ฟังอธิบดีศาลแพ่งสนทนาเปิดอก เผยวิสัยทัศน์การทำงานใน ปี 2548 เน้นนำพัฒนา ระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาลเชิงรุก พร้อมพัฒนาเวบไซต์ให้ทันสมัยเพื่อบริการประชาชน
นายประสิทธิ์ ศักดิ์ศรีมณีกูล อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผย การดำเนินงาน ในการพิจารณาคดีในศาลแพ่ง ในปี 2548ว่า หลังจากในปี 2547 ที่ผ่านมา ศาลแพ่ง ประสพผลสำเร็จในการนำระบบการไกล่เกลี่ย มาใช้ระงับข้อพิาพาทระหว่างคู่ความ โดยมีจำนวนคดีที่เสร็จการพิจาณาในศาลแพ่ง จำนวน2,372 คดี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง และการนำระบบการไกล่เกลี่ยจะช่วยให้สามารถลดจำนวนปริมาณคดีลงได้มาก ดังนั้น ในปีนี้ ศาลแพ่งได้พัฒนาระบบการไกล่เกลี่ย โดยจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยขึ้น เพื่อให้ระบบไกล่เกลี่ย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยคณะกรรมการพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยทางศาลแพ่ง ประกอบด้วย นายปิ่นทิพย์ สุจริตกุล อดีตประธานศาลฎีกาเป็นประธานที่ปรึกษา นายเรวัตร สกุลคล้อย รองอธิบดีศาลแพ่ง เป็นประธานคณะกรรมการ จัดระบบการไกล่เกลี่ยเอาไว้ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นผู้พิพากษานั่งพิจารณาคดี อยู่บนบัลลังก์ เน้นและให้น้ำหนักการไกล่เกลี่ยระหว่างพิจารณาว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนได้รับประโยชน์จริงๆ ส่วนที่ 2 ศาลแพ่งได้จัดผู้พิพากษาอาวุโส เป็นคณะไกล่เกลี่ยอย่างแท้จริง ซึ่งมีอีดตประธานศาลฎีกา และผู้พิพากษาอาวุโสที่เคยเป็นรองประธานศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ จำนวน 5-6 ท่าน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ เป็นผู้ประสพการณ์ มีความรู้ความสามารถ ขณะเดียวกันศาลยังได้นำบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อีก 6 คน ที่ผ่านการประเมิณ และการฝึกอบรมจากศาลแพ่งแล้ว มาขึ้นทะเบียนในคณะผู้ไกล่เกลี่ยของศาลแพ่งด้วย โดยจะผลักดันนำระบบไกล่เกลี่ยมาใช้ในเชิงรุก เพื่อรองรับคดีที่คาดว่า จะเข้ามาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ศาลแพ่ง ยังได้พัฒนาระบบเวปไซด์ www.cvocurt.com ของศาลแพ่ง ให้มีรูปแบบที่ทันสมัย เพื่อให้บริการแก่ประชาชน ในการสืบค้นข้อมูลคดี ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาระบบภายในศาลแพ่ง เชื่อมต่อข้อมูลคอมพิเตอร์ ระหว่างห้องทำงานของผู้พิพากษา และห้องพิจารณาคดี เพื่อำนวยความสะดวก ในการพิจารณาพิพากษาคดี คาดว่า ระบบดังกล่าวจะเริ่มทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบได้ในเดือน มี.ค.48
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขานุการศาลแพ่ง กล่าวว่า ในปี 2547 ที่ผ่านมา ศาลแพ่งมีคดีค้างเก่ารวมกับคดีที่ฟ้องใหม่ จำนวน 20,526 คดี ศาลได้พิจารณาคดีเสร็จไปแล้ว 12,994 คดี คิดเป็นร้อยละ 63.3 และในจำนวนคดีในศาลแพ่ง มีคดีที่สถาบันการเงิน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 7,173 คดี ศาลได้พิจารณาพิพากษาเสร็จไปแล้ว 5,280 คดี โดยมีตัวเลขค้างพิจารณาคงเหลือ 7,532 คดี
ส่วนคดีฟอกเงิน ที่ศาลแพ่งเป็นศาลเดียวที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษานั้น พบว่ามีแน้วโน้ม ที่จะเข้ามาในศาลแพ่งเพิ่มสูงขึ้น เฉพาะในปี 2546 มีคดีค้างเก่า และยื่นฟ้องใหม่ 179 คดี และในปี 2547 ที่ผ่านมา มีคดีค้างเก่า และคดีที่ยื่นฟ้องใหม่ รวม 235 คดี.
นายประสิทธิ์ ศักดิ์ศรีมณีกูล อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผย การดำเนินงาน ในการพิจารณาคดีในศาลแพ่ง ในปี 2548ว่า หลังจากในปี 2547 ที่ผ่านมา ศาลแพ่ง ประสพผลสำเร็จในการนำระบบการไกล่เกลี่ย มาใช้ระงับข้อพิาพาทระหว่างคู่ความ โดยมีจำนวนคดีที่เสร็จการพิจาณาในศาลแพ่ง จำนวน2,372 คดี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง และการนำระบบการไกล่เกลี่ยจะช่วยให้สามารถลดจำนวนปริมาณคดีลงได้มาก ดังนั้น ในปีนี้ ศาลแพ่งได้พัฒนาระบบการไกล่เกลี่ย โดยจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยขึ้น เพื่อให้ระบบไกล่เกลี่ย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยคณะกรรมการพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยทางศาลแพ่ง ประกอบด้วย นายปิ่นทิพย์ สุจริตกุล อดีตประธานศาลฎีกาเป็นประธานที่ปรึกษา นายเรวัตร สกุลคล้อย รองอธิบดีศาลแพ่ง เป็นประธานคณะกรรมการ จัดระบบการไกล่เกลี่ยเอาไว้ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นผู้พิพากษานั่งพิจารณาคดี อยู่บนบัลลังก์ เน้นและให้น้ำหนักการไกล่เกลี่ยระหว่างพิจารณาว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนได้รับประโยชน์จริงๆ ส่วนที่ 2 ศาลแพ่งได้จัดผู้พิพากษาอาวุโส เป็นคณะไกล่เกลี่ยอย่างแท้จริง ซึ่งมีอีดตประธานศาลฎีกา และผู้พิพากษาอาวุโสที่เคยเป็นรองประธานศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ จำนวน 5-6 ท่าน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ เป็นผู้ประสพการณ์ มีความรู้ความสามารถ ขณะเดียวกันศาลยังได้นำบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อีก 6 คน ที่ผ่านการประเมิณ และการฝึกอบรมจากศาลแพ่งแล้ว มาขึ้นทะเบียนในคณะผู้ไกล่เกลี่ยของศาลแพ่งด้วย โดยจะผลักดันนำระบบไกล่เกลี่ยมาใช้ในเชิงรุก เพื่อรองรับคดีที่คาดว่า จะเข้ามาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ศาลแพ่ง ยังได้พัฒนาระบบเวปไซด์ www.cvocurt.com ของศาลแพ่ง ให้มีรูปแบบที่ทันสมัย เพื่อให้บริการแก่ประชาชน ในการสืบค้นข้อมูลคดี ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาระบบภายในศาลแพ่ง เชื่อมต่อข้อมูลคอมพิเตอร์ ระหว่างห้องทำงานของผู้พิพากษา และห้องพิจารณาคดี เพื่อำนวยความสะดวก ในการพิจารณาพิพากษาคดี คาดว่า ระบบดังกล่าวจะเริ่มทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบได้ในเดือน มี.ค.48
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขานุการศาลแพ่ง กล่าวว่า ในปี 2547 ที่ผ่านมา ศาลแพ่งมีคดีค้างเก่ารวมกับคดีที่ฟ้องใหม่ จำนวน 20,526 คดี ศาลได้พิจารณาคดีเสร็จไปแล้ว 12,994 คดี คิดเป็นร้อยละ 63.3 และในจำนวนคดีในศาลแพ่ง มีคดีที่สถาบันการเงิน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 7,173 คดี ศาลได้พิจารณาพิพากษาเสร็จไปแล้ว 5,280 คดี โดยมีตัวเลขค้างพิจารณาคงเหลือ 7,532 คดี
ส่วนคดีฟอกเงิน ที่ศาลแพ่งเป็นศาลเดียวที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษานั้น พบว่ามีแน้วโน้ม ที่จะเข้ามาในศาลแพ่งเพิ่มสูงขึ้น เฉพาะในปี 2546 มีคดีค้างเก่า และยื่นฟ้องใหม่ 179 คดี และในปี 2547 ที่ผ่านมา มีคดีค้างเก่า และคดีที่ยื่นฟ้องใหม่ รวม 235 คดี.