กว่าครึ่งชีวิตที่ถูกล้อเลียนว่ามีร่างกายไม่เหมือนคนทั่วไป แต่ "โจ้ ม๊กจ๊ก" ตลกร่างแคระที่หาเลี้ยงชีพด้วยการทำให้ผู้คนเฮฮา มีความสุข ก็ไม่เคยย่อท้อต่อโชคชะตา ฟันฝ่าอุปสรรคชีวิตจนมีอาชีพที่สุจริต ดูแลครอบครัว ส่งเสียแม่ที่ชรา และน้องๆ ตลอดๆ จนหลานๆ รวมทั้งปลูกบ้านให้ครอบครัว จนกระทั่งพบรักกับ "จอน ม๊กจ๊ก" หญิงสาวร่างแคระเช่นกัน และมีโซ่ทองคล้องใจวัยขวบเศษ แต่ความสุขกลับอยู่กับ "โจ้" ได้ไม่นาน ...
วันนี้ ... 27 ตุลาคม วัยคล้ายวันเกิดอายุครบ 38 ปีของนายสมชาย จันเจือ หรือที่รู้จักกันดีในนามของ "โจ้ ม๊กจ๊ก" ตลกร่างแคระ ที่สร้างสีสันและรอยยิ้ม ตลอดจนความสุข สนุกสนานแก่ผู้ชมได้ทุกคราวที่เขาขึ้นเวที ... โจ้เป็นลูกชายคนที่ ในบรรดาลูกทั้งหมด 7 คน ของนางบุญเรือง จันเจือ ครอบครัวของโจ้มีพื้นเพอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร โจ้เป็นคนเดียวในจำนวนพี่น้องที่มีร่างกายผิดปกติ
"สมัยเด็กๆ โจ้เค้าถูกล้อ ถูกด่าประจำ เรียกไอ้เตี้ยบ้าง ไอ้แคระบ้าง ไอ้หัวโตบ้าง ..."
แม่วัยชราของโจ้กล่าวกับทีมงานด้วยเสียงเครือสะอื้น ก่อนหน้าที่จะลุกมาพูดคุยได้ นางบุญเรืองเป็นลมแล้วเป็นลมอีก ด้วยเศร้าสะเทือนใจในการจากไปของลูกชาย ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของบ้าน
"พี่น้องไม่มีใครเป็นแบบนี้ พอเค้าเกิดแม่เป็นแบบนี้ แม่เลยรักเค้ามากกว่าคนอื่น เค้าก็รักแม่มาก"
โจ้เป็นคนมัธยัสถ์และห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ ... นี่เป็นคำบอกเล่าจาก "จอน ม๊กจ๊ก" หรือนางศุภาพิชญ์ จันเจือ ภรรยาม่ายของโจ้ นอกจากนี้จอนยังเล่าด้วยว่า โจ้เป็นคนรักลูก รักเมีย รักครอบครัวอย่างเหลือเกิน เหล้าไม่กิน สูบบุหรี่บ้าง ได้เงินมาก็ให้ลูกให้เมีย ส่งแม่ บ้านที่อยู่ปัจจุบัน ที่เป็นรังรักยังเป็นบ้านเช่า ในขณะที่บ้านแม่ที่จังหวัดหนองคาย โจ้เป็นคนใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เขาหามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ปลูกให้แม่และพี่น้อง รวมทั้งหลานๆ ได้อยู่อาศัย สมัยก่อน ก่อนที่จะแต่งงาน โจ้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการทำงานส่งเสียแม่ รวมทั้งส่งหลานบางคนเรียนหนังสือ จนเมื่อมาพบรักกับจอนเมื่อสามปีที่แล้ว และแต่งงานกัน นางบุญเรืองจึงไม่ยอมรับเงินของลูกชายเนื่องจากต้องการให้ลูกชายสร้างครอบครัวและมีความสุขเสียที
สำหรับ "จอน" ภรรยาคู่ยากของโจ้ วันนี้มีหน้าตาอิดโรย เธอบอกว่าตั้งแต่เกิดเรื่องยังมิสามารถข่มตาให้หลับได้เลย เมื่อคืนนี้ก็นำรูปเก่าๆ ที่เคยถ่ายร่วมกันกับโจ้ ออกมาดู คิดถึงโจ้มาก เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เสียใจจนไม่สามารถหาคำมาบรรยายได้ หันไปมองหน้าลูกก็สงสาร จนบัดนี้น้องเจนนี่ก็ยังร้องเรียกหาพ่อว่า "ป่าป๊ะ ป่าป๊ะ" ตลอด ...
"ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลยด้วย เพียงแค่ก่อนจะเดินทาง โจ้มาบอกหนู ว่าดูแลลูกดีๆ นะ อย่าพาลูกไปเล่นบนถนน โจ้รักลูกที่สุด ชอบวาดฝันไว้ว่าอยากให้ลูกได้เรียนสูงๆ ได้ทำงานดีๆ โตขึ้นจะได้สบาย โจ้ไม่กินเหล้า ตลอดเวลา 3 ปีที่อยู่ด้วยกัน โจ้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ขยันขันแข็ง เมื่อก่อนมีลูกก็ทำงานกันทั้งสองคน เล่นตลกในคณะของพี่เหลือ แต่พอมีลูก โจ้ก็ให้ออกมาดูแลลูก เลี้ยงลูกเอง"
ภาพทำแผนฯ มือโหด"ปลิดชีพ" โจ้ ม๊กจ๊ก
+++โปรดคลิกเพื่ออ่านข่าวหน้าถัดไป +++
แทบไม่น่าเชื่อว่าความฝันอันสูงสุดของคนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพิษมีภัยกับใครอย่างโจ้ คือการกลับไปอยู่ที่หนองคายอันเป็นจังหวัดบ้านเกิด เปิดร้านขายของชำเล็กๆ ขายข้าวแกงและของจิปาถะเลี้ยงชีพ อยู่กับสามคนพ่อแม่ลูก ใช้ชีวิตอย่างสมถะ ... เพียงเท่านี้ที่คนอย่างโจ้ถือว่าเป็นชีวิตที่ "เติมเต็มและเพียงพอ" แล้ว
"โจ้เค้าเคยพูดไว้ก่อนหน้าที่จะตายว่า ถ้าเกิดเลิกเล่นตลกแล้ว จะกลับไปอยู่ที่หนองคาย เปิดร้านขายของชำเล็กๆ แล้วก็ขายข้าวแกงอีกนิดหน่อย อยู่กับแบบพ่อแม่ลูก มีความสุขไปตามประสา ตอนนี้หนูไม่รู้จะทำยังไง แต่หนูรู้ว่าหนูล้มไม่ได้ หนูเหนื่อยมาก แต่ถ้าหนูล้ม ลูกจะอยู่กับใคร หนูต้องเข้มแข็งเพื่อลูก ...ถ้าดวงวิญญาณของโจ้รับรู้ รับทราบ อยากให้เค้ารู้ว่า หนูจะดูแลลูกอย่างดีที่สุด โจ้ไม่ต้องเป็นห่วง หลับให้สบาย หนูจะทำดีที่สุดเพื่อลูกของหนูกับเค้า" จอนกล่าวทั้งน้ำตา
หัวหน้าคณะและเพื่อนสนิทของโจ้อย่างเหลือเฟือ ม๊กจ๊กได้กล่าวกับจอนไว้ตั้งแต่แรกเกิดเรื่องว่า นับแต่นี้เป็นต้นไป ชีวิตทั้งหมดของจอยและลูก ตนจะเป็นคนดูแลเอง จะไม่ปล่อยให้ลำบาก ..."พี่เหลือแกดีมาก แกดูแลทุกอย่าง ชีวิตนี้แกบอกว่าแกจะดูแล ไม่ต้องห่วง แม้โจ้จะจากไปแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าหนูและลูกจะลำบาก พี่เหลือรักโจ้มาก แกดูแลทุกอย่างมาตั้งแต่เกิดเรื่อง แกบอกว่าให้โจ้หลับให้สบาย ไม่ต้องกังวล และถ้าแกให้โอกาส หนูจะกลับเข้าไปทำงานในคณะตลก เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกอีกครั้งหนึ่ง" ... จอนพูด
ก่อนหน้าที่โจ้จะจากไป ทางคณะตลกตั้งใจจะจัดงานเซอร์ไพรส์วันเกิดให้โจ้ในวันนี้ แต่เป็นที่น่าเศร้าว่าในวันเกิดของโจ้กลับกลายเป็นต้องจัดงานศพแทน เพียงแค่ความห่ามคะนองของคนร้ายวัย 17 ปี ที่ไม่สบอารมณ์เมื่อขับรถย้อนศรผิดกฎจราจร สวนกับรถที่โจ้นั่งมา แล้วแสงไฟจากรถโจ้ ส่องกระทบตา ... เพียงเท่านั้น ที่กระตุกต่อมอารมณ์ความไม่พอใจของคนร้าย จนถึงขนาดต้องใช้ก้อนหินขนาดฝ่ามือผู้ชาย เขวี้ยงเข้าใส่รถ ก่อนจะขี่หนีไปพร้อมพกเอาความสาแก่ใจแบบไร้สำนึกติดตัวไปด้วย โดยหารู้ไม่ว่าเบื้องหลังภายในรถ ร่างเล็กๆ ที่น่าสงสารของโจ้มีเลือดไหลรินออกจากหน้าผาก ปาก และจมูก...ในขณะที่เจ้าตัวสลบไปหาสติไม่แล้ว
