ท่าบางลำพู
ช่วง 1 เดือนเศษที่ผ่านมา ภายใต้การกุมบังเหียนของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตำรวจในสายตาของประชาชน ถือเป็นความพยายามปฏิรูปคนในวงการสีกากีอีกครั้ง เพื่อหวังตัดวงจรส่วย อันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีมาอย่างยาวนาน
การปฏิรูปครั้งนี้ สตช. ได้โฟกัสไปที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถือว่าหน่วยงานตำรวจที่เพียบพร้อมสุดและอยู่ใกล้ศูนย์อำนาจรัฐ เพราะนอกจากจะมีหน่วยงานหลักถึง 9 กองบังคับการ ยังมีกองบังคับการจราจร ซึ่งร่วมกันดูแลปัญหาการจราจรของคนในเมืองใหญ่
ต้องยอมรับว่าปัญหาการจราจรอยู่ควบคุมกับสังคมคนกทม. มาทุกยุคสมัย แต่ตำรวจจราจรบางกลุ่มบางราย ยังได้สร้างปัญหาซ้ำเติมประชาชน ด้วยการหวังเงินส่วนแบ่งจากเงินค่าปรับ รีดรับเงินเป็นกิจวัตร จนนำมาซึ่งวิกฤตศรัทธา และจากสถิติฝ่ายงานด้านจราจรยังถูกร้องเรียนมากที่สุด
แนวทางการปฏิรูป การตั้งด่านผี-ด่านลอย รีดไถผู้ใช้รถใช้ถนน ของตำรวจนครบาล ได้ถูกปฎิรูปอีกครั้งเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพล.ต.ต.มนตรี จำรูญ รองผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร ทดสอบประเมินความรู้ด้านกฎหมายและคุณธรรม จริยธรรม แก่ตำรวจจราจรตั้งแต่ชั้นประทวนจนถึงรอง สว.จร.จำนวน 4,475 นาย โดยมีผู้สอบผ่านเกณฑ์เพียง 3,810 นาย
อีกทั้ง บช.น.ได้มีคำสั่งห้ามตำรวจจราจรสั่งห้ามตั้งด่านตรวจในที่ลับตาหรือจุดอับต่างๆ หรือที่เรียกกันว่า ด่านผี ด่านลอย โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่เพียง 1-2 นาย ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน ต่อจากนี้ไป การตั้งด่านตรวจทุกครั้งต้องมีนายตำรวจระดับสัญญาบัตรเป็นผู้ควบคุม
พร้อมงัดมาตรการ”สมานฉันท์” โดยให้ตำรวจจราจรใช้วิธีการตักเตือนแก่ผู้กระทำผิดในข้อหาเล็กๆน้อยๆที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาด้านการจราจรและไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุใน 6 ข้อหาคือ ขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืน ไม่หยุดรถหลังเส้นไม่ให้หยุด หยุดรถในเขตปลอดภัย ใช้รถซึ่งเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายและจิตใจผู้อื่น ( วัสดุสะท้อนแสง ) ขับรถไม่ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายและผู้ขับขี่แท็กซี่แต่งกายไม่ถูกระเบียบ ซึ่งจะเริ่มดีเดย์กำหนดใช้ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เป็นต้นไป
ขณะที่ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกำหนดภารกิจและติดตามผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การทำสงครามกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้เสนอยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นต่อ พล.ต.ท.ปานศิริ ประภาวัต ผบช.น. ซึ่งรายงานนี้ ถือเป็นครั้งแรกของตำรวจที่ยืดอกรับปัญหาส่วยอย่างเป็นทางการ
โดยเฉพาะส่วนงานจราจร ที่ยอมรับว่าเงินมีการรับส่วยจากวินรถตู้ จักรยานยนต์รับจ้าง รถสองแถว ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า รถบรรทุกน้ำหนักเกิน การตั้งด่านเถื่อน เนื่องจากตำรวจจราจรมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสำคัญ 3 ฉบับคือ พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 พ.ร.บ.ขนส่ง 2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ 2522 จึงถือว่าตำรวจจราจร มีอำนาจอยู่ในมือพอสมควร
งานปฏิรูปด้านการจราจรในวันนี้ จึงถือว่าเป็น”ขันน็อต”ระดับองค์กร ซึ่งน่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้สัญจรได้ในระดับหนึ่ง “เมื่อหัวไม่ส่าย แต่หากหางยังกระดิก” กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การนำของพล.ต.ท.ปานศิริ คงจะไม่ปกป้องตำรวจนอกรีตฯ อีกทั้งเมื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนแจ้งเบาะแสที่หมายเลข 1197 เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีการรายการ”เชือดไก่ ให้ลิงดู” เพื่อดัดสันดานจราจรผี ให้เห็นในเร็ววันนี้ อย่างแน่นอน
