อาชญากรรมทั่วไทย
รวบขี้เมามือบอนพังป้ายหาเสียงเจอคุก1-3ปี
เชียงใหม่ – วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 03.10 น. ตำรวจ สภ.อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมนายธิติพงษ์ เรือนวิโณ อายุ 20 ปี หลังร่วมกับพวกอีก 3 คน ซึ่งหลบหนีไปได้ ขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนทำลายป้ายผ้าหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับความเสียหาย บริเวณคูเมืองด้านในตั้งแต่สี่แยกประตูช้างเผือกไปจนถึงโค้งสวนสาธารณะหนองบวกหาดในตัวเมืองเชียงใหม่รวมกว่า 10 ป้าย สารภาพเมาสุราทำไปด้วยความคึกคะนอง ไม่ได้มีผู้อยู่เบื้องหลัง จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุก 1-3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
บช.ภ.8ระดมกำลัง 1.2หมื่นนายคุมเลือกตั้ง
สุราษฎร์ธานี – วันนี้ (2 ก.พ.)พล.ต.ท.สมศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า ได้จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองกำกับการ สืบสวนสอบสวนภาค 8 กว่า 12,000 นาย เข้าดูแลความสงบเรียบร้อยและสืบสวนหาข่าวการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้แล้ว นอกจากนี้จะกดดัน ตรวจค้นอาวุธปืนและวัตถุระเบิดของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งมีประมาณ 80 ราย โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ซึ่งมีรายงานว่ากลุ่ม มือปืนได้เริ่มเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่แล้ว แต่จากการกดดันตรวจค้นที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มมือปืนดังกล่าวออกจากพื้นที่ไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
ส่วนกรณีเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง หัวคะแนนของพรรคไทยรักไทย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ผู้บัญชา การตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า สาเหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่อย่างใด ซึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้ายเพื่อดำเนินคดี
การเมืองสกปรกยิงบ้านผู้สมัครส.ส.นครสวรรค์
นครสวรรค์ – วันนี้ (2 ก.พ.)ตำรวจภูธรอำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ควบคุมแก๊งวัยรุ่น 9 คนมาสอบสวนเพิ่มเติม หลังร่วมกันใช้ปืนยิงบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ตำบลลาดยาวซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานของนายนิโรจน์ สุนทรเลขา ผู้สมัคร สส. เขต 7 พรรคไทยรักไทย โดยนายจักรินทร์ ขำเสมอ หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวว่า นายเบญจพล แก้วสายแพ และนายสมประสงค์ สมอย้อย หัวหน้าแก๊ง เป็นคนยิงและหลบหนีไปได้
พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง เนื่องจากหัวหน้าแก๊งที่หลบหนี 2 คนเป็นลูกน้องของผู้สมัคร สส.พรรคฝ่ายตรงข้าม
ปาบึ้มป่วนเมืองข้างจวนผู้ว่าฯน่าน
น่าน – วันนี้ 2 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนขว้างปาระเบิดเข้าไปในบริเวณสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองน่าน ติดกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ชัชวาล สุคนธมาน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและวิทยาการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสลักระเบิด ชนิดเอ็ม 26 แบบลูกเกลี้ยงสังหาร รัศมีทำลายแบบพุ่งขึ้น 45 องศา รัศมีฉกรรจ์ 5 เมตรโดยรอบ ตกอยู่ริมรั้วกำแพง ซึ่งมีรอยแตกจากแรงระเบิด นอกจากนี้ ในระยะรัศมี 5-10 เมตร ยังพบว่า ที่ตัวอาคารซึ่งเป็นอาคารไม้ มีรูที่เกิดจากสะเก็ดระเบิดอีกหลายจุด
นายวินัย สิทธิมณฑล นายอำเภอเมืองน่าน ซึ่งเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเสียงระเบิดได้เห็นรถยนต์ปิกอัพ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ติดเครื่องยนต์จอดอยู่ตรงที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ขับหลบหนีไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานรายละเอียด และสันนิษฐานว่า มี 3 ประเด็น ที่น่าสงสัยในการก่อเหตุครั้งนี้ คือ ข่มขู่ เนื่องจากมีความขัดแย้งภายในสำนักงาน ประเด็นที่ 2 เรื่องการเมือง ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.และประเด็นสุดท้ายคือความคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่นกวนเมือง ที่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกวาดล้างทั้งเรื่องยาเสพติด และเรื่องอาวุธ อย่างไรก็ตาม การปาระเบิดครั้งนี้ เป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับที่ใช้ปาร้านพลพัฒน์พานิช เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โจรกรรมพระพุทธรูปล้ำค่าเมืองซากังราว3องค์
