แม่ใจโหดเปิดปากรับสารภาพแล้ว ใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอทารกก่อนศพโยนทิ้ง เพราะผิดหวังจากความรักแฟนหนุ่มทิ้งหลังจากทราบเรื่องตั้งครรภ์
วันนี้ (23 ธ.ค.)พ.ต.อ.วรัญธร ชัยอาญา ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีศพทารกวัยแรกเกิดถูกฆ่าโยนทิ้งอยู่ริมกำแพงหน้าห้องน้ำ ภายในหอพักสีฟ้า เลขที่ 101/36 ซ.ม่วงสกุล ถนนบางขุนเทียน แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.ว่าจากการสอบปากคำ น.ส.เพชรรัตน์ พลกุล อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม. 4 ต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย สาวโรงงานปลากระป๋อง มารดาเด็กทารกที่เสียชีวิตและตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีใน 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
เมื่อเวลา 17.00 น.แพทย์โรงพยาบาลบางมดได้ทำการตรวจร่างกายน.ส.เพชรรัตน์อย่างละเอียด ก่อนอนุญาตให้ น.ส.เพชรรัตน์กลับบ้านได้ เนื่องจากอาการโดยทั่วไปดีขึ้นจนเกือบเป็นปรกติ สามารถเดินและทานอาหารแข็งได้ ซึ่งหลังจากแพทย์ตรวจร่างกายเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ท่าข้าม ได้เดินทางมาคุมตัวน.ส.เพชรรัตน์ไปที่สน.ท่าข้ามโดยทันที เพื่อทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา
ล่าสุด น.ส.เพชรรัตน์ ให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าปาดคอลูกสาวของตนจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปคลอดในห้องน้ำ จากนั้นเมื่อเด็กคลอดออกมาจึงใช้มีดคัตเตอร์กรีดเพราะกลัวเด็กร้องก่อนจะโยนศพทิ้งพงหญ้าหลังกำแพงด้านหน้าห้องน้ำ แต่เนื่องจากภายหลังคลอดน.ส.เพชรรัตน์เสียเลือดมากทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง ศพทารกจึงไปติดค้างอยู่บนกำแพง
น.ส.เพชรรัตน์ให้เหตุผลที่ต้องฆ่าลูกสาวตัวเอง เพราะเนื่องจากความเครียดที่ท้องโดยไม่พึงประสงค์ โดยก่อนหน้านี้เป็นนักศึกษาสถาบันราชภัฎแห่งหนึ่งและแอบมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเพื่อนนักศึกษา โดยครอบครัวไม่ทราบเรื่องจนกระทั่งเกิดตั้งครรภ์และมีปากเสียงแยกทางกันในที่สุด จนกระทั่งเมื่อครรภ์ครบกำหนดจึงได้คลอดเด็กออกมาก่อนลงมือก่อเหตุขึ้น
ซึ่งจากผลการชันสูตรศพเด็กทารก ของแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เบื้องต้น พบว่าเด็กมีชีวิตในขณะคลอด ส่วนบาดแผลที่ลำคอ จากรายงานของแพทย์พบว่า เป็นบาดแผลแนวนอนเรียบและลึก ซึ่งน่าจะถูกกระทำด้วยของมีคม ซึ่งขัดกับคำให้การของ น.ส.เพชรรัตน์ ก่อนหน้านี้ที่อ้างว่าอาจจะถูกเศษแก้วในขณะที่โยนศพทิ้ง ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีต่อไปแล้ว
วันนี้ (23 ธ.ค.)พ.ต.อ.วรัญธร ชัยอาญา ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีศพทารกวัยแรกเกิดถูกฆ่าโยนทิ้งอยู่ริมกำแพงหน้าห้องน้ำ ภายในหอพักสีฟ้า เลขที่ 101/36 ซ.ม่วงสกุล ถนนบางขุนเทียน แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.ว่าจากการสอบปากคำ น.ส.เพชรรัตน์ พลกุล อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม. 4 ต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย สาวโรงงานปลากระป๋อง มารดาเด็กทารกที่เสียชีวิตและตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีใน 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
เมื่อเวลา 17.00 น.แพทย์โรงพยาบาลบางมดได้ทำการตรวจร่างกายน.ส.เพชรรัตน์อย่างละเอียด ก่อนอนุญาตให้ น.ส.เพชรรัตน์กลับบ้านได้ เนื่องจากอาการโดยทั่วไปดีขึ้นจนเกือบเป็นปรกติ สามารถเดินและทานอาหารแข็งได้ ซึ่งหลังจากแพทย์ตรวจร่างกายเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ท่าข้าม ได้เดินทางมาคุมตัวน.ส.เพชรรัตน์ไปที่สน.ท่าข้ามโดยทันที เพื่อทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา
ล่าสุด น.ส.เพชรรัตน์ ให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าปาดคอลูกสาวของตนจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปคลอดในห้องน้ำ จากนั้นเมื่อเด็กคลอดออกมาจึงใช้มีดคัตเตอร์กรีดเพราะกลัวเด็กร้องก่อนจะโยนศพทิ้งพงหญ้าหลังกำแพงด้านหน้าห้องน้ำ แต่เนื่องจากภายหลังคลอดน.ส.เพชรรัตน์เสียเลือดมากทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง ศพทารกจึงไปติดค้างอยู่บนกำแพง
น.ส.เพชรรัตน์ให้เหตุผลที่ต้องฆ่าลูกสาวตัวเอง เพราะเนื่องจากความเครียดที่ท้องโดยไม่พึงประสงค์ โดยก่อนหน้านี้เป็นนักศึกษาสถาบันราชภัฎแห่งหนึ่งและแอบมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเพื่อนนักศึกษา โดยครอบครัวไม่ทราบเรื่องจนกระทั่งเกิดตั้งครรภ์และมีปากเสียงแยกทางกันในที่สุด จนกระทั่งเมื่อครรภ์ครบกำหนดจึงได้คลอดเด็กออกมาก่อนลงมือก่อเหตุขึ้น
ซึ่งจากผลการชันสูตรศพเด็กทารก ของแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เบื้องต้น พบว่าเด็กมีชีวิตในขณะคลอด ส่วนบาดแผลที่ลำคอ จากรายงานของแพทย์พบว่า เป็นบาดแผลแนวนอนเรียบและลึก ซึ่งน่าจะถูกกระทำด้วยของมีคม ซึ่งขัดกับคำให้การของ น.ส.เพชรรัตน์ ก่อนหน้านี้ที่อ้างว่าอาจจะถูกเศษแก้วในขณะที่โยนศพทิ้ง ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีต่อไปแล้ว