ตร.ดอนเมืองจำยอม ส่งตัว "น้องปอ" เข้าบ้านเมตตา ตามคำยืนยันของ "เจ้เล้ง" เจ้าทุกข์ ขณะที่กรมพินิจฯ พร้อมปล่อยตัวเด็กทันทีโดยไม่ต้องยื่นประกัน ก่อนเป็นตัวกลางเจรจาเจ้เล้งยุติเอาเรื่องเด็ก เตรียมประสานอัยการสั่งไม่ฟ้อง
วันนี้ (14 มี.ค.) นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวถึงกรณี ตำรวจ สน.ดอนเมืองดำเนินคดี "น้องปอ" เด็กชายวัย 10 ขวบในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากเพื่อนๆ ได้ชักชวนให้เข้าไปขโมยลูกอมภายในร้านเจ้เล้ง มูลค่า 34 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดี ซึ่งเด็กถูกควบคุมตัวในห้องขังร่วมกับผู้ต้องหาคดีร้ายแรงกว่า 6 ชั่วโมงว่า ปัจจุบันสถานพินิจฯ อำนวยความสะดวกให้ตำรวจสามารถพาเด็กมาส่งที่สถานพินิจฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องคุมขังไว้ที่โรงพัก สำหรับคดีนี้เป็นความผิดเล็กน้อย ทางกรมพินิจก็จะอนุญาตให้ผู้ปกครองมารับตัวเด็กกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัวหรือใช้หลักทรัพย์เพียงเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสืบเสาะประวัติ ความประพฤติ และนัดให้ผู้ปกครองและเด็กมาให้ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุการกระทำผิดว่า เกิดจากความประมาท คึกคะนองหรือไม่ และเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกหรือเปล่า เมื่อทราบสาเหตุการกระทำผิดแล้วกรมพินิจฯจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งเด็ก ผู้ปกครอง ตำรวจ อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ผู้นำชุมชน รวมทั้งผู้เสียหายมา พูดคุยเพื่อหาทางแก้ไขให้เด็กกลับตัวเป็นคนดี ไม่กระทำผิดอีก
ซึ่งหากเด็กสามารถทำได้ตามมาตรฐานที่เรากำหนดไว้ก็จะรายงานเสนอให้อัยการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ขณะเดียวกัน ตนเองยินดีที่จะไปพูดคุยเพื่อเจรจา ประนีประนอมกับเจ้เล้งผู้เสียหาย เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดเล็กน้อย โดยจะให้เด็กไปช่วยขายของที่ร้านเจ้เล้งแทนก็ได้
ด้าน พ.ต.อ.พัลลภ สุวรรณบัตร ผกก.สน.ดอนเมือง กล่าวภายหลังการสอบปากคำน้องปอร่วมกับผู้ปกครอง อัยการ นักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา เบื้องต้นจากการซักถามเด็กให้การว่าเพื่อนได้ชักชวนไปขโมยลูกอมภายในร้านเจ้เล้ง เป็นลูกอมจำนวน 2 กล่อง กล่องละ 5 บาท และกล่องละ 29 บาท รวมราคาทั้งหมด 34 บาทว่า จะต้องส่งเด็กไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (บ้านเมตตา) ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนผู้ปกครองนำหลักทรัพย์ไปยื่นประกันตัวได้ที่สถานพินิจฯ บ้านเมตตา แม้คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นเด็ก อายุ 10 ขวบ ตามกฎหมายระบุว่าเด็กที่กระทำผิดแต่อายุไม่เกิน 14 ปี ไม่ต้องรับโทษ ดังนั้น คาดว่าเด็กวัย 10 ขวบคงจะไม่ต้องรับโทษ แต่ศาลอาจจะเรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือนได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า ความเห็นส่วนตัวก็รู้สึกเห็นใจเพราะเด็กควรจะได้รับการคุ้มครอง เนื่องจากเด็กอายุเพียง 10 ขวบยังไม่บรรลุนิติภาวะ เด็กกระทำผิดเพราะเพื่อนถูกชักจูงไป ส่วนผู้ใหญ่จะต้องดูแลให้ดีกว่านี้ ทั้งนี้ ได้สอบถามเจ้เล้งแล้วว่าทำไมต้องดำเนินคดีด้วย คดีนี้ความผิดเล็กน้อย ราคาเพียง 34 บาท สามารถยอมความกันได้ไหม เขาบอกว่าสินค้าในร้านราคาสูง เด็กที่เข้ามาเดินภายในร้านคงไม่มีเงินซื้อ จึงกำชับให้ รปภ.จับตาดูเด็กที่เข้ามาเที่ยวเดินภายในร้านให้ใกล้ชิด กระทั่งจับเด็กวัย 10 ขวบที่ขโมยลูกอมได้ ซึ่งเจ้เล็งยืนยันจะให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อ้างว่าก่อนหน้านี้ของภายในร้านหายบ่อยครั้งจึงต้องการให้ตำรวจสอบสวนให้ทราบว่าความจริงว่ามีการกระทำผิดกันเป็นขบวนการหรือไม่