กำแพงเพชร – วันนี้ (2 ก.พ. ) สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร แจ้งว่าพระพุทธรูป จำนวน 3 องค์ ในพิพิธภัณฑ์วัดบ้านปราสาท (บ้านโคนใต้) ตำบลคณฑี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ถูกโจรกรรม จากการตรวจสอบโดยกลุ่มทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พบว่าพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 108 ตอนที่ 70 วันที่ 19 เมษายน 2534
พระพุทธรูปปางลีลา สำริด สูง 141 เซนติเมตร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 19 ศิลปะสุโขทัย ลักษณะยืนบนฐานบัว มีพระอริยาบถในลักษณะก้าวเดิน ยกส้นพระบาทขวา พระพักตร์รูปไข่ พระเกศาขมวดเป็นก้นหอย พระรัศมีเป็นรูปเปลวเพลิง พระขนงก่งโค้งเป็นรูปปีกกา พระเนตรหลุบต่ำ พระโอษฐ์อมยิ้มพระหนุนเป็นปม พระคอเป็นปล้อง 3 ชั้น พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นเสมอพระอุระป้องไปเบื้องหน้า พระกรขวาอยู่ในท่าไกว พระพาหากว้าง ห่มจีวรเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ
พระพุทธรูปปางมารวิชัย สำริด ตักกว้าง 60 เซนติเมตร ฐานกว้าง 63 เซนติเมตร สูงรวมฐาน 86.5 เซนติเมตร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 ศิลปะอยุธยา ลักษณะประทับขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน ฐานชำรุดหายไปบางส่วน พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ พระพักตร์รูปไข่ พระเกศาขมวดเป็นก้นหอย มีไรพระศก ติ่งพระกรรณซ้ายหักหายไป พระขนงก่งโค้งเป็นรูปปีกกา พระเนตรหลุบต่ำ พระหนุเป็นปม ห่มจีวรเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ
พระพุทธรูปปางมารวิชัย สำริด ตักกว้าง 60 เซนติเมตร ฐานกว้าง 56 เซนติเมตร สูงรวมฐาน 87 เซนติเมตร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 ศิลปะสุโขทัย ลักษณะประทับขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน ที่ฐานมีขา 3 ขา พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ พระพักตร์รูปไข่ พระเกศาขมวดเป็นก้นหอย พระรัศมีเป็นรูปเปลวเพลิง พระขนงก่งโค้งเป็นรูปปีกกา พระเนตรหลุบต่ำ พระโอษฐ์อมยิ้ม พระหนุเป็นปม พระศอเป็นปล้อง 3 ชั้น ห่มจีวรเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ
หากผู้ใดพบเห็นหรือพบเบาะแสพระพุทธรูปดังกล่าวโปรดแจ้งไปที่ สำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ โทร. 02 628 5034 ต่อ 314, 315
บช.ภ.7 กวาดล้างจับกุมปืนช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง
ประจวบคีรีขันธ์ – วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย ผกก.สืบสวนสอบสวน (ผกก.สส.) กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ( บภช.7) นำกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านตำหรุ ริมถนนพลายงาม ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจค้นรถยนต์ทุกประเภทได้ปืนทั้งหมด 7 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง และผู้ต้องหา 7 คน ซึ่งปืนทั้งหมดแม้จะเป็นปืนมีทะเบียน แต่เจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบอีกครั้งว่าทะเบียนปืนทุกกระบอกตรงกับผู้ครอบครองหรือไม่ เบื้องต้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งดำเนินคดีข้อหาผิดพระราชบัญญัติพกพาอาวุธปืนไปในเขตเมืองและที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย ผกก.สส.ภาค 7 กล่าวว่า การจับกุมเป็นนโยบายของหน่วยเหนือ เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง จึงต้องดำเนินการตั้งด่านสกัดตรวจต้นสิ่งผิดกฎหมาย ตลอดจนป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้าย โดยเฉพาะกลุ่มมือปืนต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดที่พกพาอาวุธปืนส่วนใหญ่ตรวจสอบพบว่าเป็นหัวคะแนนให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง เนื่องจากในพื้นที่เลือกตั้งเขต 2 แข่งขันรุนแรงมากที่สุด.
ตร.เมืองคนดีระดมค้นพื้นที่ล่อแหลม4จุด
สุราษฎร์ธานี - วันนี้ (2 ก.พ.) พล.ต.ต.สัณฐาน ชยนนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 พร้อม พ.ต.อ.สมเกียรติ แก้วมุข ผกก.สส.ภาค 8 และ พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช ผกก.สภ.อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี นำกำลัง กว่า 50 นายกระจายกำลังออกตรวจค้นตามหมายศาลพร้อมกัน 4 จุดในพื้นที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรับมือการหาเสียงเลือกตั้งในโค้งสุดท้าย
การตรวจค้นดังกล่าวมีพื้นที่เป้าหมายดังนี้ 1.บ้านของนายสมหมาย ญาตินิยม อายุ 38 ปี เลขที่ 148 ม.6 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี 2. นายณรงค์ วรดิษฐ์ อายุ 32 ปี เลขที่ 276 ม.2 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี 3.นายถาวร แก้วสุขศรี อายุ 34 ปี เลขที่ 223 ม.9 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และ 4.นายธวัช นวลสุทธิ์ อายุ 40 ปี เลขที่ 187 ม.13 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากที่สืบทราบว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่า จำหน่ายยาเสพติด , มีอาวุธผิดกฏหมายและให้ที่พักพิงแก่บุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นมือปืนรับจ้าง
จากการตรวจค้นบ้านนายณรงค์ ได้อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก แต่ไม่พบสิ่งผิดกฏหมายอย่างอื่น ส่วนบ้านนายธวัช ได้อาวุธปืนลูกกรดยาว 1 กระบอกพร้อมกระสุนอีก 17 นัด และอุปกรณ์การทำความสะอาดปืน
นายธวัชให้การว่า ยังมีอาวุธปืน 9 มม.อีก 1 กระบอก โดยได้จำนำกับเพื่อนไว้ที่ อ.พระแสง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากนายธวัช มีพฤติกรรมให้ที่พักพิงแก่มือปืนมาหลายครั้งแล้ว จึงให้ติดต่อกับเจ้าของปืนเพื่อนำมาพิสูจน์ ส่วนอีก 2 บ้านที่เข้าตรวจค้น ยังไม่พบสิ่งผิดกฏหมายและอาวุธปืนแต่อย่างใด
พล.ต.ต.สัณฐาน กล่าวว่า การกวาดล้างในครั้งนี้เนื่องจากได้รับรายงานว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีพฤติกรรมการให้ที่พักพิงแก่กลุ่มมือปืนรับจ้างมาหลายครั้งแล้ว
รวบขี้เมามือบอนพังป้ายหาเสียงเจอคุก1-3ปี
เชียงใหม่ – วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 03.10 น. ตำรวจ สภ.อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมนายธิติพงษ์ เรือนวิโณ อายุ 20 ปี หลังร่วมกับพวกอีก 3 คน ซึ่งหลบหนีไปได้ ขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนทำลายป้ายผ้าหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับความเสียหาย บริเวณคูเมืองด้านในตั้งแต่สี่แยกประตูช้างเผือกไปจนถึงโค้งสวนสาธารณะหนองบวกหาดในตัวเมืองเชียงใหม่รวมกว่า 10 ป้าย สารภาพเมาสุราทำไปด้วยความคึกคะนอง ไม่ได้มีผู้อยู่เบื้องหลัง จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุก 1-3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
บช.ภ.8ระดมกำลัง 1.2หมื่นนายคุมเลือกตั้ง
สุราษฎร์ธานี – วันนี้ (2 ก.พ.)พล.ต.ท.สมศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า ได้จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองกำกับการ สืบสวนสอบสวนภาค 8 กว่า 12,000 นาย เข้าดูแลความสงบเรียบร้อยและสืบสวนหาข่าวการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้แล้ว นอกจากนี้จะกดดัน ตรวจค้นอาวุธปืนและวัตถุระเบิดของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งมีประมาณ 80 ราย โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ซึ่งมีรายงานว่ากลุ่ม มือปืนได้เริ่มเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่แล้ว แต่จากการกดดันตรวจค้นที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มมือปืนดังกล่าวออกจากพื้นที่ไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
ส่วนกรณีเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง หัวคะแนนของพรรคไทยรักไทย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ผู้บัญชา การตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า สาเหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่อย่างใด ซึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้ายเพื่อดำเนินคดี
การเมืองสกปรกยิงบ้านผู้สมัครส.ส.นครสวรรค์
