เวบไซด์ www.correct.go.th เพียงดาบแรกก็ถูกทักท้วง ทั้งจากฝ่ายสิทธิมนุษยชนและนักโทษในแดนหลักประหารเอง จนต้องประกาศยกเลิกถ่ายทอดสดการใช้ชีวิตนักโทษแดน 1 ก่อนเดินเข้าสู่หลักประหารฯ กลางคัน
นรกแห่งพันธนาการ- เรือนจำบางขวาง ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 136 ไร่ มีไฟฟ้าแรงสูงขนาด 3,500 โวลต์ ล้อมรั้วกำแพงสูง 6 เมตร มี 20 หอคอย พร้อมพลแม่นปืนเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง เบื้องหลังกำแพงสูงตระหง่านแห่งนี้ ถูกใช้เป็นสถานที่กักขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ ที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จนถึงโทษประหารชีวิต เรือนจำแห่งนี้จึงต้องมั่นคงแข็งแรงที่สุดของประเทศ
ปัจจุบัน เรือนจำบางขวาง มีผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 6,338 คน แยกเป็นผู้ต้องขังที่ต้องโทษประหารชีวิตจำนวน 870 คน อยู่ระหว่างอุทธรณ์จำนวน 546 คน อยู่ระหว่างฎีกาจำนวน 220 คน และนักโทษเด็ดขาดรอประหารชีวิต จำนวน 104 คน ....
คุกบางขวางจึงถูกเปรียบเสมือนแดนสนธยาที่ "คนในอยากออก คนนอกไม่อยากเข้า”
เรือนจำกลางบางขวางก่อตั้งมาแล้ว 72 ปี มีนักโทษคดีสำคัญๆ เวียนว่ายเข้ามาอยู่นับหลายสิบรุ่น ประเดิมการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 จนถึงปัจจุบัน มีนักโทษเด็ดขาดถูกประหารชีวิตไปแล้ว 319 ราย เป็นนักโทษชาย 316 ราย และนักโทษหญิงอีก 3 ราย การประหารชีวิตด้วยวิธียิงเป้าถูกปิดฉากลง เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 45
ก่อนหันมาใช้วิธีประหารชีวิต ด้วยการฉีดยาพิษเข้าสู่ร่างกาย ตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 19 และมีผลบังคับใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.46 เป็นต้นมา
คุกบางขวาง นรกแห่งการพันธนาการ? ผู้กระทำผิดไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ มียศและศักดิ์ศรีเพียงใด หลังเดินเข้าสู่ประตูเรือนจำบางขวางแล้ว นอกจากจะถูกตีตรวนตลอดระยะเวลาที่ถูกจองจำ สรรพนามนำหน้าชื่อ “(น.ช.) จะถูกใช้เรียกขานเท่าเทียมกัน สำหรับชีวิตคนคุกที่ไร้ซึ่งอิสรภาพและอาจไม่มีชีวิตรอด ออกจากอาณาเขตดินแดนลี้ลับแห่งนี้
เรือนจำบางขวาง ถูกแบ่งออกเป็น 14 แดน แต่ ณ นาทีนี้ จะขอกล่าวถึงแดน 1 ซึ่งใช้ควบคุมนักโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น.. เบื้องหลังชีวิตนักโทษซึ่งถูกศาลสั่งตัดสินประหารชีวิต เวลาที่เหลืออยู่คือการอยู่เพื่อฆ่าเวลา ก่อนถูกนำตัวขึ้นสู่หลักประหารฯ... แดน 1 จึงเงียบเหงาซึมเศร้า ไม่มีแม้กิจกรรม, สันทนาการ หรือความหวังให้รอคอยสำหรับชีวิตที่เหลืออยู่ของนักโทษแดนประหารฯ แห่งนี้... คุกบางขวางจึงเสมือนต้องคำสาป ให้ตกเป็นดินแดนสนธยามาอย่างยาวนานจนถึงทุกวันนี้
แม้ว่ากรมราชทัณฑ์ โดยนายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะพยายามเปิดประตูคุกบางขวาง ด้วยการนำภาพชีวิตความเป็นอยู่ของนักโทษประหารชีวิต ก่อนเดินเข้าสู่หลักประหาร ออกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก ด้วยการถ่ายทอดสดผ่านเวบไซด์ www.correct.go.th ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ แต่กลับถูกหลายฝ่ายคัดค้านและท้วงติงในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลและขัดต่อกม.รัฐธรรมนูญ
แม้กระทั่งนักโทษประหารชีวิตเอง ยังได้รวมตัวกันทำหนังสือเพื่อเรียกร้องถึงสิทธิฯ เพราะมองว่า แม้ตนเองจะถูกลงโทษประหารชีวิต แต่ก็ไม่ควรจะนำภาพเขาไปประจาน เพราะจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของครอบครัวและญาติ ที่ใช้ชีวิตร่วมอยู่กับสังคมภายนอก จนในที่สุดกรมราชทัณฑ์ จึงตัดสินใจยกเลิกการถ่ายทอดสดชีวิตนักโทษประหารชีวิต ผ่านเวบไซด์ไปแล้ว
คุกบางขวาง จึงเสมือนต้องคำสาปหรือเพราะอาถรรพณ์แห่งดวงวิญญาณนักโทษกว่า 300 ชีวิตที่ถูกประหารไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้เรือนจำแห่งนี้ตกอยู่ในภวังค์แห่งแดนสนธยา ไปอีกยาวนาน
