คดี ป.ป.ช. เพิ่มค่าตอบแทนตัวเอง นัดไต่สวน พยานปากสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว คณะกรรมการไต่สวนชี้มูล นัดประชุมตรวจสำนวนและสรุปข้อเท็จจริง 28 ธ.ค.นี้ ก่อนนัดวันลงมติชี้มูลต่อไป
วันนี้(24 ธ.ค.) ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เวลา 09.30 น.มีการประชุมคณะกรรมการไต่สวนกรณี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กรุงเทพฯ กับพวก ยื่นคำร้องกล่าวหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจากกรณีออกระเบียบเพิ่มค่าตอบแทนให้ตัวเอง เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีนายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ กรรมการ ป.ป.ช. เข้าให้ถ้อยคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยวาจา พร้อมกับยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการไต่สวนด้วย การไต่สวนใช้เวลากว่า 2 ชม.จนถึงเวลา 12.00 น.จึงเสร็จสิ้น
นายสุภัทร์ สุทธิมนัส เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดเผยว่า การไต่สวนวันนี้เป็นการไต่สวนพยานปากสุดท้าย คณะกรรมการไต่สวนได้นัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ เวลา 13.30 น.เพื่อตรวจสำนวนและสรุปข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนพยาน รวมทั้งสิ้น 15 ปาก ในการไต่สวน 10 นัดที่ผ่านมา ก่อนที่จะนัดประชุมเพื่อลงมติชี้มูลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ หากคณะกรรมการไต่สวนมีมติว่าข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมูล จะต้องส่งรายงานพร้อมทั้งเอกสารทั้งหมด ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยกฎหมายกำหนดให้อัยการสูงสุดต้องฟ้องคดีตามความเห็นของคณะกรรมการไต่สวนภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับเรื่อง
ทั้งนี้ ในกรณีที่คณะกรรมการไต่สวนเห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ก็จะต้องส่งรายงานพร้อมเอกสารทั้งหมดไปยังองค์คณะผู้พิพากษา 9 คนเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งถ้าองค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ก็จะพิพากษายกคำร้อง แต่ถ้าองค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่าคดีมีมูล ก็ต้องส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา.
วันนี้(24 ธ.ค.) ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เวลา 09.30 น.มีการประชุมคณะกรรมการไต่สวนกรณี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กรุงเทพฯ กับพวก ยื่นคำร้องกล่าวหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจากกรณีออกระเบียบเพิ่มค่าตอบแทนให้ตัวเอง เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีนายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ กรรมการ ป.ป.ช. เข้าให้ถ้อยคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยวาจา พร้อมกับยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการไต่สวนด้วย การไต่สวนใช้เวลากว่า 2 ชม.จนถึงเวลา 12.00 น.จึงเสร็จสิ้น
นายสุภัทร์ สุทธิมนัส เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดเผยว่า การไต่สวนวันนี้เป็นการไต่สวนพยานปากสุดท้าย คณะกรรมการไต่สวนได้นัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ เวลา 13.30 น.เพื่อตรวจสำนวนและสรุปข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนพยาน รวมทั้งสิ้น 15 ปาก ในการไต่สวน 10 นัดที่ผ่านมา ก่อนที่จะนัดประชุมเพื่อลงมติชี้มูลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ หากคณะกรรมการไต่สวนมีมติว่าข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมูล จะต้องส่งรายงานพร้อมทั้งเอกสารทั้งหมด ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยกฎหมายกำหนดให้อัยการสูงสุดต้องฟ้องคดีตามความเห็นของคณะกรรมการไต่สวนภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับเรื่อง
ทั้งนี้ ในกรณีที่คณะกรรมการไต่สวนเห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ก็จะต้องส่งรายงานพร้อมเอกสารทั้งหมดไปยังองค์คณะผู้พิพากษา 9 คนเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งถ้าองค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ก็จะพิพากษายกคำร้อง แต่ถ้าองค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่าคดีมีมูล ก็ต้องส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา.