รปภ.หนุ่มวัยกลัดมัน เห็นสาวฝ่ายการตลาดขับรถเข้ามาจอดในบริษัท เลยออกอุบายให้ช่วยปิดไฟในออฟฟิศหวังข่มขืน แต่พลาดปล่อยเหยื่อหลุดมือ ก่อนโดนชาวบ้านย่านนั้นรุมประทัณฑ์อ่วม เหยื่อเผยช่วงนัวเนียยังพูดจาหว่านล้อม "พี่ยอมผมเถอะ ผมทำแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว" ก่อนอาศัยจังหวะคนร้ายเหนื่อย ขอหยุดพัก ดิ้นหลุดออกมา
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (30 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) พล.ต.ต.จิรสิทธิ์ มหินทรเทพ ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนนท์ เอมพันธ์ พ.ต.อ.ชำนาญ เครือบัว พ.ต.อ.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รอง ผบก.น.9 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญหลายคดี
โดยรายแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม จับกุมนายเอกพล ยอดคำ อายุ 19 ปี อาชีพ รปภ.ของบริษัท เอส.เค.การ์ด ผู้ต้องหาในคดีอนาจาร และทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ โดยมี น.ส.ศกาญจน์มาศ คุตพันธุ์ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ที แอนด์ ที เฟอร์นิเจอร์ ตั้งอยู่ในซอยประชาธิปัตย์ ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัว
น.ส.ศกาญจน์มาศ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ขับรถของทางบริษัทไปเรียนที่สถาบันราชภัฏแห่งหนึ่ง หลังจากเลิกเรียนในช่วงบ่าย ตนก็ได้ขับรถไปจอดที่บริษัทตามปกติ เมื่อไปถึงหน้าบริษัท ผู้ต้องหา ซึ่งเป็น รปภ.ใหม่ ก็มาเปิดประตูให้ตนนำรถเข้าไปจอด เมื่อตนจอดรถเรียบร้อยแล้ว เดินไปยืนที่หน้าประตูบริษัท เพื่อรอพ่อมารับ
จากนั้น ผู้ต้องหาก็ได้เดินเข้ามาหาตน พร้อมกับบอกตน ให้ช่วยเข้ามาปิดไฟในออฟฟิตให้หน่อย โดยอ้าวว่า หาสวิตช์ไฟไม่เจอ กลัวว่าไฟจะลัดวงจร เพราะเป็นวันอาทิตย์ไม่มีใครมาทำงาน ตนจึงหลงกล และเดินตามเข้าไปในบริษัท
น.ส.ศกาญจน์มาศ กล่าวต่อว่า เมื่อตนหลงกลเดินเข้าไปในบริษัท ผู้ต้องหา ก็ได้ล๊อคประตู แล้วเข้ามากระชากคอเสื้อ และพยายามปลุกปล้ำเพื่อจะข่มขืน ตนจึงพยายามป้องกันตัว โดยชกผู้ต้องหา ระหว่างนั้น ผู้ต้องหาก็พยายามพูดจาหว่านล้อมตน ว่า "พี่ยอมผมเถอะ ผมทำแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว" แต่ตนก็ยังไม่ยอม จึงถูกผู้ต้องหาใช้กุญแจมือตีที่ศีรษะจนแตก ก่อนที่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นานพอสมควร จนตนทั้งคู่รู้สึกเหนื่อย และผู้ต้องหาก็ได้เอ่ยขึ้นมาว่า "พี่ผมขอพักก่อนนะ"
"พอได้ยินเขาบอกอย่างนั้น ก็คิดว่า พอจะมีทางรอดแล้ว เพราะถ้าปล่อยให้เขาข่มขืน เขาฆ่าหนูทิ้งแน่ ก็เลยตอบตกลง แล้วเดินไปอยู่บนรถยกของ โดยที่เขายังกอดเอวอยู่ ก่อนที่หนูจะกดสวิตช์ให้ยกตัวเองขึ้นเหนือพื้น เลยทำให้มือเขาหลุดจากเอว แล้วหยิบกุญแจรถยกแทงที่หัวเขาจนเลือดออก ก่อนที่จะกระโดลงจากรถยก แล้ววิ่งไปเรียกให้คนมาช่วย" น.ส.ศกาญจน์มาศ กล่าว
น.ส.ศกาญจน์มาศ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อตนวิ่งมาที่ประตู ก็ได้ยินเสียงพ่อกับพี่ชายอยู่ ที่หน้าประตู แต่เข้ามาไม่ได้เพราะประตูล๊อคอยู่ ก่อนที่พ่อกับพี่ชายของตนจะไปตามชาวบ้านในละแวกนั้น ราว 10 คน ปีนกำแพงข้ามมาช่วยตน ก่อนที่ชาวบ้านจะรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา แล้วจับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา อนาจาร ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจ กับนายเอกพล ก่อนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (กก.สส.บก.น.9) นำโดย พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.บก.น.9 ได้ทำการจับกุม นายฮั้นกวอ เฉิน ชาวจีน อายุ 29 ปี พร้อมของกลางเป็น หน้ากากโทรศัพท์มือถือ ก้อนแบตเตอรี่ ที่ชาร์จแบตเตอรี่ สติ๊กเกอร์ แฮนด์ฟรี ยี่ห้อต่างๆ ซึ่งเป็นของหนีภาษี รวมจำนวน 33,765 ชิ้น รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ 1 คัน บี เอ็ม ดับเบิ้ลยู 1 คัน สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม รวมมูลค่าของกลางประมาณ 5 ล้านบาท หลังจากสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้ลักลอบนำสินค้าจำพวกอุปกรณ์มือถือจากประเทศจีน เข้ามาขายในประเทศไทยโดยไม่เสียภาษี ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องให้การปฏิเสธ ก่อนขอประกันตัวออกไป