อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เตรียมนำคดีแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวแจ้งจับเด็ก 14 ฐานตักพริกเล่น ทำให้เสียทรัพย์ ยกเป็นกรณีหารือบนเวทียูเอ็นป้องกันอาชญากรรม เพื่อใช้วิธียุติธรรมสมานฉันท์ ยุติปัญหาคดีเล็กๆ น้อยๆ
วันนี้ (24 เม.ย.) นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ น.ส.นีรฌา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาว จ.ราชบุรี ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน หลังจาก ด.ช.เชน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี น้องชาย ถูกตำรวจจับกุมในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เพียงแค่ตักพริกป่นใส่ในชามก๋วยเตี๋ยวมากเกินไป แล้วถูกเจ้าของร้านแจ้งจับดำเนินคดี พร้อมกับเข้าสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ราชบุรี
ว่าเรื่องนี้จริง ๆ แล้ว ไม่น่าเป็นเรื่อง เท่าที่ได้รับรายงาน ทราบว่าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวไม่พอใจที่เด็กตักพริกป่นเล่น จึงขอเก็บเงินเพิ่ม แล้วเกิดการถกเถียงกัน ซึ่งเด็กก็จ่ายค่าเสียหายและพูดจาในทำนองประชดประชัน ทำให้เจ้าของร้านไม่พอใจ ไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับเด็กในข้อหาทำให้เสียทรัพย์
ตอนนี้คดีอยู่ในขั้นตอนของตำรวจ ที่จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ คดีนี้เป็นคดีเล็กน้อยมาก ที่เจ้าของร้านแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ยังงงอยู่ว่าที่เด็กทำไปนั้นเป็นความผิดตรงไหนอย่างไร คดีนี้ถ้าสามารถนำกระบวนยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาจัดการได้ก็จะใช้ แต่ถ้าจัดการไม่ได้ ก็คงต้องหาวิธีอื่นต่อไป ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีทิฐิกัน กำลังแรงกันอยู่ คงต้องทิ้งระยะเวลาสักพักหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากคดีที่เกิดขึ้นในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 หรือยูเอ็นคองเกรส ก็จะนำคดีดังกล่าวมาเป็นกรณีตัวอย่าง ที่คดีเล็กๆ น้อยๆ ควรจะนำวิธียุติธรรมสมานฉันท์มาใช้ในการแก้ไขปัญหา แทนที่จะใช้อารมณ์และความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาจนทำให้เป็นคดีความเกิดขึ้น
สำหรับคดีดังกล่าว น.ส.นีรฌา กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 เม.ย.เวลา 19.30 น. ตนพร้อมด้วยน้องชายและเพื่อนๆ อีก 6 คน เข้าไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ถนนวรเดช เขตเทศบาลเมืองราชบุรี แต่หลังจากที่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ น้องชายได้ตักพริกป่นใส่ในชามของตน 1 ช้อนชาเพื่อกลั่นแกล้งตน แต่ตนไม่ได้กิน แต่หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วระหว่างที่เดินออกจากร้าน เจ้าของร้านได้เดินตามออกมาและบอกว่าขอเก็บเงินเพิ่มอีก 10 บาท เพราะน้องชายตักพริกป่นใส่ชามเล่น ตนเองจึงยอมจ่ายเงินไป แต่เจ้าของร้านกลับยืนพูดจาด้วยถ้อยคำที่รุนแรงเข้าใส่ ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น
น.ส.นีรฌา เล่าอีกว่า จากนั้นเจ้าของร้านดังกล่าวได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจให้จับกุมน้องชาย ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว แล้วส่งตัวให้ ร.ต.อ.มนูศักดิ์ วงศ์ษา ร้อยเวร สภ.อ.เมืองราชบุรี ดำเนินคดี ซึ่งหลังจากตำรวจได้สอบปากคำน้องชายแล้วได้นำตัวกักขังไว้ที่บริเวณหน้าห้องขัง 1 คืน ก่อนจะส่งตัวต่อไปยังสถานพินิจฯ ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่า เหตุเพราะแค่ตักพริกป่นช้อนเดียวที่ทางร้านก๋วยเตี๋ยวมีไว้บริการลูกค้า นอกจากนี้ยังได้ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แล้วอีกด้วย แต่เจ้าของร้านกลับบอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยจะให้น้องชายหมดอนาคต ทั้งที่เด็กอายุยังน้อยยังมีอนาคตยังอีกยาวไกล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ทำเรื่องขอประกันตัวน้องชายออกมาจากสถานพินิจฯแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่ ร.ต.อ.มนูศักดิ์ วงศ์ษา ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งแล้วได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ฝ่ายเจ้าของร้านไม่ยอมรอมชอม ทั้งที่ค่าเสียหายนั้นตีราคาอยู่เพียง 50 บาท จึงต้องทำไปตามหน้าที่ โดยส่งตัวเด็กไปยังสถานพินิจฯและทำสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป