รปภ.หมู่บ้านปรีชาคลั่ง ถูกด่าทอแถมเงินไม่มี ตัดสินใจโบกรถเก๋ง กระโดดขึ้นนั่งข้างใช้คัตเตอร์จี้คอสาวบีเอ็มฯ แต่ไปไม่รอดถูกคนขับรถของพระเอก "ป๋อ ณัฐวุฒิ" เข้าชาร์จรวบตัวส่งตำรวจ พบเคยติดคุกมาแล้วคดีพยายามลักทรัพย์
พ.ต.ต.สุรจิต เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส. สน.พหลโยธิน รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้จับกุมผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดคัดเตอร์จี้บังคับหญิงสาวได้ที่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 37 จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ สามารถจับกุมคนร้ายได้ 1 คน เป็นชายทราบชื่อ นายสาคร เล็กบุญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.8 ต.โพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ซึ่งอยู่ในชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริษัท พีไอเอส การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล โดยประจำอยู่ที่ หมู่บ้านปรีชา 2 ซอยนวมินทร์ 15 ถนนนวมินทร์
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบว่า ก่อนหน้านี้ ทำงานประมงอยู่ที่จ. สงขลา และรู้สึกเบื่อจึงลาออกแล้วเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมีเงินติดตัวมาเพียง 500 บาทเพื่อหวังมาทำงาน และเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ได้งานทำที่บริษัทดังกล่าวได้เพียง 7 วันก็มาเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยนายสาคร อ้างว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะถูกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านด่าทอและให้ของลับ จึงรู้สึกเจ็บใจและไม่ไปทำหน้าที่ ก่อนเกิดเหตุได้ทิ้งเวรไปหาซื้อเครื่องดื่มเอ็ม-150 จำนวน 1 ขวด และกระทิงแดงอีก 3 ขวด นั่งดื่มจนหมดเกลี้ยงหลังจากนั้นได้นั่งรถเมล์ไปเรื่อยๆ และมาลงยังจุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยพหลโยธิน 37 แต่เงินหมดจึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
นายสาครให้การต่อว่า ระหว่างนั้นเห็นรถเก๋งคันหนึ่งวิ่งผ่านมา ทราบชื่อคนขับภายหลังคือ นางวรรณวรี มีปัญญา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/151 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. พนักงานบริษัท วินดี้แอนด์ซันดี้ จิวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องประดับ ขับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน ธอ-5304 กทม. จึงได้โบกมือขอให้จอดและจังหวะที่ผู้เสียหายจอดรถพร้อมกับเปิดกระจกด้านซ้ายลง ตนจึงได้เอื้อมมือไปปลดล็อกประตู และกระโดดขึ้นนั่งข้างคนขับพร้อมกับใช้มีดคัตเตอร์จี้คอโดยไม่ได้ต้องการจะทำร้าย เพียงแต่ต้องการให้ช่วยเหลือด้านการเงิน แต่ผู้เสียหายตกใจร้องให้คนช่วยเหลือจึงถูกพลเมืองดีเข้าช่วยล็อกตัวไว้ได้และนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน นายธนพล บุญเรือน อายุ 48 ปี อาสาสมัครร่วมด้วยช่วยกัน และสมาชิกสมาคมวิทยุสื่อสารประชาชน ชาลี ซีบี 245 และเป็นคนขับรถประจำตัวของดาราชื่อดัง "ป๋อ" ณัฐวุฒิ สกิดใจ พลเมืองดีผู้ทำการช่วยเหลือ เล่าว่า ในวันนี้ตนเองจะต้องเดินทางไปรับ "ป๋อ ณัฐวุฒิ" ที่สนามบิน โดยช่วงเกิดเหตุกำลังจะเดินออกไปซื้อของหน้าปากซอย และได้สังเกตเห็นนายสาครซึ่งอยู่ในชุด รปภ.กำลังโบกมือให้รถเก๋งจอดรับ แต่หลังจากนั้นกลับได้ยินเสียงหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือจึงวิ่งเข้าไปใกล้ๆ และจังหวะที่คนร้ายไม่ทันเห็น ตนจึงเอื้อมมือเข้าไปกระชากเนกไทของนายสาครจนศีรษะคนร้ายมาติดกับประตูรถ ระหว่างนั้นคนร้ายได้ทิ้งมีดคัตเตอร์ ตนจึงเปิดประตูรถพร้อมกับล็อกแขนนายสาครมาไพล่หลังไว้และดึงเข็มขัดของตัวเองออกมามัดมือคนร้ายไว้ จากนั้นให้ชาวบ้านใกล้เคียงโทร.แจ้งตำรวจนำตัวไปดำเนินคดี
ด้านนางวรรณวรี กล่าวว่า ขณะนั้นกำลังออกจากร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต บริเวณปากซอยพหลโยธิน 37 หลังจากซื้อของใช้ส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ และเห็นคนร้ายแต่งกายด้วยชุด รปภ. จึงคิดว่าจะโบกรถตนเองให้จอดเพื่อบอกความผิดปกติของรถ โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งระหว่างเกิดเหตุกำลังตกใจจึงทำอะไรไม่ถูก แต่ยังโชคดีที่มีพลเมืองดีอย่างนายธนพลเข้ามาช่วยเหลือ
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า นายสาครเคยต้องคดีพยายามลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.ต.คูคต ปทุมธานี และได้รับโทษจำคุก 1 ปี หลังจากพ้นโทษมาแล้วยังได้มาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน แจ้งข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เบื้องต้นอาจส่งตัวไปตรวจสอบสภาพจิตอีกครั้ง เพราะจากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง
พ.ต.ต.สุรจิต เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส. สน.พหลโยธิน รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้จับกุมผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดคัดเตอร์จี้บังคับหญิงสาวได้ที่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 37 จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ สามารถจับกุมคนร้ายได้ 1 คน เป็นชายทราบชื่อ นายสาคร เล็กบุญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.8 ต.โพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ซึ่งอยู่ในชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริษัท พีไอเอส การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล โดยประจำอยู่ที่ หมู่บ้านปรีชา 2 ซอยนวมินทร์ 15 ถนนนวมินทร์
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบว่า ก่อนหน้านี้ ทำงานประมงอยู่ที่จ. สงขลา และรู้สึกเบื่อจึงลาออกแล้วเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมีเงินติดตัวมาเพียง 500 บาทเพื่อหวังมาทำงาน และเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ได้งานทำที่บริษัทดังกล่าวได้เพียง 7 วันก็มาเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยนายสาคร อ้างว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะถูกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านด่าทอและให้ของลับ จึงรู้สึกเจ็บใจและไม่ไปทำหน้าที่ ก่อนเกิดเหตุได้ทิ้งเวรไปหาซื้อเครื่องดื่มเอ็ม-150 จำนวน 1 ขวด และกระทิงแดงอีก 3 ขวด นั่งดื่มจนหมดเกลี้ยงหลังจากนั้นได้นั่งรถเมล์ไปเรื่อยๆ และมาลงยังจุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยพหลโยธิน 37 แต่เงินหมดจึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
นายสาครให้การต่อว่า ระหว่างนั้นเห็นรถเก๋งคันหนึ่งวิ่งผ่านมา ทราบชื่อคนขับภายหลังคือ นางวรรณวรี มีปัญญา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/151 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. พนักงานบริษัท วินดี้แอนด์ซันดี้ จิวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องประดับ ขับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน ธอ-5304 กทม. จึงได้โบกมือขอให้จอดและจังหวะที่ผู้เสียหายจอดรถพร้อมกับเปิดกระจกด้านซ้ายลง ตนจึงได้เอื้อมมือไปปลดล็อกประตู และกระโดดขึ้นนั่งข้างคนขับพร้อมกับใช้มีดคัตเตอร์จี้คอโดยไม่ได้ต้องการจะทำร้าย เพียงแต่ต้องการให้ช่วยเหลือด้านการเงิน แต่ผู้เสียหายตกใจร้องให้คนช่วยเหลือจึงถูกพลเมืองดีเข้าช่วยล็อกตัวไว้ได้และนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน นายธนพล บุญเรือน อายุ 48 ปี อาสาสมัครร่วมด้วยช่วยกัน และสมาชิกสมาคมวิทยุสื่อสารประชาชน ชาลี ซีบี 245 และเป็นคนขับรถประจำตัวของดาราชื่อดัง "ป๋อ" ณัฐวุฒิ สกิดใจ พลเมืองดีผู้ทำการช่วยเหลือ เล่าว่า ในวันนี้ตนเองจะต้องเดินทางไปรับ "ป๋อ ณัฐวุฒิ" ที่สนามบิน โดยช่วงเกิดเหตุกำลังจะเดินออกไปซื้อของหน้าปากซอย และได้สังเกตเห็นนายสาครซึ่งอยู่ในชุด รปภ.กำลังโบกมือให้รถเก๋งจอดรับ แต่หลังจากนั้นกลับได้ยินเสียงหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือจึงวิ่งเข้าไปใกล้ๆ และจังหวะที่คนร้ายไม่ทันเห็น ตนจึงเอื้อมมือเข้าไปกระชากเนกไทของนายสาครจนศีรษะคนร้ายมาติดกับประตูรถ ระหว่างนั้นคนร้ายได้ทิ้งมีดคัตเตอร์ ตนจึงเปิดประตูรถพร้อมกับล็อกแขนนายสาครมาไพล่หลังไว้และดึงเข็มขัดของตัวเองออกมามัดมือคนร้ายไว้ จากนั้นให้ชาวบ้านใกล้เคียงโทร.แจ้งตำรวจนำตัวไปดำเนินคดี
ด้านนางวรรณวรี กล่าวว่า ขณะนั้นกำลังออกจากร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต บริเวณปากซอยพหลโยธิน 37 หลังจากซื้อของใช้ส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ และเห็นคนร้ายแต่งกายด้วยชุด รปภ. จึงคิดว่าจะโบกรถตนเองให้จอดเพื่อบอกความผิดปกติของรถ โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งระหว่างเกิดเหตุกำลังตกใจจึงทำอะไรไม่ถูก แต่ยังโชคดีที่มีพลเมืองดีอย่างนายธนพลเข้ามาช่วยเหลือ
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า นายสาครเคยต้องคดีพยายามลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.ต.คูคต ปทุมธานี และได้รับโทษจำคุก 1 ปี หลังจากพ้นโทษมาแล้วยังได้มาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน แจ้งข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เบื้องต้นอาจส่งตัวไปตรวจสอบสภาพจิตอีกครั้ง เพราะจากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง
