นโยบายสงครามยาเสพติด ของรัฐบาล ทักษิณ 1 ถือเป็น"นโยบายประชานิยม" ที่ส่งผลทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย นำพลพรรค เข้าสู่สภาอย่างถล่มทลาย สร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งการเมืองไทย ที่ต้องจารึกไว้ว่า"รัฐบาลทักษิณ2/1 คือ รัฐบาลพรรคเดียว"
สงครามยาเสพติด ที่รัฐบาล บอกว่าได้รับชัยชนะแล้ว รวมทั้ง ประกาศสงครามรอบสอง ขีดเส้น ต.ค.47 ถึง มี.ค.48 ยาเสพติดต้องหมดไปจากประเทศไทย ความชั่วร้ายต้องขจัดให้หมด ไม่มีอิทธิพลให้ต้องเกรงกลัว ตายเป็นตาย ถึงไหนถึงกัน.....
เสียงขู่จากผู้นำประเทศ บวกกับเสียงปืนของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้การระบาดของยานรกในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย หยุดชะงัก ไปช่วงขณะหนึ่ง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ปัญหายาเสพติดจะหมดไปจากผืนแผ่นดินไทย ตามที่ ผู้นำประเทศ เคยลั่นวาจาไว้ ในหลายครั้ง หลายเวที...
วันนี้ หลังรัฐบาลทักษิณ 2/1 เข้ามาบริหารประเทศได้เพียง 14 วัน นับจากวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2548 วันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ยาเสพติดมหันตภัยร้ายของสังคมไทย ได้เกิดขึ้นให้เห็นรายวัน การจับกุม ยาเสพติดรายใหญ่ มีถี่ขึ้น (จะด้วยเหตุเจ้าหน้าที่จริงจังในการปราบปรามมากขึ้น หรือ ยาเสพติดยังมีอยู่ในประเทศไทย)ถือเป็น 2 คำตอบ ที่บ่งบอกให้ได้รับรู้ว่า ความจริงประเทศไทย ยังไม่หมดสิ้นซึ่งยาเสพติด และชัยชนะแห่งสงครามยาเสพติด ก็เป็นเพียงชัยชนะที่ยังไม่ยั่งยืน
20 มีนาคม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.นำทีมแถลงจับ 5 ผู้ต้องหาชาวฮ่องกง ขณะขนลำเลียงเฮโรอีนหนักกว่าครึ่งตัน กลางทะเลอ่าวไทย โดยที่มูลค่าของกลางหากส่งไปขายยังสหรัฐอเมริกามีมากถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,600 ล้านบาท
21 มีนาคม พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงจับขบวนค้ายาบ้ารายใหญ่ ชาวว้าแดง พร้อมยึดของกลางยาบ้า 4 แสนเม็ด
22 มีนาคม ชุดสืบสวนตำรวจภาค 5 วิสามัญขบวนการค้ายาบ้าชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ 2 ศพ
ขณะที่ข้อมูลยาเสพติด พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผบช.ปส.บอกว่า(เหตุที่มีการจับกุมการลักลอบลำเลียงเฮโรอีนเข้ามาในประเทศไทยได้บ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ค้าใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อส่งต่อไปยังต่างประเทศ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่า กลุ่มผู้ผลิตจำเป็นจะต้องเร่งลำเลียงยาเสพติดออกมา เพื่อส่งไปจำหน่ายในฮ่องกง จีน และออสเตรเลีย)
สำหรับเฮโรอีน ที่ผ่านประเทศไทย จะมาจากสองแหล่ง คือจากประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ที่สุด ผลผลิตครองตลาด 3 ใน 4 ของโลก และจากสามเหลี่ยมทองคำ ทั้งนี้หน่วยงานด้านอาชญากรรมของสหประชาชาติ ได้ประเมินว่า ในปีที่ผ่านมามีการผลิตฝิ่นในประเทศพม่าถึง 370 ตัน ซึ่งสามารถแปรรูปเป็นเฮโรอีน ได้ถึง 37 ตัน สำหรับในปี 2548 คาดว่าปริมาณการผลิตเฮโรอีนน่าจะมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
การจับกุมยาเสพติด ที่เป็นผลจากการปราบปรามที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ถือเป็นสิ่งดี....แต่ที่สำคัญ รัฐบาล ต้องยอมรับว่า ยาเสพติดไม่มีวันหมดไปจากผืนแผ่นดินไทย และหากวันใด ยาเสพติดลดลง ประชาชน คนในชาติ เลิกเป็นทาสของยาเสพติด นั่นคือ ชัยนะที่แท้จริง และยั่งยืนตลอดไป.....
