"รถเมล์สาย 85" ชนอดีตผู้ช่วย อ.ใหญ่โรงเรียนชื่อดัง ก่อนทับร่างดับสยอง เผย "คนตาย"เดินข้ามถนนตอนรถติดไฟแดง แต่สัญญาณไฟเขียวเสียก่อนเลยข้ามไม่พ้น "คนขับ" อ้างไม่รู้ตัวว่าขับชนคนจนมีรถขับตามมาบอกว่าชนคนตาย เลยหยุดมาดู "สามี" อดีตทหารยศ พล.ต.รุดดูศพ ร่ำไห้บอก “เตือนแล้วว่าอย่ามา” เผยคนตายมีศักดิ์เป็นอาสะใภ้ รองผกก.สส.สน.พระโขนง-อดีต ผกก.สน.สุวินทวงศ์
เมื่อเวลา 12.45 น.วันนี้ (3 ต.ค.) ร.ต.อ.สุพจน์ ชายป่า ร้อยเวร สน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุรถประจำทางชนคนเสียชีวิตบริเวณแยกพาหุรัด ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
เมื่อไปถึงพบรถประจำทางสาย 85 สีขาวน้ำเงิน หมายเลขข้างรถ 4 หมายเลขทะเบียน 11-6034 กทม วิ่งระหว่างแจงร้อน-หัวลำโพง ซึ่งเป็นรถของบริษัทเทลเลอร์ทรานสปอร์ต จอดอยู่ ด้านหลังรถพบศพหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ นางเอมอร สัตตบุศย์ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/32 ถนนเศรษฐศิริ แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต อดีตผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนปทุมคงคา สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อสีเลือดหมูลายเถาวัลย์ สวมกระโปรงสำดำ ที่ลำคอหักตามร่างกายพบแผลถลอก และมีแผลฉกรรจ์ที่ใต้คาง ที่มือและขาด้านซ้าย
จากการสอบสวนนายพรพงษ์ ไทยวงษ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/51 หมู่ที่ 6 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ พนักงานขับรถคันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เขาได้ขับรถรับผู้โดยสารจากแจงร้อนมาตามทาง โดยภายในรถมีผู้โดยสารประมาณ 50-60 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณแยกพาหุรัด ได้จอดติดสัญญาณไฟแดงอยู่ ซึ่งรถคันของเขาเป็นคันที่ 4 ใกล้กันมีคนรอข้ามถนนจากฝั่งพาหุรัดไปฝั่งสำเพ็ง อยู่ประมาณ 10 คน เมื่อมีสัญญาณไฟเขียว ก็ออกรถตามรถคันหน้าทันทีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นมีรถปิคอัพที่ขับมาข้างๆ ร้องเรียกให้จอดรถ จึงจอดรถลงมาดูก็พบเห็นผู้เสียชีวิตแล้ว
ด้านนางสุดา พุดสตะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ซอยตากสิน 9 ถนนตากสิน แขวงและเขตบุคคโล กทม. พนักงานเก็บเงินของรถคันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่รถติดไฟแดงอยู่นั้น เขาก็ได้ยืนอยู่ที่กลางรถ โดยเห็นคนตายเดินเลียบทางเท้ามาหยุดอยู่ในกลุ่มของคนที่รอจะข้ามถนน เมื่อสัญญาณไฟเขียว รถของเขาก็ได้ขับออกไป โดยไม่ได้เห็นผู้ตายยืนอยู่ในกลุ่มนั้นแล้ว แต่เมื่อรถขับออกมาได้ประมาณ 30-40 เมตร ก็มีรถปิคอัพขับมาแล้วบีบแตร พร้อมกับตะโกนบอกให้หยุด โดยบอกว่ารถของเขาชนคนตาย จึงบอกให้คนขับรถจอดแล้วลงมาดู
ต่อมาเวลา 14.30 น.พล.ต.คำรณ สัตตบุศย์ อายุ 81 ปี อดีตผู้ชำนาญการกองทัพบก สังกัด กอ.รมน. สามีผู้ตาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้เดินทางออกจากบ้านพักมาพร้อมกับภรรยา โดยแวะทานอาหารที่ห้างดิโอลสยามพลาซ่า จากนั้นภรรยาได้บอกว่า ให้รออยู่ที่ห้างดังกล่าว โดยผู้ตายจะข้ามถนนไปซื้อเสื้อผ้าที่แยกวัดตึก ซึ่งได้สอบถามว่า เดินไหวหรือไม่เพราะภรรยาเป็นแผลที่ขา ซึ่งก็ได้เตือนแล้วว่าอย่าไปเลย แต่ภรรยาก็ยืนยันว่าจะไป จึงเตือนให้ระวังรถด้วยเวลาข้ามถนน จากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง รู้สึกผิดสังเกตว่า ทำไมภรรยาไม่กลับมาเสียที ต่อมาเด็กในบ้านฟังรายการวิทยุและได้ยินว่า ภรรยาถูกรถทับเสียชีวิต ศพอยู่ที่ สน.พระราชวัง จึงรีบเดินทางมาดู
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาขับรถประมาทเฉี่ยวชนให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยยังไม่ให้มีการประกันตัว และได้ตั้งวงเงินประกันไว้ 180,000 บาท ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ตายมีศักดิ์ เป็นอาสะใภ้ของ พ.ต.ท.เชิดชาย สัตตบุศย์ รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง และ พ.ต.อ.วรพงษ์ สัตตบุศย์ อดีต ผกก.สน.สุวินทวงศ์