xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกายกฟ้อง เจ้าของ“ส.ขอนแก่น”พ้นผิดคดีโกงเงินหุ้นส่วนร้อยล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง คดีเสี่ย "ส.ขอนแก่น" เจ้าของผลิตภัณฑ์กุนเชียง หมูยอชื่อดัง คดียักยอกเงินหุ้นส่วนไปใช้ส่วนตัวกว่าร้อยล้าน ระบุไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา

วันที่ 3 พ.ค.2548 ที่ห้องพิจารณาคดี 23 ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากรกรุงเทพใต้ 3 และนายวัลลภ แสงไพโรจน์ ผู้เสียหาย ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานกรรมการบริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น จำกัด และกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท มหาชัยฟู้ด โปรเซสซิ่ง จำกัด เป็นจำเลยฐานกระทำผิด พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ.2499

โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2542 สรุปว่า เมื่อระหว่างปี 2534-2538 จำเลยได้ร่วมลงทุนกับนายวัลลภ แสงไพโรจน์ โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหาย และนายชูชาติ เดชฤทธิชัย ก่อตั้งบริษัทมหาชัยฟู้ด โปรเซสซิ่ง จำกัด จำหน่ายลูกชิ้นปลาทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ โดยจำเลยซึ่งดูแลด้านการเงิน ถือหุ้นร้อยละ 40 ส่วนโจทก์ร่วมและนายชูชาติ ซึ่งดูแลด้านการตลาดและการผลิต ถือหุ้นคนละร้อยละ 30 ต่อมา บริษัทมหาชัยฯ ได้กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท แต่จำเลยกลับนำเงินกู้จำนวน 115 ล้านบาทไปเข้าบัญชีส่วนตัวหลายครั้งหลายหน แทนที่จะนำมาลงทุนในบริษัทมหาชัยฯ การกระทำของจำเลยทำให้บริษัทมหาชัยฯ และโจทก์ร่วมได้รับความเสียหาย จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) ให้ดำเนินคดีกับจำเลย ต่อมาพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งให้อัยการยื่นฟ้องเป็นคดีนี้ จำเลยให้การปฏิเสธโดยตลอด อ้างว่านำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชี บริษัท เอสเคเค โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ตั้งขึ้นมาดูแลด้านการเงิน ไม่ได้นำเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว

ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.45 ให้ยกฟ้อง โจทก์และโจทก์ร่วมยื่นอุทธรณ์ คดีจึงเข้าสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยมีเจตนานำเงินจำนวน 115 ล้านบาทไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวจริง ข้ออ้างของจำเลยเป็นข้ออ้างลอยๆ ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้น พิพากษากลับ ให้จำคุกจำเลย 4 กระทงๆ ละ 5 ปี รวมจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 20 ปี

หลังฟังคำพิพากษา จำเลยได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 4.5 ล้านบาท และโฉนดที่ดินย่าน อ.เมือง จ.สระบุรี เนื้อที่ 7 ไร่ ราคาประเมิน 1 ล้านบาทเศษ ขอประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นฎีกา โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้นายเจริญ ประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 5.5 ล้านบาท

จำเลยยื่นฎีกา และเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2555 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า นายเจริญ รุจิราโสภณ ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา จึงตัดสินให้ยกฟ้องและให้คดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ทำหนังสือสำคัญเลขที่ 207/2555 ออก ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 ได้แสดงว่าคดีถึงที่สุดในคดีอาญาเลขดำที่ 8971/2542 คดีอาญาเลขแดงที่ 3015/2542 และคดีอาญาเลขดำที่ 8972/2542 คดีอาญาเลขแดงที่ 6016/2545 เรื่องความผิดต่อพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม มูลนิธิ โดยคดีทั้งสองสำนวนศาลสั่งรวมพิจารณา หลังศาลอาอาญากรุงเทพใต้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2555 ว่าคดีเป็นอันสิ้นสุดแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น