สงครามยาเสพติด ที่รัฐบาล บอกว่าได้รับชัยชนะแล้ว รวมทั้ง ประกาศสงครามรอบสอง ขีดเส้น ต.ค.47 ถึง มี.ค.48 ยาเสพติดต้องหมดไปจากประเทศไทย ความชั่วร้ายต้องขจัดให้หมด ไม่มีอิทธิพลให้ต้องเกรงกลัว ตายเป็นตาย ถึงไหนถึงกัน.....
เสียงขู่จากผู้นำประเทศ บวกกับเสียงปืนของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้การระบาดของยานรกในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย หยุดชะงัก ไปช่วงขณะหนึ่ง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ปัญหายาเสพติดจะหมดไปจากผืนแผ่นดินไทย ตามที่ ผู้นำประเทศ เคยลั่นวาจาไว้ ในหลายครั้ง หลายเวที...
วันนี้ หลังรัฐบาลทักษิณ 2/1 เข้ามาบริหารประเทศได้เพียง 14 วัน นับจากวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2548 วันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ยาเสพติดมหันตภัยร้ายของสังคมไทย ได้เกิดขึ้นให้เห็นรายวัน การจับกุม ยาเสพติดรายใหญ่ มีถี่ขึ้น (จะด้วยเหตุเจ้าหน้าที่จริงจังในการปราบปรามมากขึ้น หรือ ยาเสพติดยังมีอยู่ในประเทศไทย)ถือเป็น 2 คำตอบ ที่บ่งบอกให้ได้รับรู้ว่า ความจริงประเทศไทย ยังไม่หมดสิ้นซึ่งยาเสพติด และชัยชนะแห่งสงครามยาเสพติด ก็เป็นเพียงชัยชนะที่ยังไม่ยั่งยืน
20 มีนาคม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.นำทีมแถลงจับ 5 ผู้ต้องหาชาวฮ่องกง ขณะขนลำเลียงเฮโรอีนหนักกว่าครึ่งตัน กลางทะเลอ่าวไทย โดยที่มูลค่าของกลางหากส่งไปขายยังสหรัฐอเมริกามีมากถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,600 ล้านบาท
21 มีนาคม พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงจับขบวนค้ายาบ้ารายใหญ่ ชาวว้าแดง พร้อมยึดของกลางยาบ้า 4 แสนเม็ด
22 มีนาคม ชุดสืบสวนตำรวจภาค 5 วิสามัญขบวนการค้ายาบ้าชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ 2 ศพ
ขณะที่ข้อมูลยาเสพติด พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผบช.ปส.บอกว่า(เหตุที่มีการจับกุมการลักลอบลำเลียงเฮโรอีนเข้ามาในประเทศไทยได้บ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ค้าใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อส่งต่อไปยังต่างประเทศ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่า กลุ่มผู้ผลิตจำเป็นจะต้องเร่งลำเลียงยาเสพติดออกมา เพื่อส่งไปจำหน่ายในฮ่องกง จีน และออสเตรเลีย)
สำหรับเฮโรอีน ที่ผ่านประเทศไทย จะมาจากสองแหล่ง คือจากประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ที่สุด ผลผลิตครองตลาด 3 ใน 4 ของโลก และจากสามเหลี่ยมทองคำ ทั้งนี้หน่วยงานด้านอาชญากรรมของสหประชาชาติ ได้ประเมินว่า ในปีที่ผ่านมามีการผลิตฝิ่นในประเทศพม่าถึง 370 ตัน ซึ่งสามารถแปรรูปเป็นเฮโรอีน ได้ถึง 37 ตัน สำหรับในปี 2548 คาดว่าปริมาณการผลิตเฮโรอีนน่าจะมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
การจับกุมยาเสพติด ที่เป็นผลจากการปราบปรามที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ถือเป็นสิ่งดี....แต่ที่สำคัญ รัฐบาล ต้องยอมรับว่า ยาเสพติดไม่มีวันหมดไปจากผืนแผ่นดินไทย และหากวันใด ยาเสพติดลดลง ประชาชน คนในชาติ เลิกเป็นทาสของยาเสพติด นั่นคือ ชัยนะที่แท้จริง และยั่งยืนตลอดไป.....