xs
xsm
sm
md
lg

ประกาศ “ตึกใบหยก 1” เป็นเขตอันตราย!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้ว่าฯกทม.ประกาศให้ตึกใบหยก 1 ที่เกิดเพลิงไหม้เป็นเขตอันตราย ห้ามเข้าใช้สอยจนกว่าจะตรวจสอบถึงความปลอดภัยให้เรียบร้อยก่อน ขณะที่ควันไฟยังคงตลบอบอวลทั้งอาคาร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายควันออก และทยอยขึ้นไปช่วยผู้ที่ติดค้างอยู่ชั้นต่างๆ ของอาคารแล้ว

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ห้องควบคุมไฟฟ้าของอาคารใบหยก 1 ถนนราชปรารภ เขตพญาไท กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้วนั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 15.05 น.วันนี้ (26 เม.ย.) ยังคงมีควันไฟ ตลบอบอวลอยู่ภายในอาคารใบหยก 1 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้กระจายกำลังกันออกไปยังชั้นต่างๆ ของตัวอาคาร โดยเบื้องต้นที่บริเวณชั้น 2 เจ้าหน้าที่ได้ทำการทุบกระจกเพื่อระบายควันที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมากภายในอาคารให้ออกมาภายนอกให้หมดโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังได้นำรถของหน่วยกู้ภัยขึ้นไปยังลานจอดรถตามชั้นต่างๆ บนตึก เพื่อรับผู้ติดอยู่ภายในอาคารออกมานำส่งโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถหนีออกมาได้ด้วยตนเอง เพราะยังคงมีกลุ่มควันหนาแน่น ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทยอยช่วยผู้ที่ติดอยู่ในอาคารลงมาได้จำนวนหนึ่ง และนำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังคงทยอยช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในลงมาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งได้นำเครื่องดูดควันไปติดตั้งเพื่อเร่งระบายควันให้ออกจากตัวอาคารโดยเร็วแล้ว ส่วนผู้ที่ติดอยู่ในอาคารชั้นบนและเจ้าหน้าที่ช่วยลงมาได้นั้นมีประมาณกว่า 10 คนแล้ว ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพญาไท 1 โรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลใกล้เคียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงมีผู้ที่เข้าพักอาศัยติดอยู่บนชั้นบนของตัวอาคารจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ทั้งอินเดีย ปากีสถาน และชาวจีน ที่เข้าพักในโรงแรมชั้นบนของอาคาร โดยเจ้าหน้าที่พยายามประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ติดอยู่นั้นอยู่แต่ในห้อง อย่าออกมาเพียงลำพัง เนื่องจากหากออกมาอาจสำลักควันได้ ทั้งนี้ เพราะควันดังกล่าวเกิดจากการเผาไหม้พลาสติกที่เคลือบสารเคมีอันตรายซึ่งห่อหุ้มสายไฟไว้ หากสูดดมเข้าไปอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ โดยเจ้าหน้าที่ที่จะขึ้นไปช่วยผู้ที่ติดอยู่ในอาคารนั้นจะมีอุปกรณ์ อาทิ หน้ากากป้องกันควัน และสารเคมีไปช่วยเหลือให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในอาคารดังกล่าว ส่วนหนึ่งพยายามที่จะขอเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในตัวอาคาร เนื่องจากเป็นห่วงสินค้าภายในร้านของตนเอง แต่เจ้าหน้าที่ได้พยายามอธิบายเหตุผลให้รับทราบถึงอันตรายแล้ว

ล่าสุด นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า จากรายงานเบื้องต้นที่ได้รับมานั้น สาเหตุเกิดจากเพลิงลุกไหม้ในห้องควบคุมไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.7 คน กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีก 1 คน ส่วนใหญ่เกิดจากการสำลักควัน

“ในส่วนพื้นที่ดังกล่าว กทม.จะมีการประกาศให้เป็นพื้นที่อันตราย และจะส่งเจ้าหน้าที่โยธาธิการเข้าไปตรวจสอบในบริเวณอาคารให้เรียบร้อยก่อนจนกว่าจะเห็นว่ามีความปลอดภัยแล้วจึงจะเปิดให้ใช้ได้ตามปกติ” นายอภิรักษ์กล่าว

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวอีกว่า สำหรับการดับเพลิงในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของอาคารเป็นอย่างดีในการอำนวยความสะดวกต่างๆ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานการประเมินค่าความเสียหาย โดยต้องรอผลการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง

ส่วนการจัดระเบียนอาคารสูงนั้น เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา กทม.ได้เชิญเจ้าของอาคารสูงในเขตกทม. มาประชุม เพื่อทำการตรวจสอบ โดยเฉพาะอาคารที่สูงเกิน 7 ชั้น ทาง กทม.ได้เน้นเกี่ยวกับระบบป้องกันภัยต่างๆ ให้ทุกอาคารมีความพร้อมด้วย

