“นายกฯ” ประกาศสงครามยาเสพติดรอบ 3 หลังผลงานที่ผ่านมาประชาชนพอใจ เผยยาเสพติดเปลี่ยนเส้นทางจากพม่า เป็น ลาว-เขมรแทนแล้ว สั่งคุมเข้มสถานบริการ พบเจ้าหน้าที่รู้เห็นสำรองราชการทันที
วันนี้ (11 เม.ย.) เวลา 10.00 น.ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบนโยบายเนื่องในโอกาสที่ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ จัดงานปฎิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2548
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ผลงานที่ประชาชนพอใจรัฐบาลมากที่สุด คือ นโยบายปราบปรามยาเสพติด เพราะทุกคนมีครอบครัวมีลูก ก็ต้องทำงานเพื่อลูก ถ้าลูกติดยาก็หมดสิ้นกัน พ่อแม่ทุกคนเป็นห่วงลูกมากที่สุด แม้กระทั่งคนที่มีลูกตัวเล็กๆ ก็ยังห่วงว่าเมื่อลูกโตขึ้นในสังคมที่ยังเต็มไปด้วยยาเสพติดจะเป็นอย่างไร พ่อแม่ก็จะผวา เพราะไม่รู้ว่าลูกจะไปติดยาวันไหน นี่คือความรู้สึกในใจของคนไทยทั้งประเทศ
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า เรื่องของยาเสพติดจะต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีจะไม่ยอมให้ยาเสพติดหวนกลับมาอีก ที่ผ่านมาการกวาดล้างครั้งที่ 1 เป็นไปด้วยดี การปราบปรามครั้งที่ 2 ก็เป็นการตอกย้ำ แต่ในช่วงระยะเวลาของการเลือกตั้ง ยาเสพติดก็หวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าข้าราชการมีภารกิจหลายอย่าง ผู้ค้ายาเสพติดจึงกลับมา ที่กลับมาใหม่มีอยู่ดัวยกัน 2 ประเภท 1.ติดคุกออกมา 2.พวกโดนหมายจับ และไม่มีการติดตามจับกุมอย่างจริงจัง
ดังนั้น อยากให้ 3 เดือนต่อไปข้างหน้าการทำงานต้องเข้มข้นขึ้น ตอนนี้ยาเสพติดได้ย้ายจากฝั่งชายแดนพม่าไปโผล่ที่กัมพูชา ลาว บางพวกก็เป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศเพื่อนบ้าน จากการจับกุมเฮโรอีนครั้งใหญ่ เกือบ 600 กิโลกรัม ซึ่งจากการสอบสวนไม่ใช่นักค้าภายในประเทศ ตนขอยืนยันว่าไม่ว่าผู้ค้าคนนั้นจะอยู่ภายในประเทศหรือนอกประเทศ จะไม่มีใครใหญ่เกินกฎหมายไทย ขอให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ตนจะคอยคุ้มกันให้
“ขอฝากให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นนครบาล หรือตามเมืองใหญ่ๆ ที่มีสถานบริการเยอะๆ ตอนนี้ผมทราบมาว่าสถานบริการบางแห่งไม่ค่อยดี เดี๋ยวนี้มีคาราโอเกะเป่ายิ้งฉุบแล้ว เลียนแบบถนนชินจูกุ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ผ่านมากำลังหลวม มียาเสพติดเข้ามาอีกแล้ว ขอให้ท่านใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ แต่ถ้าเมื่อไหร่เป็นการปล่อยปละละเลย หรือมีการหลิ่วตา ขอให้ผู้บังคับบัญชาสำรองราชการทันที กรุณาอย่าปล่อยให้ยาเสพติดมาทำลายสังคมไทยเลย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเดือนเมษายนนี้ให้ถือเป็นกรณีพิเศษ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นศูนย์กลาง เพราะเนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ เรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าสามารถจับรายใหญ่ๆ ได้จะพิจารณาคุณความดีเป็นพิเศษ
ในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมถึงจังหวัดสงขลา ขณะที่กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องของความไม่สงบก็ยังมียาเสพติดหลุดลอดเข้ามา ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันกวาดล้างอย่างจริงจัง การกวาดล้างก็เป็นแนวทางหนึ่งแต่การป้องกันก็เป็นส่วนสำคัญ ตนอยากให้ชุมชนและโรงเรียน เฝ้ามองเด็กที่ติดยาให้นำมาบำบัดโดยด่วน ไม่อย่างนั้นเด็กเหล่านั้นจะโดนใช้เป็นเครื่องมือในการขายยาเสพติด ซึ่งขณะนี้ปัญหาลามไปสู่ปัญหาทางเพศ การล่อลวงเด็กสาว โดยเฉพาะพวกที่ออกจากคุก ควรจะมีการติดตามเป็นพิเศษ ระบบคุมประพฤติคงจะต้องเข้มขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ยาเสพติดเป็นงานพิเศษ อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้ภาวะผู้นำในการจัดการปัญหา บางส่วนในประเทศเพื่อนบ้าน แนวโน้มการปลูกฝิ่นลดลง แต่เปลี่ยนไปเป็นการปั๊มยาแทน เพราะฉะนั้น สารตั้งต้นเป็นเรื่องสำคัญ ทางด้านว้า และโกตั๊ง ก็ยังผลิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยาบ้า ยาไอซ์ ขอให้ ป.ป.ส.ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านติดตามใกล้ชิด ไปดูบ่อยๆ ถึงแม้ว่าจะมีการอพยพ ย้ายหนีไปชั่วคราว ก็ขอให้เข้าไปตรวจสอบบ่อยๆ ให้มีการประสานงานกับเขมร และลาว ถ่ายทอดความรู้ และปฎิบัติงานให้เข้มแข็งเหมือนฝั่งพม่า
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวยอมรับว่า ในขณะนี้ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ลดลง แต่รายเล็กยังมีอยู่บ้าง วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นการประกาศต่อสู้กับสงครามยาเสพติดอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศไทยตอนนี้คือ ความรู้สึกในการเป็นเจ้าภาพในแต่ละงานไม่มี ต้องมีการบูรณาการ ต่อไปหัวหน้าส่วนราชการทุกคนต้องมีความรู้สึกในการเป็นเจ้าภาพ ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องมียุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา จุดอ่อนระบบราชการไทย คือ ชอบรอรับคำสั่ง หัวหน้าส่วนราชการจะต้องมีภาวะผู้นำอย่างมาก และอยากให้การประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการดีขึ้น เพราะที่ผ่านมามีปัญหาในการประสานงาน ตนขอขอบคุณการทำงานของทุกฝ่าย ขอให้ร่วมมือกันทำงานต่อไป ต้องช่วยกันขจัดมันให้ได้