สาวรับใช้บ้านหลังใหญ่เข้าเครื่องจับเท็จ ยืนยันความบริสุทธิ์เพราะไม่มีกุญแจเข้าบ้าน"คุณยุ้ย" ซัดทอดสองพี่น้องสาวรับใช้น่าสงสัยเพราะถือกุญแจบ้าน
วันนี้ (27 ม.ค.)ที่กองกำกับการ 4 กองพิสูจน์หลักฐานพนักงานสอบสวนสน.บางพลัด ได้เชิญตัว นางเพชรรัตน์ พุ่มกระจ่าง อายุ 51 ปีและนางสายมาตร จันทร์กระจ่าง หญิงรับใช้บ้านนายบรรหาร ศิลปอาชา มาเข้าเครื่องจับเท็จที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังเกิดเหตุ เครื่องประดับและอัญมณีในห้องพักของนางปาริชาต ยุ้ย ศิลปอาชา บุตรสาวนายบรรหาร มูลค่า 1.5 ล้านบาทหายไป โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการซักถามจับเท็จหญิงรับใช้ทั้ง 2 คน กว่า 2 ชั่วโมง โดยทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติและไม่หลบหน้าผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด
นางเพชรรัตน์ กล่าวว่าการเข้าเครื่องจับเท็จในวันนี้ไม่ได้รู้สึกเครียด ตนทำงานรับใช้ให้กับนายบรรหารและครอบครัวมา 34 ปี ทั้งนี้ไม่สามารถเข้าออกบ้านของคุณยุ้ยได้เนื่องจากไม่มีกุญแจบ้าน โดยได้ทำงานเป็นแม่ครัวที่บ้านหลังใหญ่ของนายบรรหารและเคยเข้าไปทำความสะอาดบ้านของนางสาวปาริชาติแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้นตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน
นางเพชรรัตน์กล่าวว่า ในบ้านมีคนอยู่หลายคนหลายมือ คนที่ลักทรัพย์ไปก็น่าจะเป็นคนในบ้านเพราะคนภายนอกเข้าออกได้ยาก โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานสอบถามถึงรายละเอียดภายในบ้านเพราะจะมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.)ที่คอยดูแลทางเข้าออกหน้าประตูบ้านและไม่เคยเห็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่แขกของเจ้าของบ้านเข้ามาในบ้านได้
ด้านนางสายมาตร กล่าวว่านางเพชรรัตน์เป็นคนรับใช้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ของนายบรรหารแต่ไม่ได้เป็นคนรับใช้ในบ้านนางปาริชาตและไม่สามารถเข้าออกบ้านนางปาริชาตได้ โดยพบว่ามีหญิงรับใช้เพียง 4 คนที่สามารถเข้าออกบ้านของนางปาริชาตได้ คือ น.ส.มลิวรรณ์ พิทักษา น.ส.สมจิตร พิทักษา น.ส.วาสนา อินต๊ะติ๊บ และน.ส.ประจักษ์ โคสา โดยในส่วนของน.ส.มลิวรรณ์และน.ส.สมจิตร สองพี่น้อง จะเป็นผู้ถือกุญแจบ้านหลังดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับน.ส.มลิวรรณ์ และน.ส.สมจิตรสองพี่น้อง ซึ่งเป็นผู้ถือกุญแจบ้านนางปาริชาตินั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้นำตัวมาเข้าเครื่องจับเท็จแต่อย่างใด คาดว่าใน 1-2 วันนี้จะนำสองพี่น้องมาเข้าเครื่องจับเท็จส่วนน.ส.วาสนา และน.ส.ประจักษ์ ได้เข้าเครื่องจับเท็จไปตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
