บังรอน"ทำไหมยังหลุดรอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่มาจนถึงทุกวันนี้ "บังรอน"มีนักการเมืองระดับประเทศให้การช่วยเหลือหรือไม่ และทำไมผู้ต้องหา ร่วมขบวนการยาบ้าที่เจ้าหน้าที่รัฐจับกุมได้ในช่วงที่ผ่านมา ยังคงมีชื่อของ"บังรอน"เป็นต้นตอของเครือข่าย
ห้วงเวลาการทำสงครามยาเสพติด ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถือได้มีคำสั่งล่าตัว"บังรอน"มาแล้ว หลายต่อ หลายครั้ง และเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ดำเนินการมาเป็นเวลานาน หลายปี แต่ยังจับกุมตัวไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ความเคลื่อนไหว และเส้นทางหลบหนี.....
สำหรับ "บังรอน" ได้มีข่าวความเคลื่อนไหว ให้เกิดขึ้นอยู่เรื่อยมา เริ่มจาก
"หลบหนีอยู่ตามแนวชายแดนไทย-ลาวและไทย-พม่า สลับกัน โดยก่อนหน้านี้ "บังรอน" หลบหนีเข้าประเทศลาว ซึ่งรัฐบาลไทยได้ประสานไปยังรัฐบาลลาวเพื่อขอให้ช่วยส่งตัวอาชญากร รายนี้มาลงโทษ แต่ทราบว่า "บังรอน" หลบหนีกลับไปพม่าอีกครั้ง โดยอาศัยอยู่กับ “เว่ย เซียะ อิง” น้องชายของ "เว่ย เซียะ กัง" ราชายาเสพติดชาวว้าแดง ที่ประเทศสหรัฐฯ กำลังต้องการตัวไปลงโทษ"
"พบ บังรอน หลบหนีไปซบอิทธิพลของ นายเหว่ยเซียะอิง น้องชายของ เหว่ยเซียะกัง ที่เปิดสัมปทานการค้าไม้ในพม่าและลาวเป็นธุรกิจบังหน้า แต่เบื้องหลังลำเลียงยาเสพติดส่งเข้ามาขายในไทย โดย นายเหว่ยเซียะยิ๋น ใช้ นายสุรชัย เป็นสมุนมือขวาทำให้การผลิตและการค้ายาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การติดต่อซื้อขายยาเสพติดผ่านพม่าและลาวจึงดูง่ายและสะดวกเพราะผลประโยชน์ที่แลกเปลี่ยนให้เจ้าหน้าที่บางหน่วยงานตามชายแดนพม่าและลาวทำให้การยาเสพติดจำนวนมากทะลักจากแหล่งผลิตข้ามเข้ามาในเขตไทยทางด้าน อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.เทิง อ.เวียงแก่นจ.เชียงราย ยาวทะลุออกไปจนถึงหลายจังหวัดทางภาคอีสานที่มีชายแดนติดแม่น้ำโขงทุกจุด"
"ขณะที่แหล่งข่าวชุดปฏิบัติการตำรวจปราบปรามยาเสพติดพบว่าปัจจุบัน นายเหว่ยเซียะยิ๋น มีอิทธิพลดูเขตการปกครองทางด้านทิศตะวันตกของรัฐฉานเริ่มตั้งแต่บ้านแม่อ้อดอยกองมู เมืองจ๊อด เมืองตูม เมืองสาด ยาวมาจนถึงเมืองยอน และประชิดโครงการหย่องข่าตรงข้ามชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีนายทหารระดับยศ ร.อ. เชื้อสายมูเซอ คุมกำลังพลดูแลการผลิตและการลำเลียงยาเสพติดให้ นอกจากนี้ นายเหว่ยเซียะยิ๋น ยังได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลพม่าชุดใหม่ให้ควบคุมกองกำลังว้าในเขตปกครองพิเศษแทน นายเหว่ยเซียะกัง ที่ปัจจุบันได้รับสัมปทานการทำไม้ในพม่าขยายข้ามเขตเข้าไปยังลาวบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ"
ช่วงเวลาหนึ่งของ รัฐบาลทักษิณ "บังรอน"เคยมีชื่อร่วมขบวนการลงขันค่าหัว"นายกฯทักษิณ"โดยครั้งนั้น มีกระแสข่าว กลุ่มค้ายาเสพติด ลงขัน ตั้งค่าหัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 80 ล้านบาท หลังจากคับแค้น ที่รัฐบาลใช้มาตรการเด็ดขาด ปราบปรามยาเสพติด จนบรรดา นักค้ายาตัวยง พากันหนีหัวซุกหัวซุน แถมถูกยึดทรัพย์ระนาว ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศสู้เต็มที่ ไม่กลัวตายแต่ก็ไม่ประมาท ได้เปลี่ยนมาใช้ รถกันกระสุน แทนรถคันเดิม พร้อมสั่งคุมเข้ม รักษาความปลอดภัยแน่นหนา
ครั้งนี้ อยู่ในช่วงสงครามยาเสพติดรอบสาม มี "พล.ท.โซ วิน นายกรัฐมนตรีพม่า ให้คำมั่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสหารือทวิภาคี ครั้งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (เมื่อวันที่ 30 พ.ย.47) ว่าจะร่วมมือกับไทยปรามปรามยาเสพติด โดยมีภารกิจสำคัญคือ จับตัว"บังรอน"ส่งตัวให้ไทยดำเนินคดี
หลังคำสั่งเปิดปฎิบัติการณ์ล่าตัว"บังรอน"ที่ได้เกิดขึ้น เมื่อปลายปี 47 ต่อเนื่องต้นปี 48 มาวันนี้ เข้าสู่กลางปี 48 ภารกิจ ของรัฐบาลทักษิณ 2/1 โดยมี พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เป็นผู้คุมทัพสีกากี.....
แต่คำตอบ แห่งภารกิจสำคัญ ณ.วันนี้ คือ บังรอน ยังไม่ถูกจับกุม และยังไม่มีใครรู้ว่า เขาเสวยสุข อยู่ในผืนแผ่นดินไทย หรือ กำลังผลิตยานรกอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศใด ประเทศหนึ่ง ขณะที่ การติดตามล่าตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มท้อถอย ไม่มีการปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง ....