บุตรชายคนเล็กของ"ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" เข้ารับการอุปสมบท เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเรียบร้อยแล้ว โดยมีสมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า “กลฺยาโณ” (กัน-ละ-ยา-โน) แปลว่า ความดีงาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานอุปสมบท นายดวง อยู่บำรุง เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. โดยขบวนนาค ออกจากบ้านริมคลองเมื่อเวลา 14.00 น. จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังวัดบางบอน โดยมีกลองยาว และขบวนพาเหรดนำหน้า พร้อมชาวบ้านช่วยกันถือเครื่องอัฏฐบริขาร และเครื่องไทยธรรม มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ถือตาลปัตร และสะพายบาตรเดินนำหน้า จากนั้น เป็นนางลำเนา อยู่บำรุง มารดา ถือพานแว่นฟ้าผ้าไตร โดยร.ต.อ.เฉลิม และนางลำเนา มีสีหน้าปลื้มปีติ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดงาน
ทั้งนี้ ภายในงานอุปสมบทดังกล่าว ไม่ปรากฏว่า มีนักการเมือง หรือบุคคลสำคัญไปร่วมงานแต่อย่างใด คงมีเพียงญาติพี่น้อง และชาวบ้านจำนวนมาก ร่วมขบวนแห่นาคกันอย่างเอิกเกริก สนุกสนาน ส่วนผู้ที่ถือหมอนในงานดังกล่าว เป็นญาติของนายดวงเอง
การอุปสมมบทเริ่มขึ้นภายในพระอุโบสถวัดบางบอน โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระดวง อยู่บำรุง ได้รับฉายาว่า “กลฺยาโณ ภิกฺขุ” (กัน-ละ-ยา-โน-พิก-ขุ)แปลว่า ความงดงาม หรือความดีงาม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีอุปสมบทบุตรชายคนสุดท้องด้วยสีหน้าที่ปลื้มปีติว่า รู้สึกดีใจ และขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสำคัญมาร่วมงานบุญงานกุศลในครั้งนี้ ซึ่งจะตกอยู่กับพ่อแม่ ญาติมิตร อย่างไรก็ตาม การบวชของพระดวงครั้งนี้ ถือเป็นการบวชครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกก็ได้รับฉายา “กลฺยาโณ” เช่นกัน
“ผมดีใจ ที่เค้าบวชได้ เค้าผ่านช่วงเวลาทุกข์โศกมามากพอแล้ว ซึ่งต่อไปนี้เชื่อว่า จะเป็นคนดีต่อไปได้”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวและว่า พระดวง จะบวชและจำวัดอยู่ ณ วัดบางบอน ซึ่งเป็นวัดที่ปู่ และพ่อของตนบวชมาโดยตลอด เป็นระยะเวลา 45 วัน และครั้งนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ มีเมตตาจะให้พระดวงไปจำวัดที่วัดสระเกศ
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงเรื่องการเมืองด้วยว่า ยังไม่ได้หายไปไหน ที่ผ่านมากำลังศึกษาปริญญาเอก ซึ่งใกล้จะจบแล้ว โดยทางอาจารย์แจ้งว่า ให้ไปแก้ไขดุษฎีนิพนธ์อีกเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสิ้น และเชื่อว่า จะจบภายใน 2 เดือน สำหรับเรื่องการเมือง ไม่ได้ทิ้ง หรือท้อแท้ และไม่ได้นึกเสียดายที่ครั้งนี้ ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเตรียมตัวไม่ทัน ส่วนจะเลือกพรรคการเมืองไหนนั้น ไม่สามารถบอกได้ และมีอยู่ในใจแล้ว
