ตำรวจเตรียมนำตัว 4 คนใช้"บ้านศิลปอาชา"ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 1.5 ล้าน เข้าเครื่องจับเท็จรอบสอง วันจันทร์นี้( 24ม.ค.) เนื่องจากครั้งแรกเจ้าหน้าที่ได้ทำอย่างรีบร้อนทำให้การจับเท็จไม่เป็นผล
จากกรณีที่มีคนร้ายเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินในบ้าน นางปาริชาติ ศิลปอาชา อายุ 37 ปี บุตรสาวคนที่ 2 ของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์นี้ (24 ม.ค.) ทางพนักงานสืบสวน สน.บางพลัด จะนำตัวคนรับใช้หญิงจำนวน 4 คน ไปเข้าเครื่องจับเท็จที่กองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง หลังจากครั้งแรกมีความสับสน จากที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเครื่องจับเท็จยังไม่มีความพร้อม ทำให้การตรวจสอบด้วยเครื่องจับเท็จครั้งแรกไม่มีผล ต้องรอผลการจับเท็จในครั้งที่ 2 โดยทางตำรวจตั้งประเด็นไว้ว่า น่าจะเป็นคนรับใช้ภายในบ้านที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดจาก น.ส.ปาริชาติ ที่ได้มอบกุญแจห้องให้เข้าไปทำความสะอาดเป็นประจำ
ทั้งนี้ พนักงานสืบสวนพบว่าบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้มีมากกว่า 4 คน และในเย็นวันนี้ ทาง พ.ต.อ.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รอง ผบก.น.7 และทีมพนักงานสืบสวนจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 7 จะเข้าสอบปากคำคนรับใช้ทั้ง 4 คนด้วย สำหรับทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมนั้นมีนาฬิกายี่ห้อดังอาทิ piaget 1 เรือน,corum 2 เรือนและหลุยส์วิตตอง 1 เรือน สร้อยข้อมือฝังเพชร 2 เส้น สร้อยคอ 1 เส้น แหวนเพชร 1 วง และจี้สร้อยคอเพชร 2 ชิ้น รวมทรัพย์สินสูญหาย 10 รายการ มูลค่าเกือบ 1.5 ล้านบาท
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางกลับเข้า กทม.ทันทีในช่วงค่ำที่ผ่านมา หลังจากที่เสร็จสิ้นการปราศรัยที่ จ.ยโสธร เพื่อช่วยนายสฤษดิ์ ประดิษฐ์ศรี ผู้สมัครเขต 4 หาเสียง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ โดยนายบรรหาร เปิดเผยว่า เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใน เพราะไม่คิดว่าคนนอกจะเข้ามาในบ้านได้ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นควสามประมาทของบุตรสาวตนเอง ที่วางทรัพย์สินไว้ในที่เปิดเผย