เพื่อนร่วมคณะรีบพาโจ้ส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นโจ้ได้สะอึก สำลักเลือดออกมาเป็นระยะ แพทย์ได้ระดมทีมช่วยชีวิตกันอย่างสุดความสามารถ แต่ 3 ชั่วโมงที่โจ้ต้องต่อสู้กับเงื้อมหัตถ์ของมัจจุราช ในที่สุดโจ้ก็จากไปเมื่อเวลาประมาณ03.30 น. ...เช้ามืดของวันที่ 26 ตุลาคม หนึ่งในคณะตลก ผู้ร่วมนำโจ้ส่งโรงพยาบาลกล่าวว่า หลังจากที่นำโจ้เข้าห้องไอซียูแล้ว ก็ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. แต่กว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงโรงพยาบาลเพื่อดูเหตุการณ์และสอบปากคำ ปาเข้าไปตี 1 เศษ
ภาพทำแผนฯ มือโหด"ปลิดชีพ" โจ้ ม๊กจ๊ก
+++โปรดคลิกเพื่ออ่านข่าวหน้าถัดไป +++
โจ้จากไปก่อนเวลาอันสมควร ทิ้งลูกสาว...น้องเจนนี่วัยเพียง 1 ขวบเศษ และจอนผู้เป็นภรรยาไว้เบื้องหลั 2 ชีวิตที่เคว้งคว้างหลังเสาหลักของครอบครัวล้มครืนในชั่วข้ามคืนเดียว ด้วยความคะนองและไร้สำนึกของคนร้ายผู้ก่อเหตุ ซึ่งพูดได้เพียงแค่ว่า ..."เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ย้อนเวลาไปได้คงไม่ทำ" ... แต่แม้จอนและครอบครัวของโจ้อยากย้อนเวลาไปใจจะขาด หากมิอาจทำได้ พวกเขาต้องเผชิญกับความเศร้าโศกเสียใจอย่างมหาศาล ...อาชีพตลกของลูกผู้ชายตัวเล็ก แต่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่นี้ ต้องการเพียงคนดูมีความสุข สนุกสนาน รอยยิ้มติดมุมปากของคนดู ถือเป็นกำนัลล้ำค่าแด่ตลกอย่างโจ้ หวังแต่เพียงว่า ขอให้ความดีที่โจ้ทำมาตลอดชีวิต ส่งให้โจ้ไปสู่สัมปรายภพ สุข สงบ สว่าง และไร้กังวลต่อเบื้องหลังใดๆ
"โจ้ ม๊กจ๊ก" - หรือสมชาย จันเจือ ไม่ใช่เหยื่อบริสุทธิ์รายแรกบนถนนหลวง ... ไม่ใช่เครื่องสังเวยความห่ามคะนองรายแรกที่สูญเสีย ... ตราบใดที่ยังมีปีศาจในคราบคน คอยจ้องดักทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อหวังเพียงความสาแก่ใจ หรือหวังในทรัพย์สิน แต่ประชาชนตาดำๆ คงจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าฝากความหวังไว้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบ จับคนผิดมาลงโทษอย่างจริงจัง เพื่อให้คนที่คิดจะทำเกรงกลัว เข็ดหลาบ รวมทั้งตรวจตราเอาใจใส่ท้องที่ของตัวเอง มิให้มิจฉาชีพมาทำร้านประชาชนบริสุทธิ์ได้ ... หวังให้ "โจ้" เป็นรายสุดท้าย อย่าให้ครอบครัวใดต้องสูญเสียอีกเลย
เลขที่บัญชีของ "จอน ม๊กจ๊ก" ภรรยาของ "โจ้"
ศุภาพิชญ์ บัวติ๊ก
ธนาคารทหารไทย สาขาอ้อมน้อย
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 138 - 206595 - 9
ภาพทำแผนฯ มือโหด"ปลิดชีพ" โจ้ ม๊กจ๊ก