นครสวรรค์ – วันนี้ (2 ก.พ.)ตำรวจภูธรอำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ควบคุมแก๊งวัยรุ่น 9 คนมาสอบสวนเพิ่มเติม หลังร่วมกันใช้ปืนยิงบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ตำบลลาดยาวซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานของนายนิโรจน์ สุนทรเลขา ผู้สมัคร สส. เขต 7 พรรคไทยรักไทย โดยนายจักรินทร์ ขำเสมอ หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวว่า นายเบญจพล แก้วสายแพ และนายสมประสงค์ สมอย้อย หัวหน้าแก๊ง เป็นคนยิงและหลบหนีไปได้
พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง เนื่องจากหัวหน้าแก๊งที่หลบหนี 2 คนเป็นลูกน้องของผู้สมัคร สส.พรรคฝ่ายตรงข้าม
ปาบึ้มป่วนเมืองข้างจวนผู้ว่าฯน่าน
น่าน – วันนี้ 2 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนขว้างปาระเบิดเข้าไปในบริเวณสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองน่าน ติดกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ชัชวาล สุคนธมาน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและวิทยาการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสลักระเบิด ชนิดเอ็ม 26 แบบลูกเกลี้ยงสังหาร รัศมีทำลายแบบพุ่งขึ้น 45 องศา รัศมีฉกรรจ์ 5 เมตรโดยรอบ ตกอยู่ริมรั้วกำแพง ซึ่งมีรอยแตกจากแรงระเบิด นอกจากนี้ ในระยะรัศมี 5-10 เมตร ยังพบว่า ที่ตัวอาคารซึ่งเป็นอาคารไม้ มีรูที่เกิดจากสะเก็ดระเบิดอีกหลายจุด
นายวินัย สิทธิมณฑล นายอำเภอเมืองน่าน ซึ่งเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเสียงระเบิดได้เห็นรถยนต์ปิกอัพ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ติดเครื่องยนต์จอดอยู่ตรงที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ขับหลบหนีไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานรายละเอียด และสันนิษฐานว่า มี 3 ประเด็น ที่น่าสงสัยในการก่อเหตุครั้งนี้ คือ ข่มขู่ เนื่องจากมีความขัดแย้งภายในสำนักงาน ประเด็นที่ 2 เรื่องการเมือง ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.และประเด็นสุดท้ายคือความคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่นกวนเมือง ที่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกวาดล้างทั้งเรื่องยาเสพติด และเรื่องอาวุธ อย่างไรก็ตาม การปาระเบิดครั้งนี้ เป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับที่ใช้ปาร้านพลพัฒน์พานิช เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โจรกรรมพระพุทธรูปล้ำค่าเมืองซากังราว3องค์
กำแพงเพชร – วันนี้ (2 ก.พ. ) สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร แจ้งว่าพระพุทธรูป จำนวน 3 องค์ ในพิพิธภัณฑ์วัดบ้านปราสาท (บ้านโคนใต้) ตำบลคณฑี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ถูกโจรกรรม จากการตรวจสอบโดยกลุ่มทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พบว่าพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 108 ตอนที่ 70 วันที่ 19 เมษายน 2534
พระพุทธรูปปางลีลา สำริด สูง 141 เซนติเมตร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 19 ศิลปะสุโขทัย ลักษณะยืนบนฐานบัว มีพระอริยาบถในลักษณะก้าวเดิน ยกส้นพระบาทขวา พระพักตร์รูปไข่ พระเกศาขมวดเป็นก้นหอย พระรัศมีเป็นรูปเปลวเพลิง พระขนงก่งโค้งเป็นรูปปีกกา พระเนตรหลุบต่ำ พระโอษฐ์อมยิ้มพระหนุนเป็นปม พระคอเป็นปล้อง 3 ชั้น พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นเสมอพระอุระป้องไปเบื้องหน้า พระกรขวาอยู่ในท่าไกว พระพาหากว้าง ห่มจีวรเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ
พระพุทธรูปปางมารวิชัย สำริด ตักกว้าง 60 เซนติเมตร ฐานกว้าง 63 เซนติเมตร สูงรวมฐาน 86.5 เซนติเมตร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 ศิลปะอยุธยา ลักษณะประทับขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน ฐานชำรุดหายไปบางส่วน พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ พระพักตร์รูปไข่ พระเกศาขมวดเป็นก้นหอย มีไรพระศก ติ่งพระกรรณซ้ายหักหายไป พระขนงก่งโค้งเป็นรูปปีกกา พระเนตรหลุบต่ำ พระหนุเป็นปม ห่มจีวรเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ
พระพุทธรูปปางมารวิชัย สำริด ตักกว้าง 60 เซนติเมตร ฐานกว้าง 56 เซนติเมตร สูงรวมฐาน 87 เซนติเมตร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 ศิลปะสุโขทัย ลักษณะประทับขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน ที่ฐานมีขา 3 ขา พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ พระพักตร์รูปไข่ พระเกศาขมวดเป็นก้นหอย พระรัศมีเป็นรูปเปลวเพลิง พระขนงก่งโค้งเป็นรูปปีกกา พระเนตรหลุบต่ำ พระโอษฐ์อมยิ้ม พระหนุเป็นปม พระศอเป็นปล้อง 3 ชั้น ห่มจีวรเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ
หากผู้ใดพบเห็นหรือพบเบาะแสพระพุทธรูปดังกล่าวโปรดแจ้งไปที่ สำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ โทร. 02 628 5034 ต่อ 314, 315
บช.ภ.7 กวาดล้างจับกุมปืนช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง
ประจวบคีรีขันธ์ – วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย ผกก.สืบสวนสอบสวน (ผกก.สส.) กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ( บภช.7) นำกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านตำหรุ ริมถนนพลายงาม ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจค้นรถยนต์ทุกประเภทได้ปืนทั้งหมด 7 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง และผู้ต้องหา 7 คน ซึ่งปืนทั้งหมดแม้จะเป็นปืนมีทะเบียน แต่เจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบอีกครั้งว่าทะเบียนปืนทุกกระบอกตรงกับผู้ครอบครองหรือไม่ เบื้องต้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งดำเนินคดีข้อหาผิดพระราชบัญญัติพกพาอาวุธปืนไปในเขตเมืองและที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย ผกก.สส.ภาค 7 กล่าวว่า การจับกุมเป็นนโยบายของหน่วยเหนือ เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง จึงต้องดำเนินการตั้งด่านสกัดตรวจต้นสิ่งผิดกฎหมาย ตลอดจนป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้าย โดยเฉพาะกลุ่มมือปืนต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดที่พกพาอาวุธปืนส่วนใหญ่ตรวจสอบพบว่าเป็นหัวคะแนนให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง เนื่องจากในพื้นที่เลือกตั้งเขต 2 แข่งขันรุนแรงมากที่สุด.
ตร.เมืองคนดีระดมค้นพื้นที่ล่อแหลม4จุด
สุราษฎร์ธานี - วันนี้ (2 ก.พ.) พล.ต.ต.สัณฐาน ชยนนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 พร้อม พ.ต.อ.สมเกียรติ แก้วมุข ผกก.สส.ภาค 8 และ พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช ผกก.สภ.อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี นำกำลัง กว่า 50 นายกระจายกำลังออกตรวจค้นตามหมายศาลพร้อมกัน 4 จุดในพื้นที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรับมือการหาเสียงเลือกตั้งในโค้งสุดท้าย
การตรวจค้นดังกล่าวมีพื้นที่เป้าหมายดังนี้ 1.บ้านของนายสมหมาย ญาตินิยม อายุ 38 ปี เลขที่ 148 ม.6 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี 2. นายณรงค์ วรดิษฐ์ อายุ 32 ปี เลขที่ 276 ม.2 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี 3.นายถาวร แก้วสุขศรี อายุ 34 ปี เลขที่ 223 ม.9 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และ 4.นายธวัช นวลสุทธิ์ อายุ 40 ปี เลขที่ 187 ม.13 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากที่สืบทราบว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่า จำหน่ายยาเสพติด , มีอาวุธผิดกฏหมายและให้ที่พักพิงแก่บุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นมือปืนรับจ้าง
จากการตรวจค้นบ้านนายณรงค์ ได้อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก แต่ไม่พบสิ่งผิดกฏหมายอย่างอื่น ส่วนบ้านนายธวัช ได้อาวุธปืนลูกกรดยาว 1 กระบอกพร้อมกระสุนอีก 17 นัด และอุปกรณ์การทำความสะอาดปืน
นายธวัชให้การว่า ยังมีอาวุธปืน 9 มม.อีก 1 กระบอก โดยได้จำนำกับเพื่อนไว้ที่ อ.พระแสง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากนายธวัช มีพฤติกรรมให้ที่พักพิงแก่มือปืนมาหลายครั้งแล้ว จึงให้ติดต่อกับเจ้าของปืนเพื่อนำมาพิสูจน์ ส่วนอีก 2 บ้านที่เข้าตรวจค้น ยังไม่พบสิ่งผิดกฏหมายและอาวุธปืนแต่อย่างใด
พล.ต.ต.สัณฐาน กล่าวว่า การกวาดล้างในครั้งนี้เนื่องจากได้รับรายงานว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีพฤติกรรมการให้ที่พักพิงแก่กลุ่มมือปืนรับจ้างมาหลายครั้งแล้ว