ล่าสุด ได้เกิดกลุ่มควันหนาทึบที่บริเวณชั้น 6 ของอาคาร ซึ่งคาดว่า ภายในอาจจะเกิดเป็นเพลิงลุกไหม้ เนื่องจาก น้ำที่เจ้าหน้าที่ใช้ฉีดสกัดเพลิงไม่เพียงพอ และขณะนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งหาแหล่งน้ำ เพื่อนำมาสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังชั้นอื่นอีก แต่ล่าสุด เมื่อตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ควันไฟที่ชั้น 6 อาจเกิดจากการไล่ควันภายในอาคาร โดยคาดว่า ควันที่ยังมีความร้อนอาจจะไปสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย และอาจเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นเป็นกลุ่มควันแต่ไม่มีเปลวเพลิง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาน้ำฉีดเข้าไปสกัดแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวตั้งแต่ตอนเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ทำให้ปั๊มน้ำของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานไม่ทัน ส่งผลให้ไม่สามารถฉีดน้ำสกัดได้เท่าที่ควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเร่งสูบน้ำจากท่อหัวแดง จากบริเวณถนนราชปรารถเข้าไปช่วยด้วย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้กันประชาชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ ด้วยเกรงจะได้รับอันตรายต่างๆ ในขณะที่ร้านค้ารอบบริเวณตึกใบหยก เจ้าของร้าน ได้ทยอยผิดร้าน และพากันขนข้าวของมีค่าออกจากร้าน ด้วยเกรงว่า ไฟอาจจะลุกลามมาถึงได้

ขณะเดียวกัน ที่ด้านศูนย์การค้าอินทราสแควร์ เยื้องตึกใบหยก 1 ได้เกิดเหตุโกลาหลขึ้นเล็กน้อย เมื่อปรากฏกลุ่มควัน ภายในศูนย์การค้า ทำให้ประชาชนที่เดินจับจ่ายใช้สอย และเจ้าของร้านค้าต่างตื่นตระหนก พากันวิ่งหนีออกมาอย่างโกลาหล แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่า เป็นเพียงกลุ่มควัน ที่ก่อตัวหนาทึบบริเวณชั้น 6 ของอาคารใบหยก 1 ถูกลมพัดพาเข้ามาในศูนยืการค้าดังกล่าว จึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้คลายความตระหนก และ ให้ทยอยกันเดินออกจากศูนย์การค้า เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย จากที่ต่างฝ่ายต่างกรูกันออกมา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มควันหนาทึบที่ออกจากจากชั้น 6 ซึ่งเป็นห้องโถง สำหรับรับรองแขกของโรงแรมนั้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว โดยเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากพรมปูพื้นถูกความร้อนมากๆเข้า จึงทำให้เกิดลุกไหม้เป็นควันไฟ แต่ยังไม่เกิดเปลวเพลิงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ได้มีตัวแทนบริษัท ภูมิภวัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ดูแลอาคารใบหยก 1 ได้แจ้งให้แจ้งให้ผู้ค้าที่มีร้านค้าภายในตึก สามารถมาขอรับใบอนุญาตเพื่อเข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในร้ายค้าของตัวเองได้ หลังจากที่ทางกทม.ได้เข้าไปตรวจสอบ และส่งมอบคืนพื้นที่แก่บริษัทแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นวันไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมล่าสุดว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 15 คน ซึ่งทางหน่วยกูชีพนเรนทรได้กระจายกันนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพาญาไท 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จากการสำลักควัน แต่มี 1 ราย ที่มีอาหารหอบร่วมด้วย เนื่องจากเป็นโรคทางเดินหายใจอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ ภายในอาคารตึกใบหยก 1 ในขณะนี้ ไม่มีประชาชนติดค้างอยู่แล้ว คงมีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิงเท่านั้น

ด้านนายบุญส่ง ชีวเลิศปัญญา อายุ 45 ปี เจ้าของแผงค้าเสื้อผ้าสตรี บนชั้น 2 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เข้าใจดีว่าเป็นเหตุสุดวิสัย เป็นอุบัติเหตุ ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน แต่จากการพูดคุยกับผู้ดูแลอาคาร เบื้องต้นทราบว่า มีการประกันร้านเมื่อเกิดความเสียหาย รวมทั้งประกันอัคคีภัยไว้ด้วย

นายบุญส่งกล่าวอีกว่า การเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ คงไม่กระทบกับการค้าขายมากนัก เพราะผู้ดูแลอาคารรับปากว่าจะดูแลให้เรียบร้อย อีกทั้งรับปากว่าจะเปิดให้ผู้ค้า เข้าไป ค้าขายได้โดยเร็วที่สุด รวมทั้งมั่นใจว่า ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของจะมากันตามปกติ เพราะเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่รุนแรง ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยของอาคาร รู้สึกประทับใจ จากการดูแลของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ ทางเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจ พร้อมกับกันประชาชนออกมาจากพืนที่เสี่ยง รวมทั้งยังมีการช่วยเหลือในการควบคุมเพลิงในเบื้องต้นด้วย จากนั้นได้กันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในอาคาร เพื่อเป็นการรักษาทรัพย์สินของผู้ค้าได้เป็นอย่างดี

“ถึงแม้ว่า จะสูญเสียรายได้ไปบ้าง ก็ยังได้รับ และพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้”นายบุญส่งกล่าวชมเชย













กำลังโหลดความคิดเห็น