ปชป. ฟ้อง ทรท. ทักษิณ กับพวกร่วม 6 คน ฐาน หมิ่นฯ ประมาทกรณีสติ๊กเกอร์พระราชดำรัส
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นฟ้องพรรคไทยรักไทย, พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค, น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัคร ส.ส.กทม เขต 9 คลองเตย, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกพรรค, พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5, นายประชา เหตะกูล บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร, กระทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 กรณีให้สัมภาษณ์กล่าวหาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ระดับแกนนำว่าอยู่เบื้องหลังการนำพระราชดำรัส และพระราชเสาวนีย์ไปบิดเบือนตีพิมพ์เป็นสติ๊กเกอร์แจกจ่ายติดตามสถานที่ต่างๆ
ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 48 ตำรวจกองปราบปรามได้ยึดสติ๊กเกอร์แผ่นสีเหลือง 3,000 แผ่น มีข้อความว่า “เผยรับสั่งราชินี ความยากจนไม่ใช่เป็นสิ่งน่าอาย ความชั่วช้าคดโกงนั่นแหละเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ น่าละอายอย่างยิ่ง” และแผ่นสีขาว 3,000 แผ่น มีข้อความว่า “เผยรับสั่งในหลวง ยิ่งรวยยิ่งโกง ทำทุจริตแม้แต่นิดเดียวก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป” ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มกราคม จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ในฐานะหัวหน้าพรรคและฐานะส่วนตัวได้ใส่ความโจทก์โดยให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ใช้กลยุทธ์ทุกวิถีทางที่เป็นเรื่องสกปรก ไม่ว่าจะเป็นการนำสถาบันและพระราชดำรัสที่ผิดๆ มาทำสติ๊กเกอร์ น่าสมเพชเหมือนคนหมดทางสู้ ทั้งที่การเมืองคือการแข่งขันทำความดี เพื่อให้ประชาชนเกิดความศรัทธา แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับใช้วิธีการทำลาย
ต่อมาจำเลยที่ 3 ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง (กกต.) กล่าวหาว่าโจทก์เป็นผู้ทำสติ๊กเกอร์รับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อ้างว่ามีพยานยืนยันการรับออเดอร์ที่ห้องผู้นำฝ่ายค้าน บนชั้น 3 อาคารรัฐสภา ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ออกมายอมรับและขอโทษคนทั้งประเทศ ส่วนจำเลยที่ 4 กล่าวหาว่าโจทก์มีพฤติการณ์ตัดตอนคำพูดโน้มน้าวให้คนเข้าใจผิดตั้งแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นกรณีของนายปรีดี พนมยงค์, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หรือซีดีตากใบ และสติ๊กเกอร์ที่คลองเตย และจำเลยที่ 5 ให้สัมภาษณ์ว่าตำรวจจับกุมและยึดสติ๊กเกอร์ได้ที่หน้าที่ทำการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เขตคลองเตย และบางส่วนยึดได้ขณะขนลงมาจากชั้นสองของอาคาร เรื่องที่เกิดขึ้นคาดว่าเป็นการจัดแคมเปญโค้งสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ โดยจำเลยที่ 6 นำข้อความดังกล่าวไปตีพิมพ์เผยแพร่
การกระทำของจำเลยที่ 1-6 เป็นการหมิ่นประมาท ใส่ความโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังคำสัมภาษณ์เข้าใจว่าโจทก์เล่นการเมืองสกปรก โดยเป็นผู้ทำสติ๊กเกอร์พระราชดำรัสออกเผยแพร่ ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยทั้งหมดตามความผิดด้วย
โดยศาลได้รับคำร้องไว้พิจารณาและนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 เมษายน เวลา 13.30 น.
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าการยื่นฟ้องพรรคไทยรักไทยครั้งนี้ไม่ได้ฟ้องเพื่อต้องการเรียกคะแนนเสียง แต่ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ประชุมกันแล้วเห็นว่าข้อความที่คนในพรรคไทยรักไทยให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และ พ.ร.บ.เลือกตั้ง 41 จึงมอบหมายให้ตนยื่นฟ้องในคดีอาญา โดยได้นำข้อความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เป็นหลักฐานด้วย ส่วนกรณีที่โพลล์จากสำนักต่างๆ ออกมาระบุว่า พรรคจะได้ ส.ส.ใน กทม.ไม่ถึง 9 เขต ซึ่งต่ำกว่าเดิม ซึ่งตรงกันข้ามกับโพลล์ของทางพรรคที่ผลออกมาว่าจะได้จำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การทำโพลล์เป็นเพียงข้อมูลอ้างอิง แต่ของจริงอยู่ที่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ เลือก ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้สมัครลงพื้นที่ให้มากขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง
สมาชิก ปชป.รับทราบข้อหา "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ"
"ปชป." ขอเลื่อนรับ "ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ" เป็น 8 มี.ค.นี้
บช.น.เตรียมแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 5 ปชป.
คนปชป.ให้ปากคำตำรวจปฏิเสธทำสติกเกอร์ไม่บังควร
“ศิธา”ให้ปชป.ขอโทษประชาชนกรณีจัดพิมพ์สติกเกอร์
ปชป.ฟ้องหมิ่น ทรท.กรณีสติ๊กเกอร์พระราชดำรัสฯ
เตรียมสรุปคดีสติ๊กเกอร์พระราชดำรัสเสนอผบช.น.
"อู๊ดด้า"ฟ้อง"ปานศิริ-โกสินทร์"กล่าวหาเป็นคนจ้างวานพิมพ์สติ๊กเกอร์
"ศิธา" ดิ่งหาตร.มอบเทปลับคดีสติ๊กเกอร์ จวกเป็น "ลายแทงอัปยศ"
ตร.อาจเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องจัดพิมพ์สติ๊กเกอร์ไม่บังควรสอบเพิ่ม