อดีตนางสาวไทย และดารานักแสดงชื่อดัง "เอ้ ชุติมา นัยนา" โร่แจ้งหมิ่นฯ นิตยสารกอสซิปสตาร์ กล่าวหาว่า เป็นแม่เล้าโมเดลลิ่งหลอกกินนายแบบหนุ่ม พร้อมจัดหาเอ๊าะๆ ส่งบำเรอเสี่ยจนธุรกิจย่อยยับ
วันนี้ (2 ก.พ.) น.ส.อุมาพร นัยนานนท์ หรือ น.ส.ชุติมา นัยนา อายุ 37 ปี อดีตนางสาวไทยปี 2530 และดารานักแสดงชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 100/446 หมู่ 14 แขวงและเขตคันนายาว กทม. พร้อมด้วยนายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ ผกก.สน.วังทองหลาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายศิริ เหลืองสวัสดิ์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสารกอสซิปสตาร์ ในข้อหาหมิ่นประมาท
พร้อมได้นำนิตยสารกอสซิปสตาร์ ฉบับปีที่ 2 ฉบับที่ 20 ปักษ์หลัง ประจำเดือนมกราคม 2548 มาเป็นหลักฐาน โดยนิตยสารเล่มดังกล่าวตีพิมพ์ในหน้าที่ 27 ในคอลัมน์ "กระแทกคลื่น" ที่ระบุว่า "ลือ!! เอ้ชุติมา ตั้งตัวเป็นแม่เล้า หลอกกินนายแบบ"
และบรรยายข้อความว่า "กระฉ่อน เอ้ ชุติมา ตั้งตัวเป็นแม่เล้า ส่งเด็กให้เสี่ย เปิดโมเดลลิ่งสยิว สนองเสี่ยคลั่งตัณหา ซึ่งโมเดลลิ่งของอดีตนางสาวไทย เอ้ชุติมา จะมีเด็กหน้าตาดี ทั้งชายและหญิง สัดส่วนได้มาตรฐาน แถมยังเอ๊าะๆ สดซิงๆ มีออเดอร์ครบตามสูตรที่ลูกค้าต้องการ ทั้งไทย-จีน-ฝรั่ง-ลูกครึ่ง ทุกขนาดทุกไซส์ เร้าใจทั้งนั้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเสี่ยเมียเผลอและสาวแก่ที่ชอบกินนายแบบเด็ก เพราะนอกจากจะแรงดี ทั้งอึดทั้งทนอีกต่างหาก อีกทั้งยังมีกระแสข่าวลือกระฉ่อนว่า เอ้ ชุติมาทำโมเดลลิ่งครั้งนี้เพื่อสนองตัณหาของตัวเอง โดยการกินนายแบบรายวัน"
น.ส.ชุติมา กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ตนเองทำธุรกิจโมเดลลิ่งจากเงินเก็บก้อนสุดท้ายในชีวิต โดยก่อนหน้านี้เมื่อเปิดโมเดลลิ่งในช่วงแรกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่เมื่อมีข่าวเช่นนี้ออกไปจึงทำให้ผู้ปกครองของเด็กที่ทราบข่าวหลายรายโทรศัพท์มาขอยกเลิกที่จะส่งบุตรหลานเข้ามาอยู่ในสังกัด โดยให้เหตุผลว่าถ้าเป็นลูกผู้ชายก็กลัวว่าจะถูกบังคับให้เป็นสามี หากเป็นลูกสาวก็เกรงว่าจะถูกส่งไปบำเรอเสี่ย
"เอ้ อยู่วงการมา 17 ปี ไม่เคยมีข่าวแบบนี้ แต่พอมีข่าวต่อไปใครจะมาจ้างจะเอาอะไรกิน ทุกวันนี้โมเดลลิ่งของเอ้จะกลายเป็นโมเดลลิ่งร้างอยู่แล้ว และขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง" น.ส.ชุติมากล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พินิต กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความแล้วก็จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาแจ้งข้อหา แต่หากออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้งไม่มารับทราบข้อหาก็จะออกหมายจับต่อไป โดยเบื้องต้นจะได้ตั้งข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายกับบุคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