ช่วง 1 เดือนเศษที่ผ่านมา ภายใต้การกุมบังเหียนของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตำรวจในสายตาของประชาชน ถือเป็นความพยายามปฏิรูปคนในวงการสีกากีอีกครั้ง เพื่อหวังตัดวงจรส่วย อันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีมาอย่างยาวนาน
การปฏิรูปครั้งนี้ สตช. ได้โฟกัสไปที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถือว่าหน่วยงานตำรวจที่เพียบพร้อมสุดและอยู่ใกล้ศูนย์อำนาจรัฐ เพราะนอกจากจะมีหน่วยงานหลักถึง 9 กองบังคับการ ยังมีกองบังคับการจราจร ซึ่งร่วมกันดูแลปัญหาการจราจรของคนในเมืองใหญ่
ต้องยอมรับว่าปัญหาการจราจรอยู่ควบคุมกับสังคมคนกทม. มาทุกยุคสมัย แต่ตำรวจจราจรบางกลุ่มบางราย ยังได้สร้างปัญหาซ้ำเติมประชาชน ด้วยการหวังเงินส่วนแบ่งจากเงินค่าปรับ รีดรับเงินเป็นกิจวัตร จนนำมาซึ่งวิกฤตศรัทธา และจากสถิติฝ่ายงานด้านจราจรยังถูกร้องเรียนมากที่สุด
แนวทางการปฏิรูป การตั้งด่านผี-ด่านลอย รีดไถผู้ใช้รถใช้ถนน ของตำรวจนครบาล ได้ถูกปฎิรูปอีกครั้งเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพล.ต.ต.มนตรี จำรูญ รองผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร ทดสอบประเมินความรู้ด้านกฎหมายและคุณธรรม จริยธรรม แก่ตำรวจจราจรตั้งแต่ชั้นประทวนจนถึงรอง สว.จร.จำนวน 4,475 นาย โดยมีผู้สอบผ่านเกณฑ์เพียง 3,810 นาย
อีกทั้ง บช.น.ได้มีคำสั่งห้ามตำรวจจราจรสั่งห้ามตั้งด่านตรวจในที่ลับตาหรือจุดอับต่างๆ หรือที่เรียกกันว่า ด่านผี ด่านลอย โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่เพียง 1-2 นาย ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน ต่อจากนี้ไป การตั้งด่านตรวจทุกครั้งต้องมีนายตำรวจระดับสัญญาบัตรเป็นผู้ควบคุม
พร้อมงัดมาตรการ”สมานฉันท์” โดยให้ตำรวจจราจรใช้วิธีการตักเตือนแก่ผู้กระทำผิดในข้อหาเล็กๆน้อยๆที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาด้านการจราจรและไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุใน 6 ข้อหาคือ ขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืน ไม่หยุดรถหลังเส้นไม่ให้หยุด หยุดรถในเขตปลอดภัย ใช้รถซึ่งเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายและจิตใจผู้อื่น ( วัสดุสะท้อนแสง ) ขับรถไม่ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายและผู้ขับขี่แท็กซี่แต่งกายไม่ถูกระเบียบ ซึ่งจะเริ่มดีเดย์กำหนดใช้ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เป็นต้นไป
ขณะที่ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกำหนดภารกิจและติดตามผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การทำสงครามกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้เสนอยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นต่อ พล.ต.ท.ปานศิริ ประภาวัต ผบช.น. ซึ่งรายงานนี้ ถือเป็นครั้งแรกของตำรวจที่ยืดอกรับปัญหาส่วยอย่างเป็นทางการ
โดยเฉพาะส่วนงานจราจร ที่ยอมรับว่าเงินมีการรับส่วยจากวินรถตู้ จักรยานยนต์รับจ้าง รถสองแถว ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า รถบรรทุกน้ำหนักเกิน การตั้งด่านเถื่อน เนื่องจากตำรวจจราจรมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสำคัญ 3 ฉบับคือ พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 พ.ร.บ.ขนส่ง 2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ 2522 จึงถือว่าตำรวจจราจร มีอำนาจอยู่ในมือพอสมควร
งานปฏิรูปด้านการจราจรในวันนี้ จึงถือว่าเป็น”ขันน็อต”ระดับองค์กร ซึ่งน่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้สัญจรได้ในระดับหนึ่ง “เมื่อหัวไม่ส่าย แต่หากหางยังกระดิก” กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การนำของพล.ต.ท.ปานศิริ คงจะไม่ปกป้องตำรวจนอกรีตฯ อีกทั้งเมื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนแจ้งเบาะแสที่หมายเลข 1197 เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีการรายการ”เชือดไก่ ให้ลิงดู” เพื่อดัดสันดานจราจรผี ให้เห็นในเร็ววันนี้ อย่างแน่นอน