วันนี้ (2 ก.พ.) น.ส.อุมาพร นัยนานนท์ หรือ น.ส.ชุติมา นัยนา อายุ 37 ปี อดีตนางสาวไทยปี 2530 และดารานักแสดงชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 100/446 หมู่ 14 แขวงและเขตคันนายาว กทม. พร้อมด้วยนายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ ผกก.สน.วังทองหลาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายศิริ เหลืองสวัสดิ์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสารกอสซิปสตาร์ ในข้อหาหมิ่นประมาท
พร้อมได้นำนิตยสารกอสซิปสตาร์ ฉบับปีที่ 2 ฉบับที่ 20 ปักษ์หลัง ประจำเดือนมกราคม 2548 มาเป็นหลักฐาน โดยนิตยสารเล่มดังกล่าวตีพิมพ์ในหน้าที่ 27 ในคอลัมน์ "กระแทกคลื่น" ที่ระบุว่า "ลือ!! เอ้ชุติมา ตั้งตัวเป็นแม่เล้า หลอกกินนายแบบ"
และบรรยายข้อความว่า "กระฉ่อน เอ้ ชุติมา ตั้งตัวเป็นแม่เล้า ส่งเด็กให้เสี่ย เปิดโมเดลลิ่งสยิว สนองเสี่ยคลั่งตัณหา ซึ่งโมเดลลิ่งของอดีตนางสาวไทย เอ้ชุติมา จะมีเด็กหน้าตาดี ทั้งชายและหญิง สัดส่วนได้มาตรฐาน แถมยังเอ๊าะๆ สดซิงๆ มีออเดอร์ครบตามสูตรที่ลูกค้าต้องการ ทั้งไทย-จีน-ฝรั่ง-ลูกครึ่ง ทุกขนาดทุกไซส์ เร้าใจทั้งนั้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเสี่ยเมียเผลอและสาวแก่ที่ชอบกินนายแบบเด็ก เพราะนอกจากจะแรงดี ทั้งอึดทั้งทนอีกต่างหาก อีกทั้งยังมีกระแสข่าวลือกระฉ่อนว่า เอ้ ชุติมาทำโมเดลลิ่งครั้งนี้เพื่อสนองตัณหาของตัวเอง โดยการกินนายแบบรายวัน"
น.ส.ชุติมา กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ตนเองทำธุรกิจโมเดลลิ่งจากเงินเก็บก้อนสุดท้ายในชีวิต โดยก่อนหน้านี้เมื่อเปิดโมเดลลิ่งในช่วงแรกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่เมื่อมีข่าวเช่นนี้ออกไปจึงทำให้ผู้ปกครองของเด็กที่ทราบข่าวหลายรายโทรศัพท์มาขอยกเลิกที่จะส่งบุตรหลานเข้ามาอยู่ในสังกัด โดยให้เหตุผลว่าถ้าเป็นลูกผู้ชายก็กลัวว่าจะถูกบังคับให้เป็นสามี หากเป็นลูกสาวก็เกรงว่าจะถูกส่งไปบำเรอเสี่ย
"เอ้ อยู่วงการมา 17 ปี ไม่เคยมีข่าวแบบนี้ แต่พอมีข่าวต่อไปใครจะมาจ้างจะเอาอะไรกิน ทุกวันนี้โมเดลลิ่งของเอ้จะกลายเป็นโมเดลลิ่งร้างอยู่แล้ว และขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง" น.ส.ชุติมากล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พินิต กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความแล้วก็จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาแจ้งข้อหา แต่หากออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้งไม่มารับทราบข้อหาก็จะออกหมายจับต่อไป โดยเบื้องต้นจะได้ตั้งข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายกับบุคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
